รีวิวซีรี่ย์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน
กำกับ: ฮันฮี, ลี ซองจุน
เขียนบท: ชาง ยองชอล, ชอง คยองซุน
แนวละคร: โรแมนติก, เมโลดราม่า, อิงประวัติศาสตร์
รีวิวหนัง กีซึงนัง จักรพรรดินีสองแผ่นดิน (อังกฤษ: Empress Ki) ละครโทรทัศน์เกาหลีแนวย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์จาก สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี นำแสดงโดย ฮา จี-ว็อน จี ชัง-อุก และ จู จิน-โม ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 และออกอากาศตอนสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 มีความยาวทั้งสิ้น 51 ตอน
ในประเทศไทยทาง ช่อง 3 ได้ซื้อลิขสิทธิ์ละครเรื่องนี้จากเอ็มบีซีมาออกอากาศทาง ช่อง 3 แฟมิลี่ โดยออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
เนื้อหาของละครเรื่องนี้ดัดแปลงจากพระราชประวัติของ จักรพรรดินีคี จักรพรรดินีองค์สุดท้ายแห่ง ราชวงศ์หยวน โดยเล่าถึง กีซึงนัง (ฮา จี-ว็อน) หญิงสาวชาวโครยอที่มีเหตุให้เธอต้องไปอภิเษกเป็นจักรพรรดินีของ จักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง (จี ชาง-อุค) แต่เธอก็ไม่เคยลืมรักแรกอย่าง วังยู (จู จิน-โม) รีวิวซีรี่ย์netflix
Empress Ki เป็นซีรีส์ความยาว 51 ตอน ที่ถึงแม้จะยาว แต่ รับประกันความเข้มข้น ครบรส ครบทุกอารมณ์ ตัวละครทุกตัวมีเหตุผลในการกระทำ ดูแล้วได้ข้อคิดมากมาย ปมหลักคือเรื่องความรักสามเศร้าที่นำมาซึ่งความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นที่สมหวังในรักหรือผิดหวังก็ตาม ประทับใจการแสดงของนักแสดงทุกคนมาก โดยเฉพาะ จีชางอุค เรียกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานสร้างชื่อให้กับจีชางอุคอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของ องค์ชายโทกอน ให้คนดูรับรู้ได้เป็นอย่างดี ในเรื่ององค์ชายโทกอนเป็นคนอ่อนแอ ด้อยความสามารถ แต่เมื่อเขามีความรัก แม้ว่ามันจะเป็นรักที่ไม่สมหวังหรือรักที่ตั้งอยู่บนความหวาดระแวง กลัวว่านยังจะทิ้งตนไป แต่เขาก็พร้อมจะปรับปรุงตัวเองและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่รัก
เรื่องย่อ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน
เรื่องย่อ ละคร “กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน (Empress Ki)” นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเรืองอำนาจในยุคปลายของมองโกลราชวงศ์หยวนเป็นเวลานานกว่า 30 ปี เธอไม่ได้เป็นชาวมองโกลและไม่มีเชื้อสายชาวฮั่น หากเป็นสตรีชาวโครยอซึ่งเป็นอาณาจักรเล็กๆ ในแถบตะวันออกไกล มิหนำซ้ำ เธอยังเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่ถูกราชสำนักโครยอจับไปเป็นบรรณาการแก่ราชวงศ์หยวนอีกด้วย แต่สุดท้ายหญิงต้อยต่ำอย่างเธอกลับได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์หยวน และชื่อของเธอก็คือ “จักรพรรดินีกี” เว็บดูหนัง,ดูหนัง,เว็บหนัง
รีวิวซีรี่ย์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน
