รีวิวหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
รีวิวหนัง ก่อนอื่น ผู้เขียนต้องสารภาพว่า ได้ห่างหายไปจาการดูซีรีส์เกาหลีไปนานพอสมควร และเริ่มที่จะดูมาในช่วงสองปีที่ล่วงผ่าน แต่การดูอย่างต่อเนื่องมากมาย เริ่มมาอยู่ในช่วงที่ต้องอยู่กับบ้าน ในภาวะวิกฤติไวรัสที่ต้องอยู่บ้านมากกว่าปกติ และมันทำให้อาการติดเกาหลีของผู้เขียน ที่คิดว่าหายไปหลายปีกลับมากำเริบ ซ้ำร้ายยังลุกลามแพร่ไปยังคนรอบข้างในครอบครัวเสียอีก จนกระทั่งกลายเป็นดูซีรี่ส์เกาหลีเป็นหลักทั้งบ้าน เพียงแต่ผู้เขียนยังคงแวะเวียนไปดูหนังบ้าง ตามที่ความน่าสนใจของตัวหนัง แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับว่า เมนูหลักหลักของผู้เขียนช่วงนี้ คือซีรีส์เกาหลีจริงๆ เพราะเมื่อพักไปดูซีรีส์ฝรั่งบ้างจนจบ ก็ยังวกกลับมาดูซีรีส์เกาหลีอยู่ดี
แต่ด้วยความที่ผู้เขียนมีพื้นฐานจากการดูหนังมาอย่างมากมาย และไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงจากเกาหลีอย่างจริงจังมากมายนัก งานเขียนที่ออกมา จึงกลั่นออกมาจากประสบการณ์การดูหนังมากกว่า เช่นกับซีรีส์ที่ผู้เขียนเพิ่งดูไปพร้อมกับอาการอุ่นๆขอบตาเรื่องนี้ ผู้เขียนมองเห็นเงารางๆของสุดยอดหนังคลาสสิคเรื่องหนึ่งมาทาบทับ ด้วยเรื่องราวที่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตในเรือนจำ ของคนดีที่อยู่ผิดที่ผิดเวลา การยอมรับและอยู่กับมันของนักโทษ และเรื่องราวของมิตรภาพในการถูกจองจำ ใช่แล้วผู้เขียนกำลังรำลึกถึง The Shawshank Redemption (1994) ที่ไม่ต้องบอกก็พอทราบได้ว่า มีส่วนในแรงบันดาลใจในการรังสรรค์งานซีรี่ส์เรื่องเยี่ยมเรื่องนี้ ที่เราดูแล้วมองเห็นคุณค่าของความดีแต่กระนั้นก็มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม ดูหนังฟรี
เรื่องย่อ ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
ข่าวหนัง netflix เรื่องราวของ คิมจีฮยอก (พัคแฮซู) นักเบสบอลตำแหน่งฟิทเชอร์ระดับซูเปอร์สตาร์ ที่ทักษะทางกีฬาเปี่ยมล้นแต่ทักษะการใช้ชีวิตกลับเป็นศูนย์ จนคล้ายๆกับเป็นคนทึ่มๆในสายตาคนใกล้ชิด บนพื้นฐานความทึ่มของ นักกีฬาคิม เขาคือคนที่เรียกได้ว่าเป็นคนดีอย่างเต็มภาคภูมิ เขาใช้ชีวิตอยู่ในครรลองของความดีเสมอมา มีวินัยในการฝึกซ้อม ดำเนินชีวิตตามกรอบ ทำให้เขาคือที่รักของประชาชนและแฟนกีฬา แต่เมื่อน้องสาวผู้เป็นที่รักถูกคุกคาม เขาผู้เป็นพี่จึงต้องปกป้อง และพลั้งมือทำร้ายคนที่คุกคามคนที่เขารักแบบที่น่าจะเป็นการป้องกันตัวมากกว่า แต่กระบวนการยุติธรรมไม่ได้มองเช่นนั้น เขาจึงถูกส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำ อันเป็นสถานที่ที่พอพูดถึงทุกผู้คนจะนึกถึงว่า เป็นแหล่งรวมของเหล่าเดนมนุษย์
