ซอมบี้แลนด์ แก๊งซ่าส์ล่าล้างซอมบี้ รีวิวหนัง
ประเภท : สยองขวัญ / คอมเมนดี้ / ซอมบี้
ปีที่ฉาย : 2009
เวลา : 1.28 ชั่วโมง
IMDb: 7.6 /10
หนังภาคต่อที่ห่างจากภาคแรกอย่าง Zombieland (2009) ถึง 10 ปีเต็ม โดยได้ทีมงานสร้างและนักแสดงชุดเดิมกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา รีวิวหนังnetflix ไล่ตั้งแต่ผู้กำกับ รูเบน เฟลชเชอร์ (Ruben Fleischer) ที่ภายหลังจากหนังภาคแรกผ่านไปเขาก็ไปจับหนังแนวอาชญากรรมสนุกๆทั้งยัง 30 Minutes or Less (2011) รวมทั้งหนังแก๊งสเตอร์ดราม่ารวมดาวอย่าง Gangster Squad (2013) ตลอดจนได้ไปจับหนังซูเปอร์ฮีโรวายร้ายอย่าง Venom (2018) มาแล้ว
ก่อนที่จะหวนกลับมาสานต่อหนังที่สร้างชื่อให้เขาอีกครั้งใน Zombieland Double Tap นี่เอง ซึ่งพวกเราก็ได้เห็นถึงพัฒนาการเล่าเรื่องของเขาที่มองแน่นขึ้นมีการวางจุดพลิกผันที่สนุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งว่าภาคแรกใช้เวลาแนะนำคาแรกเตอร์ตัวละครไปจนชัดเจนแล้ว พอมาภาค 2 นี้ก็เลยไม่ต้องเยิ่นเย้ออีกต่อไป เรียกว่าดันเรื่องลุยกับจักรวาลที่ลงตัวมากขึ้นแล้วให้สนุกใส่อีสเตอร์เอ้ก ใส่มุกเล็กมุกใหญ่ได้สบายมือ โดยหนังยังคงเล่นกับกฎของการเอาชีวิตรอดที่กลุ่มตัวละครบัญญัติกันขึ้นมา แล้วก็ชื่อของหนังภาค 2 นี้ก็เอามาจากกฎข้อ 2 ในหนังภาคแรกที่ว่า “Double Tap จงยิงย้ำ 2 นัดถ้าไม่แน่ใจว่าซอมบี้ตายจริงหรือไม่” นั่นเอง
เรื่องย่อ
หนังสยองขวัญ Zombieland ซอมบี้แลนด์ แก๊งซ่าส์ล่าล้างซอมบี้ เป็นเรื่องราวของ “โคลัมบัส” นักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ซอมบี้ล้างโลกทำให้จำเป็นต้องพยายามเอาชีวิตรอดตามลำพัง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาจำเป็นต้องร่วมมือกับคนแปลกหน้าสามคนเพื่อเดินทางผ่านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อไปยังสถานที่หลบภัย ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี
จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง
หนังสยองขวัญ Zombieland 3 2021 จัดอยู่ในกลุ่มของ “หนังสยองขวัญสุดมัน” ที่เรียกได้ว่ามีการสอดแทรกอารมณ์ขันเข้าไปกับทุกฉากได้อย่างลงตัว ทำให้หนังเรื่องนี้มีครบเครื่องทุกรสชาติทั้งตลก ดราม่า สยองขวัญและน่ากลัว (บ้างในบางครั้ง) ท่ามกลางการกำกับเล่าเรื่องราวด้วยจังหวะที่ดีไม่เร็ว ไม่ช้าจนเกินไป
บรรดานักแสดงนำในหนังสยองขวัญ ทำผลงานออกมาได้ดี พวกเขาดึงบทบาทของตัวละครที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาได้เป็นอย่างดี แถมยังมีกฎเกณฑ์ในการเอาชีวิตรอดสุดฮา ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ในส่วนของจุดด้อย ถ้าพูดกันแบบไม่อวยหนังสยองขวัญเรื่องนี้ ถือว่ามีพล๊อตเรื่องที่ค่อนข้างซ้ำซากจำเจ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่แตกต่างจากหนังซอมบี้ทั่วไปนัก เพราะจุดมุ่งหมายจริง ๆ ก็เป็นเพียงแค่การพยายามเอาชีวิตรอดและเดินทางไปยังสถานที่หลบภัยเท่านั้น แต่จุดด้อยนี้ก็ถูกถมด้วยการพยายามเอาชีวิตรอดระหว่างทางที่ค่อนข้างหลุดโลกสุดฮานั่นเอง
โดยรวมแล้วหนังสยองขวัญ Zombieland: Double Tap 1 น่าดูหรือเปล่า!?
