รีวิว flatliners ขอตายวูบเดียว
ประเภท : สยองขวัญ / ระทึกขวัญ / วิทยาศาสตร์
ปีที่ฉาย : 2017
เวลา : 1.48 ชั่วโมง
IMDb: 5.2 /10
รีวิวหนัง “มนุษย์” กับ “ความตาย” ในชั่วชีวิตหนึ่งมันควรเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าหากมีใครบางคนฝ่าฝืนกฎนี้ แล้วมองว่ามันเป็นเรื่องตลกที่สามารถล้อเล่นได้ก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผิดถนัด เพราะความตายเป็นเรื่องที่แสนจริงจังอย่างมากเลยทีเดียว
ภาพยนตร์ในวันนี้ อยากขอพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ หนังสยองขวัญ Flatliners ขอตายวูบเดียว เรื่องราวของกลุ่มคนที่มองว่าความตายเป็นเพียงสิ่งล้อเล่นจนเกิดเหตุการณ์สยองขึ้น ส่วนจะน่าดูเพียงใดนั้น ลองมาติดตามกันเลย
เนื้อเรื่องย่อของหนังสยองขวัญ Flatliners ขอตายวูบเดียว ข่าวหนังnetflix
เรื่องย่อ flatliners ขอตายวูบเดียว
รีวิว flatliners ขอตายวูบเดียว เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ตั้งทฤษฎีที่น่าสนใจเกี่ยวกับความตายนำไปสู่การใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองตายเพื่อแอบดูว่ามีอะไรกันแน่ที่ซ่อนอยู่โลกหลังความตายหลังจากนั้นก็ทำการฟื้นชีวิตตัวเองกลับมาในเวลาอันเฉียดฉิว หลังจากพวกเขาเริ่มเสพติดมันและทำการทดลองอีกหลายต่อหลายครั้ง ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ติดตามพวกเขากลับมาจากโลกหลังความตายอันน่าสยดสยองด้วยเช่นกัน
จุดเริ่มต้นในหนังเวอร์ชั่นปี 2017 เริ่มต้นขึ้นเมื่อคอร์ทนีย์ (เอลเลน เพจ) พยายามเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนของตัวเองเข้าร่วมการทดลอง “ขอตายวูบเดียว” หลังจากการทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จ ตัวคอร์ทนีย์เองเหมือนมีทักษะบางอย่างที่สมองได้รับการกระตุ้น เธอสามารถตอบคำถามในชั้นเรียนแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น ธอสามารถเล่นเปียโนในบทเพลงที่เธอไม่เคยเล่นมาเป็นเวลานานได้อย่างยอดเยี่ยม ความสามารถดังกล่าวยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนๆที่เหลืออยากลองสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวบ้าง
แต่การได้ไปสัมผัสโลกหลังความตายมาแล้ว พวกเขากลับเริ่มถูกหลอกหลอนด้วยประสบการณ์อันเลวร้ายในอดีต เมื่อตัวละครที่เลือกจะทดลองตายเริ่มเห็นภาพหลอนที่ไม่มีอยู่จริง พวกเขาเริ่มค้นพบว่าการทดลองตายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี และการหาทางออกให้กับชีวิตของพวกเขาก็คือการไขปริศนาที่ว่าทำอย่างไรเราถึงจะหนีพ้น “อดีต” ของตัวเอง เว็บดูหนัง,ดูหนัง,เว็บหนัง