เมื่อชีวิตต้องพลิกผันจากจุดสูงสุดลงมาลึกสุดอย่างไม่ทันตั้งตัว ความสับสนและแข็งขืนจึงบังเกิด แน่นอนว่าในเรือนจำเขาไปปัดแข้งปัดขากับขาใหญ่ เพราะความที่เขาเป็นคนดี จนกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง โชคดีที่ในเรือนจำเขามี อีจุนโฮ (จองคยองโฮ) เพื่อนในวัยเยาว์ที่เป็นผู้คุมอยู่ในนั้น และคอยให้ความช่วยเหลือทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง กระทั่ง เมื่อ นักกีฬาคิม ต้องถูกย้ายเรือนจำ อีจุนโฮ ก็ยังย้ายตามมาเพื่อดูแลเพื่อน และในเรือนจำแห่งใหม่ นักกีฬาคิม ที่ต้องโทษถึงสิบสองเดือน และเขาก็จำต้องอยู่กับมันให้ได้
และในที่ใหม่ นักกีฬาคิม และผู้ชมก็ได้รับรู้ว่า ในสถานที่ที่น่าจะมีแต่คนเลวกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาได้พบพานกับคนดีที่อยู่ผิดที่ผิดเวลาเหมือนเขา คนดีที่ต้องจำยอมทำในเรื่องบางประการจนต้องลงเอยในที่คุมขัง คนเคยเลวที่วันนี้กลับตัวกลับใจ และแม้กระทั่งคนเลวที่เลวจริงๆไร้ทางเยียวยา เมื่อความหวังที่จะอุทธรณ์ หรือได้ออกไปก่อนเวลาเลือนลาง นักกีฬาคิม จึงต้องรับมันให้ได้ อยู่กับชีวิตที่เป็นแบบนี้ให้ได้ ก่อนการมาถึงของความอยู่ได้และอยู่เป็น ผ่านปัจจัยมากมายที่เข้ามากระทบ ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเชิงลบ แต่ด้วยความดีของเขาที่มีแบบหยั่งรากลึก เขาต้องผ่านมันให้ได้ในแบบที่โลกสวยพอประมาณ และมีความเป็นมนุษย์มนา มากกว่าจะเบ่งบานไปแบบทุ่งดอกไม้ มันเลยทำให้เรื่องราวมีเนื้อมีหนัง มีชีวิตจิตใจไม่ได้เหมือนกับสร้างมายาคติให้โลกสวย สนุกเข้มข้น ยิ้มได้ร้องให้เป็น หักมุม พลิกผันได้ในทุกตอน
ด้านมืดในตัวละคร ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
รีวิวหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ บทที่เสนอเรื่องด้านมืดที่มีในตัวทุกคน ปัญหาบางอย่างไม่ได้แก้ได้ด้วยการอภัย โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดและนั่นคือวามเป็นมนุษย์ ไม่ใช่นิยาย ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ สนุกไหม
