รีวิวหนัง บางกอก..สยอง
รีวิวหนัง netflix หนังไทยยังคงแสวงหาดาวดวงใหม่มาค้ำจุนวงการแบบหวังฟลุ้กกันอยู่เป็นระยะ และนี่คือการทดลองงานของดาวรุ่งที่มาลองทำหนังสั้น 3 ชุดร้อยรวมเป็นหนังยาวอีกครั้ง และแน่นอนว่าแนวหนังที่เพลย์เซฟมากสุดในบ้านเราสำหรับการทดลองคือ หนังผี หนังตลก เพราะถูกจริตคนดูหนังไทยทั่วไป ทั้งยังวัดฝีมือดาวรุ่งได้ง่ายเพราะต้องอาศัยทักษะในการเล่าเรื่อง จังหวะหนัง และรสนิยมอีกหลายอย่างได้ชัดเจน
เนื้อเรื่องทั้ง 3 ตอน บางกอก..สยอง
สวัสดีปีใหม่ โดย อนุสรณ์ สร้อยสงิม : แก้ม (ญี่ปุ่น – ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) บางกอก สยอง ตอน ออฟฟิศ หวีด สยอง สาวออฟฟิศนิสัยทะเยอทะยาน ที่ต้องทํางานในวันสิ้นปีเพื่อแลกกับอนาคตและตําแหน่งงานที่ดีขึ้นเพื่อครอบครัว โดยรุ่นพี่ที่นั่งข้างกันของเธอ เพิ่งตายในที่ทํางานก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน ทั้งยังมีคนบอกว่าเห็นเขาใส่ชุดซานต้ามานั่งทำงานต่อด้วย
นี่เป็นตอนที่ ผกก. ที่มีประสบการณ์หนังโรงมาก่อนหน้าแล้วอย่างเรื่อง Present Perfect แค่นี้ก็ดีแล้ว ได้ออกแบบมาเป็นหนังสยองทางเขย่าขวัญแนวฟิล์มนัวร์หักมุมไปมา โดยมีลูกเล่นเรื่องพื้นที่ปิด ตัวละครน้อย บรรยากาศชวนน่าสงสัย รวมถึงปริศนาที่หากต้องการรอดก็ต้องรู้ตัวตนของฆาตกรให้ไวว่ามันคืออะไร คน? ผี? หรือใคร? ซึ่งการเล่าเรื่องก็ถือว่าสร้างความตื่นเต้นได้ดีระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็คุมทิศทางเรื่องได้ไม่ถือว่าหลุดเกินไป (ทั้งที่มีโอกาสหลุดไปได้ง่ายมาก) จุดที่น่าเสียดายคงเป็น ความเป็นหนัง ที่ดูออกไปทางทีวีมากกว่าอยู่สักหน่อย การแต่งศพดูหลอกตา และส่วนที่ขัดใจอยู่พอประมาณคือการคุมอาร์ต รวมถึงรสนิยมต่าง ๆ เช่น พร็อพ การเคลื่อนกล้องหลายอย่างดูธรรมดา จนไม่น่าจดจำ ทั้งที่พยายามใช้ชุดซานต้าเป็นกิมมิก แต่ก็ไม่ได้ถูกนำมาขยาย หรือใช้ได้อย่างรู้สึกว่าจำเป็นต้องเป็นซานต้าแต่อย่างใด กลายเป็นว่าพอจบก็ได้เพียงความรู้สึกว่า เล่าสนุกตื่นเต้นพอได้ หักมุมก็พอยอมรับได้ แล้วจบไป รีวิวหนังnetflix
โรงมหรศพ โดย อัลวา ริตศิลา : ออย (ธนัญญา หมั่นทวี) สาวสก๊อยนัด เสี่ยกํามะลอ (แร็ปเอก นราวุธอํานวย) ผ่านแอปเดทฯ ให้มาพบกันครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ หวังจะมีซัมติง ที่ไหนได้กลับแอบเข้าไปในโรงที่เขาห้ามเข้า โรงเปล่าที่ปิดตายฉายหนังวนทิ้งไว้ไร้คนดูเรื่องราวขนหัวลุกจึงบังเกิด
เป็นตอนที่มีลีลาการเล่าแปลกดี และส่วนตัวคิดว่าดูมีเอกลักษณ์มากสุดในทั้ง 3 ตอน หนังเปิดด้วยปริศนาที่จะวนมาทับซ้อนเพื่อเฉลยในตอนหลัง การนำแร็ปเอกมาเล่นก็ถือว่าคุมได้พอประมาณ แต่ยังใช้งานได้ไม่เต็มศักยภาพ อาจด้วยจังหวะการเล่าที่ยังไม่ลงตัวในบางฉาก (โดยเฉพาะเมื่อต้องการความขบขัน) อาจด้วยผู้สร้างน่าจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางวัดแขก จึงทำให้หนังมีรสที่แปลกจากหนังผีอื่น ๆ และทำให้หนังดูมีอะไรโดยปริยาย