การที่หนังเลือกจะให้ตัวละครบางตัว “ตาย” กันตั้งแต่กลางเรื่องกลายเป็นจุดที่ทำให้หนังเวอร์ชั่นปี 2017 น่าสนใจและเหมือนจะมีแนวทางเป็นของตัวเอง จนกระทั่งไม่นานหนังก็เลือกจะกลับไปเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จของหนังภาคแรกแบบทุกกระเบียดนิ้ว จนทำให้ตรรกะในการเอาชีวิตรอดของตัวละครในหนังเวอร์ชั่นนี้เรียกได้ว่าพังทลายอย่างราบคาบ และน่าเสียดายเอามากๆที่รู้สึกได้ว่าหนังไม่กล้า “ทดลองทำอะไรใหม่”
จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง flatliners ขอตายวูบเดียว
หนังสยองขวัญ Flatliners ถือว่ามีแนวคิดในการสร้างหนังที่มีความน่าทึ่งกินขาดในเรื่องของความแตกต่างไม่เหมือนใครเกี่ยวกับประเด็นความตายและความพยายามในการพิสูจน์มันตามหลักของวิทยาศาสตร์ ช่วงแรกของหนังอาจดูเป็นแนววิทยาศาสตร์จ๋า แต่.. หลังจากนั้นมันก็ค่อย ๆ ถูกปูเรื่องราวเข้าสู่หนังสยองขวัญได้อย่างน่าสนใจ
ความตึงเครียดที่หนังสยองขวัญ Flatliners IMDb พยายามสื่อสารเองก็ถือว่าทำออกมาได้ดี อีกทั้งยังมีความน่ากลัวในระดับหนึ่งและระดับการแสดงโดยรวมก็อยู่ในระดับมาตรฐาน และแน่นอนว่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติอย่างความตายเป็นสิ่งที่สามารถเรียกความสนใจได้จากคนดูไม่เบาเลยทีเดียว
ในส่วนของจุดด้อย หนังสยองขวัญ Flatliners ควรถูกจัดอยู่ในกลุ่มของหนังระทึกขวัญมากกว่า เพราะมันมีเรื่องที่ชวนสยองขวัญน้อยมาก โดยเฉพาะครึ่งหลังของเรื่องราวที่มีการเล่นเรื่องราวของความต่างที่ค่อนข้างโจ่งแจ้งชัดเจนมากจนเกินไป จนทำให้เรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้ไม่ยากอันเป็นการทำลายเอกลักษณ์โดยรวมของหนังไปอย่างน่าเสียดาย
รีวิวหนัง flatliners ขอตายวูบเดียว
อย่างไรก็ตามปรัชญาที่ FLATLINERS เวอร์ชั่น 1990 และ เวอร์ชั่นปี 2017 พยายามบอกคนดูก็คือการปลดปล่อยอดีตอันเลวร้ายที่ดีที่สุดนั้นคือการเผชิญหน้ากับมัน ยอมรับความความผิดพลาด ขอโทษ และก้าวเดินต่อไป อย่าปล่อยให้มันค้างคาอยู่ในใจก่อนที่เราจะ “ตาย” จากโลกนี้ไปนั่นเอง
Flatliners เป็นหนังเก่าที่เคยโด่งดังมากในปี 1990 เพราะรวมพลังทีมทำงานไว้คับคั่ง ซึ่งหลายคนโด่งดังและมีผลงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทั้งผู้กำกับ โจเอล ชูเมเกอร์ หรือจะเป็นเหล่าดารานำอย่าง คีเฟอร์ ซูเธอร์แลนด์, จูเลีย โรเบิร์ตส์, เควิน เบคอน, วิลเลี่ยม บาลด์วิน และโอลิเวอร์ แพลตต์ ก็ตาม Elliot Page
นอกจากนี้ความน่าสนใจของมันยังอยู่ที่พลอตไซไฟขายไอเดียแปลก โดยเป็นผลงานการเขียนบทของมือเขียนบทที่ผลงานไม่มากนักอย่าง ปีเตอร์ ฟิลาร์ดิ ว่าด้วยเรื่องของกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่แอบทดลองประสบการณ์หลังความตาย โดยทำการหยุดหัวใจของเพื่อนในกลุ่มแล้วค่อยทำการกู้ชีพขึ้นมา เพื่อหาคำตอบว่าหลังจากตายภาพที่เห็นนั้นเป็นสวรรค์นรกจริงหรือไม่ แล้วมันคืออะไรกันแน่ แต่แทนที่จะได้เห็นเพียงแสงปลายอุโมงก์ หรือภาพความทรงจำที่ตัดไว ๆ ตั้งแต่อดีต พวกเขากลับได้พบบางสื่งที่เขาพยายามลืมมันไปแล้ว และมันยังตามกลับมาหลอกหลอนในโลกความจริงหลังจากนั้นด้วย