สิ่งที่ปิดกั้นคนดูซีรีส์ยุคใหม่อย่างดูไปบ่นไปในการตัดสินใจดูซีรีส์พีเรียดย้อยยุครุ่นเก่าสักเรื่องส่วนหนึ่งคงจะเป็นจำนวนตอน เพราะซีรีส์ที่เดินทางข้ามเวลามาเกินสิบปีมักจะมีความมากด้วยจำนวนตอนจนกระทั่งเห็นแล้วสยดสยอง แต่สิ่งที่สามารถทำให้ความสยองนั้นกลายเป็นสิ่งที่มองข้ามผ่านได้คือความเข้มข้นของเนื้อหา ลูกเล่น ชั้นเชิงของยุคสมัยหรือตามเวลาที่ออกฉาย ด้วยเนื้อหาที่เล่ากันง่ายๆซื่อๆตรงๆและการขีดเส้นแบ่ง
ทางหัวใจในมิติตัวละครทำให้เข้าถึงง่ายไม่ต่างจากละครหลังข่าวที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น แต่การเขียนบทที่ละเอียดและความสมจริงในเหตุการณ์ที่เล่าซึ่งต้องยอมรับว่าคนดูอาจไม่รู้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงยิ่งทำให้เร้าใจ จนทำให้จำนวนตอนที่มากมายทำอะไรไม่ได้พร้อมกับการไปต่อลำบากเพราะหาทางออกจากวังไม่เจอ และเมื่อผู้เขียนได้ผ่านการดูซีรีส์ทงอี จอมนางคูบัลลังก์ (2010) ที่มีหกสิบตอนมาได้ห้าสิบเอ็ดตอนของเรื่องนี้จึงมิใช่ปัญหา
กับตำนานของหนึ่งสตรีชาวโครยอที่กลายมาเป็นจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์หยวนนามว่ากีซึงนัง (ฮาจีวอน) ผู้มีจุดกำเนิดจากการเป็นบุตรของสตรีโครยอที่ถูกจับไปเป็นนางกำนัลให้กับราชสำนักหยวน แล้วได้เห็นแม่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมจากทหารหยวนแต่โชคชะตาทำให้ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการแสร้งเป็นบุรุษ แต่ยุคสมัยแห่งราชวงศ์โครยอตอนนั้นกำลังอ่อนแอเพราะความฉ้อฉลของเชื้อเพราะวงศ์บางคนและการคอร์รัปชั่นของขุนนางขี้ฉ้อ โครยอจึงมิต่างจากเมืองขึ้นของหยวนที่พระราชาวังยู (จูจินมู) ผู้มุ่งมั่นก็มิอาจต้านทาน และถูกปลดจากราชบัลลังก์เพื่อส่งองค์รัชทายาทผู้ถูกเนรเทศ (จีชางอุค) กลับไปครองราชย์เป็นองค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวน แต่เมื่อจักรพรรดิอ่อนแอและแผ่นดินหยวนมีขุนนางขี้ฉ้อครอบงำองค์จักรพรรดิในการปกครองแผ่นดิน และยังมีพระพันปีที่จ้องจะมีอำนาจเหนือราชบัลลังก์ไม่ต่างกัน กีซึงนังและอดีตพระราชาวังยูจึงต้องมาเกี่ยวพันกับการแย่งชิงนี้
กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน ซีรี่ย์ย้อนยุคที่ไม่ควรพลาด
รีวิวซีรี่ย์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน เมื่อนี่คือซีรีส์ในอดีตที่ผ่านเวลามาแล้วแปดปีสิ่งที่พึงมีในความเป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่มีมาก่อนหน้านี้ก็ยังคงมี และเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปทำให้งานตามสูตรยังได้ผลและคนดูติดงอมแงมแม้ว่าจะมาดูตอนนี้ ก็ใช่ที่เมื่อดูแล้วยังเห็นว่ามีการใส่อะไรเข้าไปให้เหมือนเป็นส่วนเกินทำให้บางเรื่องบางประเด็นดูยืดเยื้อจนจำนวนตอนทะลุไปถึงครึ่งร้อย ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจากงานที่ออกฉายมาก่อนหน้านั้นในแนวนี้ และสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้เป็นงานดีที่ครองใจคนดูและกลายเป็นงานที่ทรงคุณค่าก็เพราะเหตุผลเหล่านี้ หนึ่งคือบทที่ละเอียดละเมียดทำให้พื้นฐานตัวละครมีความลึกจนทำให้คนดูเชื่อได้ในทุกตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นเรื่องของโชคชะตาที่แปรผันมิติตัวละครที่พื้นฐานลึกและแน่นจะช่วยให้คนดูเห็นจุดเปลี่ยนแม้ว่าบางเรื่องอาจไม่เต็มร้อย เช่นทำไมกีซึงนังที่เป็นนักสู้ที่เก่งตอนปลอมเป็นชายแต่บางครั้งกลับสู้ไม่ได้ ซึ่งต้องเข้าใจว่ามันคือเหตุผลต่อไป