ทว่าปัญหาอย่างเดียวกันกับหนังตอนอื่น ๆ คือ หนังยังยกคุณภาพด้านภาพ และรสนิยมของการใช้อาร์ตในหนังได้ไม่ชัดเจน ทำให้ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นหนังโรงกับหนังทีวี โดยเฉพาะความเชยบางอย่างที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นความตั้งใจเพื่อเล่นสไตล์ หรือเชยโดยธรรมชาติของงานเอง แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นตอนที่ดูสนุกอีกตอน และน่าจะเกลาให้หลอนขึ้น และเอกลักษณ์ชัดกว่านี้ได้ เว็บดูหนัง,ดูหนัง,เว็บหนัง
สวัสดีบางกอก โดย ธาลวิมล อ่อนพาปลิว : บี (เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล) แอน (ปริม กรวรรณ หลอดสันเทียะ) 2 นักศึกษาสาวเพื่อนซี้เข้ากรุงเทพ เพื่อมาทํางานพิเศษแต่ดันมาเช่าบ้านที่มีประวัติสุดสะพรึง เรื่องราวหลอน ๆ ฮา ๆ จึงเกิดขึ้น
เป็นตอนที่วางไว้ให้ตลกได้มากสุด ด้วยทั้งคาแรกเตอร์ และลูกเล่นในฉากต่าง ๆ ทว่าก็ต้องยอมรับว่าได้ผลบ้างเป็นบางฉาก และบางฉากก็ออกอาการแป้กแบบแรง ๆ ด้วยจังหวะยังไม่แม่น แต่ฉากที่เล่นกับการไลฟ์เฟซก็ถือว่าทำได้สนุกดี ความไม่ลงตัวของหนังก็มาจากจุดที่กลมกลืนระหว่างความตลกร้ายและความสยองได้ไม่ค่อยดี ทั้ังที่ว่ากันตรง ๆ ผีในเรื่องนี้ดูทรงน่ากลัวกว่าทุกเรื่องเสียอีก และปัญหาใหญ่ที่สุดก็คงเป็นการเฉลยจุดหักมุมในตอนท้ายเรื่องที่แบบว่า หนังไปโปรยคำใบ้ให้มาสู่จุดนี้ตอนไหน ยิ่งการกระทำของตัวละครเมื่อย้อนนึกกลับไปก็ประหลาดแบบโคตร ๆ ทวีความไม่สมเหตุสมผลไปใหญ่ แต่กระนั้นก็ยังมีข้อดีตรงจุดที่การหลอกหลอนนั้นทำได้ดีในบางฉาก และการเล่นบทปากหมาของปริมนั้นช่วยดึงให้หนังยังคงน่าสนใจได้ตลอดตอน แต่ก็นั่นล่ะพอเฉลยปุ๊บเราก็ได้แต่เกาหัวแกร่ก ๆ ว่าอิหยังวะ บางกอกสยาม เต็มเรื่อง
รีวิวหนัง บางกอก..สยอง
โดยรวมก็ต้องบอกว่าแม้ผู้กำกับหลายคนจะมีประสบการณ์ในการทำหนังสั้น หรืองานโปรดักชั่นมาหลายปี แต่รสนิยมและคุณภาพงานยังไม่ยกระดับตัวหนังให้น่าจดจำได้นัก กระนั้นเราก็ยังจะพอเห็นฝีไม้ลายมือในการเล่าเรื่อง ว่าเป็นคนเล่าเรื่องได้สนุกอยู่เหมือนกัน ถ้าพัฒนาหรือให้เวลากับหนังมากกว่านี้อีก อาจทำได้ดีและน่าจดจำขึ้น ก็เป็นกำลังใจให้หนังไทยและคนทำหนังไทยต่อไปครับ
หนังสั้นสยองขวัญ 3 เรื่องบางกอก..สยอง
รีวิวหนัง บางกอก..สยอง นั้นเป็นการรวมหนังสั้นสยองขวัญสามเรื่องที่พูดถึงเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งมีเหตุการณ์อันน่าขนหัวลุกแยกย่อยแตกต่างกันออกไปตามเรื่องราวที่ผู้กำกับแต่ละคนต้องการจะบอกเล่าแก่ผู้ชม
หนังเปิดเรื่องราวมาที่ ตอนสวัสดีปีใหม่ ซึ่งเล่าถึง แก้ม (ญี่ปุ่น – ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) สาวออฟฟิศหน้าตาสะสวยที่ต้องทำงานในวันสิ้นปี โดยที่คุณสุทธิพงศ์หัวหน้าแผนกของเธอเพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ในตึกแห่งนี้จึงเหลือแค่เพียงยามประจำตึกและเด็กฝึกงานอีกสองคนในคืนก่อนวันปีใหม่
รีวิวหนัง บางกอก..สยอง