แม้จะเห็นเงาของ The Shawshank Redemption มาทาบทับแต่ก็ต้องยอมรับว่าบนความยอดเยี่ยมที่ตัวซีรีส์มีก็ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะนี่คือการใช้มาเป็นแรงบันดาลใจมากกว่า ซึ่งถ้าว่ากันที่ภาพรวมของทั้งสิบหกตอนมันคือความยอดเยี่ยมในตัวของตัวเองอยู่ ในส่วนของเรื่องบทที่เกือบจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้วแต่ก็ยังมองเห็นจุดที่หลุดอยู่สองจุด เอาที่ความยอดเยี่ยมก่อนคือ บทวางตัวให้เป็นความฟีลกู้ด ใช้ชีวิตด้วยความดีที่มีในตัวมนุษย์ที่เป็นคนดีจริงๆอย่างคิมจีฮยอกที่ความดีจะนำพาเขาให้ผ่านช่วงยากลำบากปรับตัวอยู่ได้และสุดท้ายก็อยู่เป็นถ้านั่นยังไม่พอความดีที่เขามีสามารถส่งต่อและแผ่รังสีครอบคลุมไปยังคนรอบข้างและสามารถเปลี่ยนชีวิตคนบางคนได้ และแน่นอนเช่นกันว่าไม่ใช่ทุกคน
แต่ความยอดเยี่ยมมันอยู่ตรงที่ ตัวบทเองแม้จะเหมือนกับให้มองโลกในแง่ดีและมองมุมบวกกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต หากแต่ในเบื้องลึกกลับไม่ได้เสนอในทางโลกสวยเป็นทุ่งดอกไม้ท่ามกลางแสงตะวันสดใสเสมอไปตัวบทเลือกที่จะเสนอมุมมืดในความเป็นมนุษย์ให้สัมผัสได้ว่า แม้คนดีแสนดีอย่าง คิมจีฮยอก ก็ยังมีด้ายมืดนั้นที่เยี่ยมขึ้นอีกคือการบอกผู้ชมว่าบางทีความคิดแบบโลกสวยก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในบางสถานการณ์ การเลือกที่จะเผชิญหน้าโต้ตอบ และเกรี้ยวกราดบ้างอาจจะเหมาะกับบางเรื่อง หรือกับบางคน ซึ่ง บทสื่อความหมายให้เห็นในซีนที่ คิมจีฮยอก เก็บคัมภีร์ศาสนาต่างๆที่เคยอ่าน เพราะมองว่าปัญหาไม่ได้แก้ได้ด้วยการให้อภัยทุกเรื่องและเขาจะไม่ยื่นหน้าซ้ายให้ใครต่อยอีกแล้ว ซึ่งมันคือการสื่อให้เห็นถึงปัจจัยความเป็นมนุษย์ ที่ไม่มีใครจะใสสะอาดผ่องแผ้วทุกคนในเบื้องลึกในกมลต่างก็ต้องมีมุมมืดอยู่บ้าง เพียงแต่จะมากจะน้อยก็แล้วแต่คน
รีวิวหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
ประเด็นต่อมา คือการที่บทชี้ทางให้ผู้ชมเห็นถึงมิติด้านความดีและความเลว มุมมืดและแสงสว่าง แน่นอนว่าเรื่องของความหวังในชีวิต มันเข้มแข็งตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่ผู้เขียนมองเห็น คือภาพในมุมมองที่ว่า แม้คนเลวลึกๆอาจเป็นคนดี แต่บางคนที่อาจจะดูดีก็มีความเลวอย่างฝังราก ผ่านตัวละครมากมายที่รายล้อม คิมจีฮยอก ทั้งหมดในเรื่อง ด้วยการนำเสนอตัวละคร ที่บางคนภาพลักษณ์ดูน่ากลัวแต่แท้จริงแล้วอ่อนโยน ตัวละครที่ดูเหมือนเป็นคนดีแต่แท้จริงเลวแสนเลว ผ่านการเล่าเรื่องแบบค่อยๆเผยพื้นหลังของตัวละคร ให้ผู้ชมรู้และได้เห็นความเป็นตัวตนของแต่ละคน