มารอบนี้หนังได้ นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ ผู้กำกับ The Girl With The Dragon Tattoo (2009) ฉบับดั้งเดิมภาษาสวีเดน กลับมารีเมกโดยหวังว่าจะสานต่อความสำเร็จจากปี 1990 อีกครั้ง ซึ่งหน้าที่เขียนบทก็เป็นหน้าที่ของ เบน ริปลีย์ ที่มีผลงานในแนวไซไฟอย่าง Source Code (2011) ทั้ง 2 ภาค ส่วนดาราก็ดำเนินรอยตามหนังฉบับเดิมโดยเอาดาราวัยรุ่นที่ชื่อรอง ๆ มาเล่นเสียส่วนใหญ่ทั้ง ดีโก ลูนา, นินา โดเบรฟ, เจมส์ นอร์ตัน, เคอร์ซี เคลมอนส์ โดยดาราใหญ่สุดเห็นจะเป็น เอลเลน เพจ ในบทหัวหน้าก๊วน กับการมาเซอร์ไพรส์รับเชิญในบทอาจารย์หมอของ คีเฟอร์ ซูเธอร์แลนด์ นั่นเอง
รีวิวหนัง flatliners ขอตายวูบเดียว
ถ้าพูดกันแบบไม่อคติเลย ก็คงต้องบอกว่าเป็นหนังแนวไซไฟสยองที่ทำได้ดีปานกลาง ให้ความรู้สึกแนวหนังวัยรุ่นฆาตกรรม หรือเผชิญสิ่งเหนือธรรมชาติแบบโง่ ๆ ตามวัย เช่นเดียวกับหนังแนวนี้ที่โหมทำออกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งถ้าไม่เคยดูฉบับเดิมเมื่อปี 1990 มาก่อนด้วยแล้ว นี่เป็นหนังที่มีอะไรให้ติดตามอยู่พอสมควรสำหรับคอหนังรุ่นเยาว์ที่เอาบันเทิงมากกว่าการครุ่นคิดจริงจัง เพราะตัวละครในเรื่องแทบไร้เหตุผลในการกระทำของตัวเองเกือบสิ้นเชิง
เอลเลน เพจ มารับบท คอร์ทนี่ย์ ต้นคิดในการดึงเพื่อนมาทดลองกับเธอ โดยเธอมีประสบการณ์เสียบุคคลใกล้ชิดไปในอดีต ซึ่งเปรียบไปก็คล้ายบทของซูเธอแลนด์ในเวอร์ชั่นเดิมที่ชักนำเพื่อนๆสู่การทดลองโดยไม่สนคำคัดค้านเพียงเพื่อต้องการล่วงรู้ความลับหลังความตายสไตล์นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ผสมกับบทของจูเลีย โรเบิร์ตส์ ที่ผ่านการสูญเสียบุคคลใกล้ชิดและต้องการทดลองเพื่อรู้ว่าบุคคลนั้นได้จากไปสู่สิ่งที่ดีหรือไม่ ต่างกันแค่ว่าตัวละครของเพจ ไร้เหตุชัดเจนว่าทำไมเธอถึงคิดไอ้การทดลองนี้ขึ้นมาโดยขาดการอธิบายแบบทั้งของซูเธอแลนด์และจูเลีย โรเบิร์ตส์ นี่คือสิ่งแรกที่ทำให้เราไม่อินกับตัวละครและเรื่องการทดลองนี้
และยิ่งนานไปหนังก็เหมือนไม่ได้สร้างเหตุผลอะไรชัดเจนว่า มีคำคัดค้านมากมายที่สมควรหยุดการทดลองแต่ทำไมตัวละครยังดึงดันทำการทดลองต่อ โดยเฉพาะบทของดีโก ลูนา ที่ทำหน้าที่คัดค้านหรือเป็นสติของกลุ่มเช่นเดียวกับที่เควิน เบคอนเคยแสดงไว้ แต่บทของดีโกกลายเป็นความสับสนงงชีวิตที่สุด เพราะแม้ปากจะคัดค้านทุกอย่าง แต่การกระทำคือเขามาช่วยตลอด ทั้งยังไปร่วมฉลองความสำเร็จในแต่ละครั้งอยู่เป็นนิจเสียด้วย อะไรของมัน?