ความโดดเด่นของตอนสวัสดีปีใหม่อันเป็นผลงานการกำกับของ อนุสรณ์ สร้อยสงิม นั้นเริ่มต้นจากการสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครเดินเรื่องอย่าง “แก้ม” ให้มีความชัดเจนว่าเธอเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน มั่นใจในตัวเองสูงมาก ชอบดูถูกคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าตัวเอง ซึ่งเราจะได้เห็นพฤติกรรมเหล่านี้ผ่านฉากที่เธอเดินกลับมาจากการไปซื้อกาแฟเย็นระดับพรีเมียม แต่เมื่อเธอกลับมาถึงออฟฟิศและพบว่าประตูกระจกทางเข้าบริษัทถูกล็อคเอาไว้ เธอก็ได้แต่หงุดหงิด จนกระทั่งยามต้องวิ่งมาเปิดประตูให้อย่างเร่งรีบ
ทันทีแก้มเข้ามาให้ตึกได้ ยามก็ร้องขอไม่ให้เธอร้องเรียนเรื่องดังกล่าว เพราะเขากลัวว่าถ้าหากโดนร้องเรียนอีกครั้งเขาจะถูกไล่ออกจากงาน แต่แก้มก็ได้แต่พูดจาส่อเสียดและดูถูกเขาว่า “ก็เพราะคิดได้แค่นี้ถึงเป็นได้แค่ยาม” ระหว่างที่แก้มกดลิฟต์ ยามประจำตึกจึงเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกที่ว่า “คุณแก้มไม่กลัวเหรอครับที่ยังต้องนั่งโต๊ะติดกับคุณสุทธิพงศ์ ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะเมื่อวานแม่บ้านบังเอิญเห็นว่ามีคนใส่ชุดซานตาคลอสที่แขวนไว้ตรงตู้ห้องทำงานเดินไปเดินมา”
จากประโยคบอกเล่าของยามประจำตึก ทำให้จินตนาการของแก้มเริ่มโลดแล่น เธอกลับขึ้นไปทำงานด้วยความหวาดผวาจนเธอเองต้องไปหยิบชุดซานตาคลอสเก็บลงกล่อง บรรยากาศในหนังตอนนี้จึงเล่นกับความหวาดกลัวของแก้มได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งหนังจึงเริ่มเผยให้คนดูได้เรียนรู้ความลับบางอย่างที่ตัวละครนี้เก็บงำเอาไว้ และเธอพยายามปกปิดจากคนอื่นอีกด้วย
ตัวหนังทำให้เราเข้าใจสภาวะของตัวละครแก้มว่า เธอมีนิสัยหัวสูงเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอต้องการจะหาเงินและเอาโบนัสเพื่อเอาไปไถ่บ้านของครอบครัวให้พ้นจากการจำนอง จากที่เราได้เห็นจากองค์ประกอบฉาก ว่าบนโต๊ะทำงานของเธอมีภาพพ่อแม่ของตัวเองตั้งไว้ และแชทไลน์ของแม่ที่ถามว่าวันหยุดปีใหม่ ทำไมแก้มถึงไม่เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด
สรุปเนื้อเรื่อง บางกอก..สยอง
รีวิวหนัง บางกอก..สยอง ตอนแรกคนดูอาจจะเข้าใจว่ากำลังจะได้ดูหนังผี ที่วิญญาณของคุณสุทธิพงศ์น่าจะเป็นคนออกมาหลอกหลอน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นว่า หนังได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนังแนว Slasher หรือหนังแนวไล่ฆ่า เมื่อจู่ๆ แก้มก็ค้นพบว่าเด็กฝึกงานอย่างแจ็ค ถูกแทงตายอยู่ที่หน้าลิฟต์ ก่อนที่ฆาตกรถือขวานและสวมชุดซานตาคลอสจะออกไล่ล่าเอาชีวิตเธออย่างบ้าคลั่ง ออฟฟิศที่ถูกปิดตาย ตึกที่ไม่มีใครเหลืออยู่แก้มจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากค่ำคืนนี้ไปให้ได้