และที่น่าทึ่งคือแนบแน่นและมีน้ำหนัก แม้จะปล่อยมาแค่ไม่กี่นาที แต่กลับสื่อให้เห็นความเป็นตัวตนของคนคนนั้นได้ ผ่านเทคนิคทางด้านภาพที่ผู้ชมรู้และแยกออกและรับรู้ว่าการมองใครสักคน ผ่านลูกกรงที่กักขังเขาอยู่ อาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ถ้านั่นยังไม่พอบทยังแข็งแรงพอที่จะเสนอเรื่องของมิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง และประเด็นเรื่องของครอบครัว ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่า ชีวิตของพวกเขาผู้ถูกจองจำจะเป็นเช่นไรต่อ ในความว่างเปล่าในแต่ละวัน และเมื่อวันที่ได้รับอิสรภาพผ่านตัวละครที่เป็นตัวแทนของการชนะใจตน ที่ผู้เขียนชอบมากคือพี่ใหญ่ คิมมินชอล(ชเวมูซอง) ในห้องและเจ้าเอ๋อ ยูฮันยาง(อีคยูฮยอง)
ประการต่อมาคือความเด่นชัด ที่บทมอบให้และมีมิติ คือเมื่อเรื่องราว ฟ้าพลิก ชีวิตยัง ต้องสู้ ภาค 2 เล่าเรื่องของคนดีที่พลาดพลั้งกระทำความผิดมันจึงต้องมีความขัดแย้งกันระหว่างนิติธรรมกับมโนธรรม ซึ่งบทนำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านตัวละครผู้คุมอย่าง หัวหน้าแพง ที่เป็นตัวแทนของมโนธรรม ที่ดูจากรูปลักษณ์แล้วไม่หล่อหรือสวยงาม หากแต่เปี่ยมน้ำใจที่อุ่นระอุมองเห็นว่าการให้โอกาส คือการที่จะเปลี่ยนสันดานมนุษย์ ซึ่งมันมีมิติที่ขัดแย้งกับ หัวหน้านา ที่เป็นตัวแทนของความเป็นนิติธรรม ทุกอย่างต้องตามกฏเสมอ ซึ่งมาในมุมของความสวยงามรูปหล่อพูดเพราะ และมันนำพาความขัดใจให้ผู้ชมหากแต่ไม่ได้ถึงขนาดจงเกลียดจงชัง
หรือหากจะมองในมุมของ ผู้กองยู(จองแฮอิน)ที่ตบหน้าระบบและความรุนแรงในกองทัพที่บางครั้งก็สร้างตราบาปให้คนที่ไม่ได้ทำบาปอย่างแสนเจ็บปวด ก็ย่อมได้ อีกอย่างที่จะไม่เอ่ยถึงก็ไม่ได้ คือความพลิกผันหักมุมที่มาในแทบทุกตอนและได้ผลครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเรื่องของการวางแผนการต้มรามยอนของเพื่อนร่วมห้องขัง ที่สุดฮาเมื่อช่วงต้น และนั่นมันคือความงดงามของตัวบท ที่เรื่องหลักประเด็นซ้อนประเด็นมามากมาย แต่กลับไม่มีหลุดโทนหรือเนือยเอื่อย แม้กระทั่งเรื่องของความรักแสนโรแมนติก ที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่กลับกลายเป็นส่วนผสมทั้งหมดทั้งมวลลงตัวและกลมกล่อม
แต่ สิ่งที่ผู้เขียนมองว่ามันมีบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ คือการนำเสนอภาพในเรือนจำในมุมที่สวยงามด้านเดียวแต่เลือกที่จะสื่อสารเรื่องความโสมม ผ่านตัวบุคคลยากที่จะเยียวยา ทำให้ภาพในเรือนจำเหมือนโฮมสเตย์มากกว่าเป็นที่คุมขังและอีกสองจุดที่บทไม่อธิบายให้กระจ่าง คือเรื่องของผู้คุมหัวหน้าโรงไม้ที่ทุจริต และเรื่องของบาทหลวงที่บทละเลยที่จะเผยความกระจ่างและปล่อยมันทิ้งไปแบบไม่ไยดี ทำให้คนที่ค่อนข้างละเอียดจับต้องได้ เพราะการเสนอก่อนหน้านั้นมันมาด้วยความแรง และมันกลายเป็นทำให้ในความเยี่ยมยอดนั้นไปไม่ถึงในระดับที่เรียกว่าไร้ที่ติ ส่วนบทสรุปมันนั้นก็ยังไม่อิ่มเพราะคงมีผู้ชมอีกไม่น้อยที่อยากเห็นภาพของมิตรภาพในเรือนจำ ออกมาเบ่งบานข้างนอกให้เห็น แต่ถึงกระนั้น ถ้ามองในมุมที่ว่าบทสรุปเปิดช่องและชี้นำให้คนดูคิดถึง ก็ถือว่ารับได้สมเหตุสมผลและลงตัวในตัวและไม่ทำลายความสวยงามของเรื่องที่เล่ามาทั้งหมด
รีวิวหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดจากการชมเรื่องนี้คือการแสดง การแสดงในระดับที่เอากันสวมวิญญาณกันทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้คุมหรือนักโทษ ความเนี้ยบนั้นยังลงลึกไปกระทั่งบทเล็กๆอย่างพ่อบ้าน หรือแม้แต่คนที่ยืนนั่งเล่นหรือเดินเฉยๆที่ไม่ดูเป็นการจัดฉาก คือมันเป็นธรรมชาติจนคนดูเชื่อว่ามันคือสถานที่แบบนั้นจริงๆ ส่วนนักแสดงหลักอย่าง พัคแฮซู ที่เอาจริงคือก่อนหน้านี้ ผู้เขียนได้ดูการแสดงของเขามาแค่งานหนังอย่าง Time To Hunt ที่พัคแฮซู รับบทนักฆ่าเลือดเย็นที่น่ารังเกียจ เห็นแล้วขนลุกและมีรังสีอำมหิตเต็มที่แต่พอมาดูเรื่องนี้ต้องบอกว่า มาตรฐานการแสดงของเขาสูงมากเพราะบทนี้ต่างกันลิบลับ พัคแฮซู แสดงผ่านสีหน้าแววตาถึงความเจ็บปวด ผิดหวังเมื่อต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำสายตาบ่งบอกความสับสนในใจมากมายในช่วงแรก และค่อยๆปรับตัวอยู่ได้และสุดท้ายก็อยู่เป็น ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ pantip
พัคแฮซู ทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคือคนจิตใจดีที่ดีจริงๆ มีความทึ่ม ซื่อ มองโลกในแง่ดี แต่เมื่อถึงเวลาถูกกดดันเขาก็มีมุมมืดในใจเผยออกมาได้เช่นกันและพัคแฮซู มอบการแสดงที่เรียกว่าเขาคือ คิมจีฮยอก ทั้งตัวและวิญญาณ อีกคนที่ไม่เอ่ยถึงคงนอนไม่หลับคือ อีคยูฮยอง ที่รับบทเป็น เจ้าเอ๋อยูฮันยาง ที่ผู้เขียนชื่นชอบมาก่อน ในบทสามีผู้สูญเสียใน Hi Bye,Mama (2020) ที่เล่นเรื่องนี้ก่อน แต่แสดงได้อย่างน่ารักน่าชัง และสวมวิญญาณขี้ยาที่เพ้อๆจนเพี้ยนได้อย่างชวนขันและน่าสงสารจับใจ ทั้งยังทำให้มองในมุมของครอบครัว ที่เขาถูกละเลยได้อย่างน่าชื่นชม หรือจะเป็น จองแฮอิน ในบท ผู้กองยู ที่อาจดูมาน้อย แต่จัดเต็มทุกอารมณ์ คริสตัล ชอง ในบทแฟนสาว จองคยองโฮ ในบทเพื่อนแท้และคนอื่นๆอีกมากมาย ที่แสดงจนได้ใจผู้ชมไปจนสิ้นทุกคน