พอหนังพยายามผลักเรื่องไปตามพลอตที่วางไว้ โดยไม่สนใจการสร้างตัวละคร จึงเป็นความวินาศในการสร้างความผูกพันให้คนดูเอาใจช่วย หรือแม้แต่เชื่อว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง เราเลยรู้สึกเมามันกับความเป็นหนังบันเทิงที่จับเอาวัยรุ่นหน้าตาดีมาไล่ฆ่าทิ้งเสียมากกว่า ซึ่งน่าเสียดายเพราะฉบับเดิมนั้นมีความเข้มแข็งในบทดราม่า มีเหตุผลและจุดยืนของตัวละครแต่ละตัวที่ดี ไม่ว่าจะหวังความสำเร็จด้านอาชีพ ต้องการชื่อเสียง ต้องการแก้ความสงสัยในเชิงวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่ยอมเสี่ยงทดลองเพื่อปกป้องคนที่รัก นั่นยังรวมไปถึงฉบับเดิมให้การคลี่คลายปมกรรมตามทันของแต่ละตัวละครได้กลมกล่อม และลงตัวได้ข้อคิดกว่ามาก ๆ ด้วย ซึ่งหาไม่ได้ในเวอร์ชั่นนี้
โดยรวมหนัง flatliners ขอตายวูบเดียว
รีวิว flatliners ขอตายวูบเดียว สำหรับผู้เขียน หนังสยองขวัญ Flatliners rotten tomatoes ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่มีแนวในการเล่าเรื่องและโรงเรื่องที่ดีน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากใครอยากที่จะทำการหยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมารับชมก็ไม่อยากจะให้คาดหวังกับความสยองขวัญที่ได้รับมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้หนังดูไม่สนุกนั่นเอง
ถ้าหากให้แนะนำหนังสยองขวัญ Flatliners ก็ถือว่าเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่เก็บเอาไว้ดูตอนที่ว่าง ๆ ได้ แบบที่ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อนหามาดูแต่อย่างใด…
สำหรับคะแนน รีวิวหนัง Flatliner ขอตายวูบเดียว นั้นในส่วนของบทภาพยนตร์ถือตื่นเต้นเร้าใจเดินเรื่องได้กระชับฉับไว ไม่เยิ่นเย้อ ผมให้คะแนนในส่วนนี้ที่ 9/10 ในส่วนของดารานักแสดงนำ แสดงกันได้ดี หน้าตาก็ดี กันแทบทุกคน ผมให้ 8.5/10 สำหรับข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ อันนี้ผมให้เต็ม 10/10 คือข้อคิดดีงามมากโดยเฉพาะเรื่องความฝังใจกับความผิดพลาดในอดีตกับการให้อภัยตัวเอง โดยรวม คะแนน รีวิวหนัง Flatliners ขอตายวูบเดียว ผมให้ที่ 9/10 ถือเป็นหนังที่ดูแล้วได้คิด ได้ปลงกับชีวิต และได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ถือว่าครบเครื่องทั้งความสนุกและสาระ ไปดูได้ครับ ไม่เสียดายตัง
สำหรับคะแนน รีวิวหนัง Flatliners (1990) ขอตายวูบเดียว นั้นในส่วนของบทภาพยนตร์ถือตื่นเต้นเร้าใจเดินเรื่องได้กระชับฉับไว ไม่เยิ่นเย้อ ผมให้คะแนนในส่วนนี้ที่ 9/10 ในส่วนของดารานักแสดงนำ แสดงกันได้ดี หน้าตาก็ดี กันแทบทุกคน ผมให้ 8.5/10 สำหรับข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ อันนี้ผมให้เต็ม 10/10 คือข้อคิดดีงามมากโดยเฉพาะเรื่องความฝังใจกับความผิดพลาดในอดีตกับการให้อภัยตัวเอง โดยรวม คะแนน รีวิวหนัง Flatliners ขอตายวูบเดียว ผมให้ที่ 9/10 ถือเป็นหนังที่ดูแล้วได้คิด ได้ปลงกับชีวิต และได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ถือว่าครบเครื่องทั้งความสนุกและสาระ ไปดูได้ครับ ไม่เสียดายตัง