รีวิวหนัง revenge(2017) ดับแค้น
รีวิวหนัง เป็นหนังแก้แค้นที่โคตรสะใจ โคตรเอาใจช่วย เป็นหนังที่ใช้ทุนต่ำ ใช้นักแสดงน้อย แต่มีประสิทธิภาพสูงมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวไซด์ไลน์คนหนึ่ง ถูกเศรษฐีคนหนึ่งนำตัวไปหาความสุข ยังบ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่ง และเศรษฐีคนนั้นก็ได้นัดเพื่อนอีก 2 คนเพื่อทำการล่าสัตว์ แต่แทนที่เพื่อนอีก 2 คนจะออกล่าสัตว์ กับตลกหลังเพื่อนชาย โดยข่มขืนหญิงสาวไซด์ไลน์คนนี้ในระหว่างที่เพื่อนชายไม่อยู่บ้าน และเมื่อเพื่อนชายกลับมา แทนที่จะช่วยหญิงสาว กลับต้องการที่จะปิดปากหญิงสาว ตัวเองผักเธอตกหน้าผา จากนั้นเรื่องก็ดำเนินขึ้นไปอย่างน่าตื่นเต้น
หนัง revenge (2017) ภาพสวยมาก
รีวิวหนัง revenge(2017) ดับแค้น นับเป็นหนังที่มีภาพสวยมุมกล้องสวยมาก ใช้ศิลปะด้านภาพสูงมาก ใช้สัญลักษณ์ดีมาก โดยเน้นไปที่ผู้ล่า ผู้ถูกล่า ดังนั้นหัวใจของเรื่องอยู่ที่ “สถานะของผู้ล่ากับผู้ถูกล่า” สำหรับผมแล้วให้สนุกกว่า The Revenant (2015) ซะอีก เพราะเรื่องไม่ยาวเกินไป มีความกระชับ ดูแล้วรู้สึกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่รู้สึกเสียเวลา สนุกจริงอะไรจริง ข่าวหนังnetflix
นางเอก Matilda Anna โคตรของโคตรสวย หุ่นดีสุดในสามโลก สวยจนจะบ้า! เรื่องนี้เธอเกือบจะแก้ผ้าทั้งเรื่อง ใครอยากดูเธอแก้ผ้าเชิญเลย โคตรเนียน ผู้หญิงบ้าอะไรใส่กางเกงในตัวเดียว สปอร์ตบราตัวเดียว แถมยังบาดเจ็บสะบักสะบอมต้องพยายามแก้แค้นให้ได้ แล้วเธอก็สู้จนแบบ “สู้เย็บตา สู้กับผู้ชายตัวโต ๆ ได้ แม้จะทุลักทุเลก็ตาม ดูหนังออนไลน์
รีวิวหนัง revenge(2017) ดับแค้น
เรื่องความโหดความซาดิสไม่ต้องพูดถึงระดับเรท R สะใจมาก เลือดท่วมจอ หลายฉากต้องหยีตาดู ความสมจริงหรือตรรกอะไรก็อย่าไปพูดถึง เพราะว่าหนังคือหนัง แค่ดูแล้วสนุกก็โอเคนะ หาชมได้ใน Netflix ครับ
ทั้งเรื่องเล่นหลักๆกันไม่กี่คน แต่ความสนุกแทบจะเต็มสิบ โดยเฉพาะการให้คำนิยามไม่ต่างกับ I Spit on Your Grave ที่ลดระดับความหดหู่มาเป็นความมันส์บ้าเลือด และอุดมด้วยความโหดเสมือนจริง ซึ่งต้องยอมรับว่าทีมงานเมคอัพทำงานได้จัดเต็มทั้งหัวระเบิด ถูกยิง ไม้เสียบ และอื่นๆ จนน่าจะถูกอกถูกใจคนชอบเทคนิคแบบเก่าที่สมจริงสมจัง ทว่าปริมาณเลือดออกจะมากไปหน่อย แต่จะเป็นข้อเสียที่เห็นแล้วเอียนหรือไม่นั้น ขึ้นกับตัวผู้ชมเพราะอย่างที่บอกเรื่องนี้จัดเต็ม
เนื้อเรื่อง revenge(2017) ดับแค้น