แล้วการแสดงของพวกเขา ก็ทำให้หวนมานึกว่า นักแสดงที่ดีที่เก่งนั้นต้องเล่นได้หลากหลายในบทบาทไม่ใช่ผูกขาดบทพระเอกนางเอกหรือผู้ร้ายนางร้ายไปจนแก่ตาย ถ้าบทมันเจ๋งก็กล้ารับเล่นและพิสูจน์ออกมาให้เห็นถึงความเยี่ยมได้และด้วยการที่แม้จะมีประเด็นมากมายให้ขายแต่เรื่องกลับสมูธ นุ่มละมุน อบอุ่นในใจขอบตาร้อนชื้นหากแต่ไม่ได้เป็นเพราะถูกบีบหรือเค้น น้ำตาที่ไหลเกิดจากความอบอุ่นและตื้นตันโดยธรรมชาติไม่มีการจัดฉากและเร่งเร้า บวกกับการแสดงที่เรียกว่าดีที่สุดทุกคนไม่เว้นแม้แต่ตัวประกอบเล็กๆทำให้แม้จะมีที่ให้ติอยู่บ้างมันก็มองข้ามไปได้และคู่ควรกับคำว่าเยี่ยมและทำให้เข้าไปอยู่ในใจผู้ชมมากมาย
สรุปหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
รีวิวหนัง ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ นี่คืองานซีรี่ส์ที่จริงๆก็ต้องบอกว่า ไม่ได้เร่งเร้ามากมายด้วยโทนของเรื่องก็อาจทำให้คนดูเดาทางได้ว่าปัจจัยที่เข้ามามันจะออกมาหน้าไหนแต่บทและชั้นเชิงการเล่าเรื่องกลับเอาผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด คิดง่ายๆคือแค่เปิดซองจดหมายยังลุ้นระทึก ด้วยบทที่มีพัฒนาการ ทำให้มีความน่าเชื่อถือในทุกเรื่องทั้งเรื่องของมิตรภาพในที่คุมขังความหวังที่ต้องคุกรุ่นไม่มอดไหม้ ต้องไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่เล่นตลก ความดีที่อาจจะมีแฝงอยู่ในความเลวหรือด้านมืดที่จะมีฝังอยู่ในความสว่างการปะทะกันระหว่างนิติธรรมกับมโนธรรมและเรื่องของความรัก ทั้งในมุมของครอบครัวที่แตกร้าวหรือในมุมของหนุ่มสาว ความเสียสละและการแบ่งปันความดี
ทั้งหมดนี้เล่าเรื่องผ่านความละมุนอบอุ่นใจที่เมื่อดูแล้ว อาจไม่เร่งเร้ารุนแรงแต่มันได้ผลดีอย่างชะงัด ในความน่าติดตามตอนต่อตอน ด้วยความยาวประมาณตอนละชั่วโมงครึ่งแต่ไม่มีช่วงไหนในตอนหน่วงหรือเนือยเอื่อย หนำซ้ำในบางฉากบางตอนยังต้องย้อนกลับมาดูซ้ำ เพราะความประทับใจในบทสนทนาที่ดูเป็นธรรมชาติแต่คมคาย ไม่พยายามที่จะมอบบทเรียนชีวิตอย่างจงใจ แต่ปล่อยให้คนดูรู้สึกได้สัมผัสได้เองตามธรรมชาติ และมันทำให้บทที่ดูเหมือนจะโลกสวย แต่กลับมีความเป็นมนุษย์ มีความเป็นคน ไม่ใช่ภาพมายาเทวดาวิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้และแม้จะมีเงาของ The Shawshank Redemption ทาบทาอยู่ก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเองจนทำให้เห็นแค่แรงบันดาลใจหาใช่ยกมา ด้วยการเล่าเรื่องที่น่าจะหม่นมืดและหดหู่ ให้ออกมาละมุนและงดงามได้ขนาดนี้ ก็คู่ควรแล้วที่หลายๆคนแนะนำให้ผู้เขียนดู จนต้องยอมรับว่านี่คือซีรีส์เรื่องเยี่ยมที่ตัวเองน่าจะดูไปตั้งนานแล้ว และสำหรับหลายๆคน นี่คือคู่มือการมองโลกที่มีมิติความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงและแม้จะมีอะไรให้ติบ้างเล็กน้อย แต่ต้องการันตีว่า อย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ พากย์ไทย