สำหรับเรื่องที่ 2 คือ โรงมหรศพ บอกเล่าเรื่องราวอาถรรพ์ของโรงภาพยนตร์ที่ 5 ซึ่งว่ากันว่าไปปลูกทับที่ของศาลแขก จนต้องฉายหนังในโรงดังกล่าวโดยไม่เปิดให้ผู้ชมทั่วไปเข้าชม เพราะเชื่อกันว่าจะมีสัมภเวสีเข้ามานั่งดูระหว่างที่หนังฉาย แต่เมื่อออย (ธนัญญา หมั่นทวี) สาวสก๊อยนัดเสี่ยกำมะลอ (แร็ปเอก นราวุธ อำนวย) เพื่อจะหลอกเอาเงินจากเสี่ย ออยพยายามเสนอตัวเข้าแลกด้วยการจะแอบเข้าไปล้วงควักกันในโรงหนังที่ปราศจากผู้คน แต่แล้วออยก็ค้นพบว่าจริงๆแล้วโรงหนังแห่งนี้มีความน่ากลัวบางอย่างเกินคาดคิด
สำหรับโรงมหรศพน่าจะเป็นตอนเดียวที่วิธีการเล่าเรื่องค่อนข้างเบาบางและไม่มีอะไรน่าพูดถึงนัก อาถรรพ์ความน่ากลัวที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง จังหวะจะโคนในการหลอกคนดูก็เรียกได้ว่า “น่าเบื่อ” และไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าการวางพล็อตเรื่องสาวสก๊อยจะหลอกปลดทรัพย์เสี่ย โดยที่ทั้งสองนัดพบกันจาก Tinder! เท่านั้น
บางกอก สยอง ตอนที่ 3 ตอนสุดท้ายอย่าง สวัสดีบางกอก บี (เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล) และแอน (ปริม กรวรรณ หลอดสันเทียะ) สองสาวเน็ทไอดอลชื่อดังจากต่างจังหวัด ที่ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาทำงานเก็บเงินเพื่อหารายได้พิเศษ แต่บ้านเช่าที่ทั้งสองไปเช่าอยู่นั้นกลับเป็นบ้านที่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมยกครัวขึ้น!
อันที่จริงตอนสวัสดีบางกอกเป็นตอนที่เปิดเรื่องมาได้น่าสนใจ เมื่อตัวละครอย่างแอนที่เป็นสาวปากจัด พูดจาโผงผางและไม่กลัวใคร ซีนที่น่าประทับใจที่สุดก็คือตอนที่มีแฟนคลับที่ตามดูไลฟ์สดทางโซเชียลมีเดียแอบแขวะว่า “เข้ามาทำงานไกลถึงกรุงเทพฯ นี่ก็เพราะว่ามาขายตัวให้เสี่ยล่ะสิ” เธอจึงสวนกลับทันควันว่า “กูจะมาทำอะไรมันก็เรื่องของกู………… ” (ตามด้วยคำด่ายาวเฟื้อยจนเราอาจจะเรียกได้ว่าเป็น ประโยคด่าที่น่าจะยาวที่สุดในหนังเรื่องนี้)
ส่วนตัวละครอย่างบีที่พยายามใช้ความน่ารักเพื่อขายความนิยมของตัวเอง เธอก็ใช้ความ “แอ๊บแบ๊ว” ของตัวเองหากินได้อย่างไม่น่าเชื่อ (รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ตัวเองมีเอาตัวรอดในตอนท้ายแบบที่คนดูคาดไม่ถึงอีกต่างหาก)
เมื่อมองถึงจุดร่วมของหนังสั้นทั้งสามเรื่อง จะเห็นได้ว่าตัวละครเดินเรื่องนั้นล้วนแล้วแต่เป็นตัวละครหญิงชนชั้นกลางที่พยายามจะตะเกียกตะกายและหาที่ทางเพื่อเอาชีวิตรอดในสังคมกรุงเทพฯ ในหลากหลายรูปแบบ จนเราเปรียบเปรยพวกเธอดั่งกระบองเพชรในป่าปูน แก้มแอบคบชู้และหลอกใช้คุณสุทธิพงศ์ทำงานจนตาย! ออยเป็นพวกหลอกลวงผู้ชาย ส่วนบีและแอนก็ใช้ความสวยของตัวเองหากินกับการขายเรือนร่างของตัวเองให้กับผู้ชาย เหล่านี้จะทำให้เราได้เห็นว่า ผู้หญิงเองก็มีหนทางที่ต้องฝ่าฟันเอาตัวรอด แต่น่าเสียดายตรงที่บทสรุปของแต่ละตัวละครหญิง ในหนังเรื่องนี้จบลงไม่ค่อยดีนักสักคน จนเราแอบตั้งคำถามอยู่เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วผู้หญิงที่ต้องปากกัดตีนถีบและเอาตัวรอดจากสังคมชายเป็นใหญ่ ก็ยังต้องรับผลกรรมที่ว่า ถึงกฎหมายจะลงโทษพวกเธอไม่ได้ แต่อำนาจมืดบางอย่างสามารถลงทัณฑ์พวกเธอได้เช่นนั้นหรือ? Bangkok Dark Tales