สองคือบทขีดเส้นความรักความชังชัดเจนให้ตัวละครไม่มีเทามีแต่ขาวกับดำ ซึ่งมันเนื่องจากจากเหตุผลก่อนหน้าเพราะบทละครต้องการให้คนดูสงสารเห็นใจฝ่ายดีอย่างกีซึงนัง , วังยู และองค์จักรพรรดิด้วยการโหมกระหน่ำให้ฝ่ายดีถูกกระทำอยู่เรื่อยแบบไม่มีเวลาให้พักหายใจ ซึ่งมันส่งผลให้คนดูรู้สึกเอาใจช่วยแม้จะรู้ทั้งรู้ว่ากีซึงนังจะเอาตัวรอดไปได้แต่คนดูก็ยังอยากรู้ว่าจะเป็นได้อย่างไรจนคนดูเทใจให้ทั้งหมด สามคือตัวละครฝ่ายดีสู้ทุกดอกและสู้ได้ทำให้เห็นการหักเหลี่ยมเชือดเฉือนที่เร้าใจลุ้นไปได้ตลอดทางการต่อสู้ของกีซึงนัง ประกอบกับระยะเวลาการให้รางวัลกับคนดูค่อนข้างยาวทำให้อารมณ์คนดูหงุดหงิดในการต่อสู้ที่ไม่จบไม่สิ้น แต่นั่นกับทำให้เกิดความอยากรู้ว่าชะตากรรมของคนร้ายพวกนี้จะเป็นอย่างไรเพราะเส้นความรังเกียจถูกขีดหนาไว้ใต้ตัวละครฝ่ายร้าย และเช่นดียวกันตัวละครฝ่ายดีก็กลายเป็นน่าเห็นใจและเอาใจช่วยเต็มที่ทำให้สะกดอารมณ์ กีซึง นั ง จอมนางสองแผ่นดิน 52
สามคือความอลังการที่ดึงดูดสายตาด้วยภาพมุมกว้างของฉากและเสื้อผ้าหน้าผม ส่งเสริมให้ตัวละครดูดีมีสง่าน่ามองเพราะนี่คือเรื่องของราชวงศ์และพระราชวังความอลังการจึงช่วยได้ แม้ว่าบางฉากบางสถานที่ยังดูคุ้นตาแต่การใช้มุมกล้องก็ช่วยได้ในฉากที่ต้องการทำให้บางฉากดูตื่นตาเพราะความแปลกตา แล้วเสริมด้วยเพลงประกอบที่ออกแนวปลุกเร้าและรีดเค้นอารมณ์ยิ่งทำให้อารมณ์ที่ถูกสะกดรู้สึกลึกไปกับตัวละครเพราะดราม่าก็มาบ่อยเนื่องจากระยะทางเล่าที่ยาว สี่คือเรื่องน้ำเน่าที่เล่ามาจนคุ้นเคยแต่ด้วยความที่บทออกมาไม่ดูเชยเลยเข้าถึงง่าย เพราะเรื่องนี้คือเรื่องของเกมอำนาจและการช่วงชิงการมีอำนาจเหนือราชบัลลังก์ที่เหมือนเป็นของตายที่ซีรีส์หรือละครแนวนี้ต้องมี แต่ด้วยความที่บทเล่าได้อย่างละเอียดตั้งแต่แรกทำให้เข้าถึงง่าย และการที่ตัวละครไม่โง่ก็ทำให้บทออกมาไม่ล้าสมัยจนจนเกินไปเรื่องที่เล่ามาแล้วซ้ำๆจึงยังคงได้ใจ
และสุดท้ายนักแสดงที่มีเสน่ห์และการแสดงที่จัดการได้ทุกอารมณ์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้คือเรื่องของกีซึงนังความหลากหลายในตัวละครและพลังหลักต้องเป็นตัวละครกีซึงนัง และนักแสดงที่เสน่ห์จัดจ้านอย่างฮาจีวอนคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องแน่นอน ฮาจีวอนมอบบุคลิกที่สวยสง่าในเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เฉิดฉายสมกับการเป็นจักรพรรดินี ทั้งการที่เธอมอบมิติที่ถูกกำหนดได้อย่างไม่มีที่ติตั้งแต่เริ่มและมีพัฒนาการทั้งทางกายภาพ บุคลิก และหัวใจที่เป็นจุดเปลี่ยนข้างใน ฮาจีวอนมอบการแสดงที่เห็นได้ชัดเจนในทุกมิติที่เปลี่ยนแปลงของตัวละครที่เปลี่ยนจากหญิงสาวธรรมดาที่มีความแค้น มีความรัก พบความสูญเสีย จนเดินหน้าเข้าสู่วังวนของการแก่งแย่งอำนาจได้อย่างเนียนๆด้วยความสุขุมยากต่อการอ่านใจ และแน่นอนฮาจีวอนในเปลี่ยนผ่านจากบทนัง มาเป็นซึงนัง มาสู่กีนัง มาถึงพระสนมกี จนสุดท้ายเป็นจักรพรรดินีกีได้ชนิดที่คนดูเทใจให้ทั้งกระบุง