สำหรับผู้เขียน หนังสยองขวัญ Zombieland ถือว่าเป็นหนังซอมบี้แนวคอมเมนดี้ที่เรียกได้ว่าสนุกสนานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เรื่องพยายามเอตัวรอดจากซอมบี้ที่แสนน่าสะพรึงอันน่าย่อมเป็นของตายอยู่แล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังเต็มไปด้วยมุกตลก รวมไปถึงฉากแอคชั่นที่เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีมาก
ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังมองหนังซอมบี้ที่ไม่ได้เน้นความสองขวัญมากมาย แถมยังนำมารับชมรวมกันได้กับทั้งครอบครัวล่ะก็ ขอแนะนำเลยว่าหนังสยองขวัญ Zombieland ซอมบี้แลนด์ แก๊งซ่าส์ล่าล้างซอมบี้จะเป็นหนึ่งในหนังที่ไม่ทำให้ผิดหวังกันอย่างแน่นอน
ซอมบี้แลนด์ แก๊งซ่าส์ล่าล้างซอมบี้ รีวิวหนัง
สำหรับด้านบท นี่ยังเป็นการขนทีมเขียนบทเดิมอย่างสองคู่หู เรต รีส (Rhett Reese) และ พอล เวอร์นิก (Paul Wernick) คู่กาวสายฮาที่ก่อกำเนิดหนังมัน ๆ อย่าง Deadpool ทั้ง 2 ภาคมาแล้ว แถมสมทบทีมเขียนบทเพิ่มด้วย เดฟ คัลลาแฮม (Dave Callaham) ที่เขียนบทให้แฟรนไชส์ The Expendables และกำลังมีผลงานบทหนังซูเปอร์ฮีโรใหญ่ยักษ์จาก 3 ค่ายใหญ่ให้ชมในอนาคตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Wonder Woman 1984 ของวอร์นเนอร์ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ของมาร์เวลสตูดิโอ และ Spider-Man: Into the Spider-Verse 2 ของโซนี่ด้วย เรียกว่าทีมบทนี่แน่นแข็งปั๋งเอามาก ๆ คาดหวังในทางแอ็กชันผสมตลกร้ายมุกพรั่งพรูแบบ Deadpool ได้เลยล่ะ
ซึ่งก็ส่งผลให้หนังมีอารมณ์แบบเน้นฮาเข้าว่า ปล่อยมุกไม่ยั้ง ฮามากฮาน้อยไม่ซีเรียสขอได้ปล่อยของ หลายมุกอาศัยความเนิร์ดหนังแบบพอปคัลเจอร์พอสมควร ถ้าเข้าใจหมดนี่คือกำไรผู้ชมล้วน ๆ และน่าสนใจว่ากระจายบทกันได้เด่นทั่วถึงทั้งตัวหลัก 4 คนและตัวรองที่มาเพิ่มก็มีช่วงเวลาน่าจดจำของตัวเองทั้งสิ้น มุกก็มาทั้งล้อหนังภาคแรกที่ว่าด้วยกฎมากมายของตัวเอกอย่าง โคลัมบัส และการเอาดารารับเชิญมาปู้ยี้ปู้ยำที่รอบนี้มีลุก
วิลสัน (Luke Wilson) มาแจมในฉากสั้น ๆ แบบเดียวกับ บิล เมอร์เรย์ (Bill Murray) ในภาคก่อน แต่วิลสันมาฮาสไตล์ล้อเลียนตัวละครหลักที่ขิงใส่กันไปมาได้สนุกปากแทน และสำหรับใครประทับเมอร์เรย์สไตล์ก็ต้องบอกว่าขอให้นั่งรอจนจบเครดิต มันคือฉากจบระดับเดียวกับที่เดดพูลเคยย้อนเวลาไปฆ่าตัวเองในหนัง X-Men Origins: Wolverine (2009) เลยทีเดียว
ด้านนักแสดง
ด้านดารานักแสดง ก็เอากลับมาได้ทั้ง 4 ตัวละครนำในภาคเก่าที่ทุกคนต่างมีชื่อเป็นเมืองในสหรัฐ (เพราะในภาคแรกไม่อยากผูกพันเลยไม่ถามชื่อจริงกัน) ไล่ไปตั้งแต่ วูดดี้ ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson) ในบท แทลลาแฮสซี พี่ใหญ่คาวบอยจอมโหดผู้มีมุมอ่อนไหวอย่างไม่น่าเชื่อ เจสซี ไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg) ในบท โคลัมบัส หนุ่มเนิร์ดที่ผู้ชมหลงรักกับสารพัดกฎการเอาตัวรอดในวันโลกแตกที่ภาคนี้เขานำพาเราไปสู่ก้าวต่อมาของชีวิตคู่ของเขากับตัวละคร เอมมา สโตน (Emma Stone) ในบท วิชิตา สาวสวยจอมแสบนักต้มตุ๋นแฟนสาวของโคลัมบัสที่กลายเป็นเจ้าสาวกลัวฝนในภาคนี้ และที่แปลกตาที่สุดก็คงเป็น อาบีเกล เบรสลิน (Abigail Breslin)