เรื่องราวในหนังเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจน (มัลทิด้า ลัทซ์) เดินทางมากับเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของริชาร์ด (เควิน เจนเซนส์) มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ หน้าตาดี ก่อนเราจะได้รู้ว่าจริงๆริชาร์ดแต่งงานมีเมียแล้วเรียบร้อย ส่วนเจนนั้นไม่เป็น “สาวหิ้ว” ก็เป็น “กิ๊ก” สักอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อราคะอันแสนร้อนแรงลุกโชนขึ้น บ้านพักตากอากาศที่เหมือนเป็นโอเอซิสกลางทะเลทรายก็ไม่อาจจะดับความร้อนแรงของเพลิงปรารถนาของทั้งสองได้ แน่นอนว่าทั้งคู่มีเซ็กส์กันอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน
แต่แล้วเพื่อนที่ไม่ได้รับเชิญของริชาร์ดก็ปรากฏตัวขึ้นหลังจากการเดินทางไปล่าสัตว์ สแตน (วิเซนต์ โคลอมเบ้) และ ดิมิทรี (กุยลัวเม่ โบเชดี้) ก็ตะลึงกับความสะบึมของเจนจนน้ำลายหก ในคืนนั้นเองด้วยความเลยเถิด เจนพยายามยั่วสวาทสแตนเพื่อปลุกอารมณ์เสียวของริชาร์ด โดยที่เธอหารู้ไม่ว่ากำลังหาภัยใส่ตัวเอง
เช้าวันถัดมาริชาร์ดออกไปทำธุระข้างนอก เจนตื่นขึ้นมาในชุดกางเกงในตัวจิ๋วและยกทรงคับติ้ว แน่นอนว่าสแตนที่กำลังรอโอกาสเหมาะที่จะเข้าหาเจน จึงพยายามคุกคามเธอและในที่สุดเจนก็ถูกแสตนข่มขืนอย่างเจ็บปวด เมื่อริชาร์ดกลับมาเขาจึงพยายามคลี่คลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่แล้วเจนกลับยื่นข้อเสนอว่าให้เขาเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับเธอกลับไป ไม่เช่นนั้นเธอจะโทรฟ้องเมียของเขา แน่นอนว่าชายหนุ่มอย่างริชาร์ดไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เจนถูกวิ่งไล่กวดไปจนถึงหน้าผา และริชาร์ดก็หาทางออกสุดโหดให้กับเหตุการณ์นี้ด้วยการผลักเธอให้ตกลงไปและร่างเสียบอยู่กับกิ่งไม้! ชายทั้ง 3 กับทะเลทรายอันเวิ้งว้างมั่นใจว่าเจนตายแล้ว พวกเขาจึงกลับไปที่บ้านและวางแผนจัดการศพ แน่นอนว่าเจนที่อยู่ในสภาพปางตายพยายามเรียกสติกลับมาและหาทางเอาชีวิตรอด Revenge Netflix
แต่ก่อนที่เธอจะรอด เธอต้องจัดการชายทั้ง 3 คนที่พยายมจะฆ่าปิดปากเธอ เหตุการณ์ในช่วงหลังของหนังจึงเป็นความบ้าคลั่งของเจนในการพยายามต่อสู้กับผู้ชายทั้ง 3 ซึ่งหนังก็ใส่ “สไตล์” การกำกับภาพอันแสนหวือหวา การเร้าอารมณ์ด้วยการใช้ดนตรีประกอบที่มีความคุกคาม หรือการใช้องค์ประกอบภาพที่เน้นบรรยากาศโดยรอบที่ทำให้เราเห็นความเวิ้งว้างของทะเลทรายเป็นการสื่ออารมณ์ความสิ้นหวังและกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดของตัวละครแต่ละตัวด้วย
รีวิวหนัง revenge(2017) ดับแค้น
เจน (Matilda Anna Ingrid Lutz) สาวน้อยที่คล้อยตาม ริชาร์ด (Kevin Janssens) หนุ่มคนรวยเพราะเธอคืออีตัวที่อยากสุขสบาย ทว่าในพื้นที่แห้งแล้งห่างไกลเหมือนไม่มีใครนอกจากเขาและเธอ ดันมีเพื่อนมาเพิ่มอีก 2 คน (Vincent Colombe และ Guillaume Bouchède) ที่เหมือนจะไม่มีอะไรเพราะมาร่วมสนุกสุขสันต์เป็นธรรมดา แต่แล้วเพื่อนไม่อาจห้ามใจและเข้าไปข่มขืนเธอจนเรื่องทั้งหมดไม่อาจควบคุมได้ จนที่สุดต้องร่วมด้วยช่วยกันฆ่าปิดปากเธอ ซึ่งเธอไม่ตาย!