รีวิวซีรี่ย์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน
แต่ใช่ว่าตัวละครอื่นจะแสดงได้ไม่ดีหรือเป็นจุดอ่อน ตัวละครแถวแรกยังได้รับการถ่ายทอดอย่างไม่มีที่ติเช่นเดียวกันทั้งจูจินมูกับจีชางอุคที่เป็นตัวแปรที่ยอดเยี่ยมในเรื่องของหัวใจ หรือกระทั่งตัวละครอื่นๆที่เป็นตัวกำหนดความเร้าใจในทุกเรื่องราวที่ถูกขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนในมิติทางใจคนดูก็ล้วนให้การแสดงที่สมบูรณ์ เพราะที่ควรรักก็รักที่ควรเกลียดก็เกลียดหรือคนที่ควรรังเกียจก็รังเกียจไปเลย ซึ่งถ้านับกันที่นักแสดงในบทเด่นที่เป็นแถวหน้าที่รับบทบาทในการจัดการอารมณ์ทุกคนให้การแสดงที่คุ้มค่า แต่เมื่อมันคือเรื่องใหญ่รายละเอียดเยอะตัวละครแถวสามเป็นต้นไปเลยกลายเป็นไม่สมบทบาท แต่เมื่ออารมณ์ของคนดูไปสู่จุดที่บทต้องการแล้วเรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่กลายเป็นของประกอบฉากไม่มีส่วนร่วมกับอารมณ์คนดูก็นับว่ามองข้ามไปได้ เพราะเจตนาของบทคือเร้าใจ บีบคั้นทางอารมณ์ และทำให้เรื่องน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ กีซึงนัง นักแสดง
การที่จะกลายเป็นงานที่ทรงคุณค่าหรือกลายเป็นตำนานอาจไม่ใช่เพราะความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเพราะงานนั้นสามารถครองใจคนดูและได้รับการกล่าวขานจึงกลายเป็นตำนานได้ เช่นกันกับเรื่องนี้ยังมีอะไรไม่จำเป็นอยู่บ้างทำให้ยืด บางตัวละครก็ถูกหลงลืมไปอย่างไม่น่าเชื่อ หรือกระทั่งความต่อเนื่องเนียนตาก็ยังมีบ้างที่ดูโดดหรือการลากยาวไปจนคนดูล้าที่จะรอรางวัลที่สาสมใจ ความจงใจสะกดอารมณ์เลยทำให้ไม่มีช่วงที่ผ่อนคลาย เรื่องเหล่านี้คือรอยแผลที่เห็นได้ในงานชื้นนี้แน่นอนเพราะนี่ไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบ แต่ที่ทำให้กลายเป็นตำนานเพราะการเล่าเรื่องที่อาจดูเอื่อยในเรื่องไม่จำเป็นบ้างแต่ไปได้เรื่อยๆและมีพลังพอ ทำให้เรื่องนี้คือความสนุกและถึงอารมณ์คนดูเพราะคนดูมอบใจให้ตัวละครด้วยชั้นเชิงแบบเก่าที่เข้าถึงง่าย จนเมื่อหัวใจคนดูได้รับทุกอารมณ์ที่พึงได้จากเรื่องนี้ที่ไม่ได้จบสวยอย่างที่เคย คนดูก็พร้อมจะประทับใจและบอกต่อกันมาว่า นี่คืองานทีทรงคุณค่าที่คู่ควรดู
ข้อมูลประวัติ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน
รีวิวซีรี่ย์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน ข้อมูลทางประวัติศาสตร์: “จักรพรรดินีกี” หรือ “ฉีฮองเฮา” ในภาษาจีน และ “สมเด็จพระจักรพรรดินีโอลชีคูตูค” ในภาษามองโกลเลีย เป็นหนึ่งในฮองเฮาของ “ทอคอนเตมูร์” หรือ “จักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง” (จักรพรรดิองค์ที่ 12 และองค์สุดท้ายของราชวงศ์หยวน) และพระมารดาขององค์ชาย “อายูร์ชีรีดาร์” หรือ “จักรพรรดิหยวนเจ้าจง” ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนเหนือ กีซึงนัง ประวัติ