ในบท ลิตเทิลร็อก เด็กสาววัย 13 ปีเมื่อภาคก่อน แต่ตอนนี้โตเป็นสาวรุ่นแสบเซี้ยวที่โหยหาโลกกว้างและพยายามหนีความรักแบบไข่ในหินของแทลลาแฮสซีจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต เราจะเห็นพัฒนาการความเป็นครอบครัวของทั้ง 4 ตัวละครชัดขึ้น แม้จะไม่ได้แปลกใหม่ในหนังแนวตลกครอบครัว แต่สำหรับแฟนหนังแฟรนไชส์นี้ก็ต้องบอกว่าเป็นก้าวการพัฒนาของตัวละครสุดรักที่น่าจดจำทีเดียวล่ะ
แถมภาคนี้ยิ่งเพิ่มดีกรีตัวละครรองด้วยสาวสวย โซอี ดุตช์ (Zoey Deutch) จากหนัง Before I Fall (2017) ในบท แมดิสัน สาวบลอนด์สไตล์สุดน่ารักได้อย่างขโมยซีนชาวบ้านชาวช่องมาก เรียกว่าบทสาวติ๊งต๊องซ่อนเปรี้ยวของเธอเปิดโอกาสให้ปล่อยมุกได้เยอะกว่าชาวบ้านมากทีเดียว เธอน่าจะเป็นตัวละครสำคัญได้ในอนาคตถ้ามีการทำภาคหน้าน่ะนะ ดูหนังซอมบี้ แลนด์ ภาค 3
ซอมบี้แลนด์ แก๊งซ่าส์ล่าล้างซอมบี้ รีวิวหนัง
เรื่องงานภาพก็ต้องขอจดไว้ตรงนี้เลยเพราะเป็นอีกครั้งที่หนังฮอลลีวูดเลือกใช้ผู้กำกับภาพเอเชีย โดยครั้งนี้คือ ชอง ชองฮุน (Chung Chung-hoon) ผู้กำกับภาพคู่บุญที่ถ่าย Oldboy (2003) ให้ผู้กำกับ ปาร์ก ชานวุก (Park Chan-wook) และหนังหลังจากนั้นเรื่อยมา จนมีโอกาสโกอินเตอรใน Stoke (2013) และยังได้ถ่ายหนังงานภาพเด่น ๆ อย่าง It (2017) ด้วย ก็น่าภูมิใจไม่น้อยนะ แม้ว่าเอาเข้าจริงแนวหนังมันก็ไม่ได้ต้องเน้นเรื่องภาพมากนัก แต่เราก็ได้เห็นครีเอทีฟในการเล่นกับกล้องที่หลากหลาย และส่งเสริมกับการตัดต่อจังหวะตลกที่ดีอยู่เหมือนกัน มีเรื่องติงที่ว่างานซีจีอาจไม่ได้เน้นมากนักมีหลุด ๆ การ์ตูน ๆ อยู่หลายฉากทีเดียว
และเพราะตัวละครเจนจัดในโลกที่สร้างไว้ในภาคแรกแล้ว เรียกว่าไม่ค่อยกลัวซอมบี้ธรรมดากันแล้ว ภาคนี้เขาเลยอัปเกรดเหล่าซอมบี้ด้วยซอมบี้หลากหลายประเภทเข้ามาสร้างความวุ่นวายอีก ไม่ว่าจะ ประเภทโฮเมอร์ (ตัวละครในซิมป์สัน) ที่จะไม่ค่อยฉลาดนัก ประเภทฮอว์กิง (จากอัจฉริยะสตีเฟน ฮอว์กิง) ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ประเภทนินจา ที่จะเคลื่อนไหวเงียบเชียบและโจมตีว่องไว ซึ่งจริงๆ
น่าสนใจแต่เอามาใช้ในหนังน้อยไปหน่อย สุดท้ายคือซูเปอร์ซอมบี้ประเภทถึกอึดทน T-800 ซึ่งล้อจากรุ่นคนเหล็กในหนัง The Terminator นั่นเอง แน่นอนว่าประเภทหลังนี่คือเดินหน้าฆ่าไม่ตายด้วยและเป็นประเภทที่หนังเอามาใช้งานเยอะสุด เพื่อสร้างความตื่นเต้นลุ้นให้ตัวละครที่เก่งเว่อไม่ค่อยกลัวซอมบี้จากภาคแรกแล้วนั่นเอง จึงทำให้หนังเรื่องนี้มีทั้งความฮาและฉากแอ็กชันผสมอยู่แบบหนังโปรแกรมใหญ่อย่างลงตัว และน่าจะเป็นแฟรนไชส์ที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับภาคก่อนหน้าที่ดูเป็นแค่หนังทุนกลางค่อนต่ำขายไอเดียเท่านั้น ซอมบี้แลนด์ 2 imovie