เธอเป็นสตรีชาวโครยอที่เกิดในครอบครัวขุนนางระดับล่าง มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ “กีชอล” ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เด็กชายและเด็กสาวชาวโครยอจำนวนมากได้ถูกส่งไปเป็นบรรณาการให้มองโกลราชวงศ์หยวน โดยเด็กชายถูกส่งไปเป็นขันที ส่วนเด็กสาวถูกส่งไปเป็นนางกำนัลและพระสนม (พระราชาโครยอต้องส่งหญิงบรรณาการไปให้ราชสำนักหยวนทุกๆ 3 ปี) จักรพรรดินีกีก็เป็นหนึ่งในเด็กสาวที่ถูกส่งไปเป็นบรรณาการให้ราชสำนักหยวน ในตอนแรกเธอไม่เต็มใจ แต่พอไปถึงต้าหยวนเธอก็ตัดสินใจว่าจะเป็นพระสนมที่ดีและโดดเด่นที่สุด ด้วยความที่มีรูปลักษณ์งดงามกว่าใคร ทั้งยังมีทักษะในด้านการร่ายรำ ขับร้อง เขียนพู่กัน แต่งบทกวี และมีวาทะศิลป์ เธอจึงกลายเป็นพระสนมคนโปรดของทอคอนเตมูร์ (ฮ่องเต้) อย่างรวดเร็ว
ฮ่องเต้หลงรักพระสนมกีและใช้เวลาอยู่กับนางมากกว่า “ทานาชีรี” (ฮองเฮาพระองค์แรก) หลังฮองเฮาทานาชีรีถูกประหารอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการก่อกบฏของ “ทังกีเซ” ผู้เป็นพี่ชาย ฮ่องเต้พยายามแต่งตั้งพระสนมกีเป็นฮองเฮาพระองค์ที่สอง (ในตอนนั้นมี “จักรพรรดินีบายันคูตูค” (หลานของ “บายัน” และน้องสาวของ “ทอคตอ”) ดำรงตำแหน่งฮองเฮาอยู่ก่อนแล้ว) แต่เนื่องจากเป็นการผิดธรรมเนียมปฏิบัติ (ฮองเฮาควรเป็นชาวมองโกล) ราชสำนักจึงไม่เห็นด้วย ประกอบกับ “บายัน” ซึ่งกุมอำนาจในราชสำนัก ณ เวลานั้น และไทเฮาต่างพากันคัดค้าน ฮ่องเต้เลยไม่สามารถแต่งตั้งพระสนมกีขึ้นเป็นฮองเฮาองค์ที่สองได้ แต่หลังจากให้กำเนิดพระโอรสพระสนมกีจึงถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮาองค์ที่สอง หรือ “จักรพรรดินีกี” ในที่สุด
หลังจากนั้นจักรพรรดินีกีก็กลายเป็นผู้เรืองอำนาจอย่างแท้จริง เนื่องจากฮ่องเต้ไม่ค่อยสนพระทัยและไม่โปรดการบริหารบ้านเมือง ผิดกับจักรพรรดินีกีที่มีพรสวรรค์ในด้านการเมืองและเศรษฐกิจอำนาจทั้งหมดจึงตกอยู่ในมือนาง ด้วยความที่โครยอเป็นประเทศราชของราชวงศ์หยวน กีชอลในฐานะพระเชษฐาของจักรพรรดินีกีจึงกลายเป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนักโครยออย่างแท้จริง เป็นที่รู้กันว่ากีชอลนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการฉ้อฉลและอำนาจของเขาก็ทำให้ราชบัลลังก์ของพระราชาสั่นคลอน “พระเจ้าคงมิน” ต้องการปลดแอกโครยอจากราชวงศ์หยวนจึงทำการยึดอำนาจและกวาดล้างอิทธิพลของตระกูลกีในโครยอโดยสังหารคนตระกูลกีจนหมดสิ้น เมื่อจักรพรรดินีกีทราบข่าวจึงตอบโต้ด้วยการเลือกองค์ชายมองโกล “ทัชเตมูร์” ให้มาเป็นพระราชาโครยอองค์ใหม่แทนและส่งกองทัพมองโกลมาโจมตีบ้านเกิดของตน แต่สุดท้ายทัพมองโกลราชวงศ์หยวนก็พ่ายให้กับกองทัพโครยอ พระเจ้าคงมินจึงหยุดส่งบรรณาการให้ราชวงศ์หยวน หลังจากนั้นไม่นานราชวงศ์หยวนก็ถูกราชวงศ์หมิงโค่นล้ม กีซึงนัง pantip