Matilda Anna Ingrid Lutz เป็นผู้หญิงที่น่ารักและเซ็กซี่ชวนเย้ายวน จึงไม่แปลกถ้าบทจะเป็นอีตัวที่ใครๆต้องสะดุดตา(รวมถึงตัวผู้ชมที่ต้องคล้อยตามกันบ้างแหละ) แต่ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอทำอะไรไม่เป็นจะลุกขึ้นสู้ แน่นอนว่าบทอาจไม่ถึงขั้นชวนน่าหดหู่มากนัก กระนั้นสายตาที่กำลังจะถูกข่มขืนเป็นสิ่งที่ส่งมาให้ช่วยเหลือโดยไม่ต้องปริปากขอ ทว่าไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากฟังเสียงกรี๊ดร้อง ด้วยวิธีการเล่าที่ไม่ต้องเห็นก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด เป็นฉากที่เห็นแล้วน่าหดหู่โดยไม่ต้องทำอะไรให้ยืดยาว a beauty of revenge เต็มเรื่อง พากย์ไทย
การให้ภาพลักษณ์ผู้หญิงด้วยการแต่งตัวน้อยชิ้นและเป็นฝ่ายเร้าอารมณ์ก่อนเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของบทนางเอก แต่ใครจะไปคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการแสดงของ Kevin Janssens ที่ทุ่มการแสดงแบบไม่นับชิ้นผ้าเพราะไม่อะไรให้นับ ทำให้ไคล์แม็กซ์มาพร้อมกับสมจริงจนไม่สนความเหมาะสมว่าตัวละครจะทำอะไรอยู่ ทำให้ฉากนี้มีความแปลกตาเพราะล่อนจ้อนเห็นมากกว่าตูดทั้งที่เป็นฉาก Long Take
ทุนน้อยแต่ได้อารมณ์ครบเครื่อง โดยเฉพาะการใส่จังหวะ Retro อารมณ์แนวยุค 80s ที่เข้ากับตัวหนังได้อย่างพอดิบพอดี แล้วไหนจะองค์ประกอบที่มีสีจัดจ้านชวนสะดุดตาตลอดเวลา รวมไปถึงโลเคชั่นในทะเลทรายแสนแห้งแล้งและว่างเปล่า โดยรวมทั้งหมดทำได้ถึงอารมณ์น่าติดตามตลอดเวลา แม้ช่วงแรกอาจต้องรออยู่บ้าง แต่เมื่อดำเนินเรื่องมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อไรจะหยุดไม่อยู่ทันทีเพราะลูกเล่นของหนังมีให้ตื่นตาอยู่เรื่อยๆ
แต่ละฉากล้วนติดตาและต่อเนื่องไปกับการร่วมลุ้นของตัวละคร โดยฉากที่ทำเอาเหวอมากที่สุดคือฉากเศษกระจกบาดเท้า ซึ่งบาดเฉยๆอาจไม่เท่าไร แต่อย่าลืมว่างานเมคอัพไม่หยุดเพียงแค่แผลตื้นแค่นั้น แต่นี่เต็มที่จนรู้สึกหยิกๆอยู่ที่ฝ่าเท้าเพราะต้องเอาเศษกระจกออกจากแผลที่ลึก นับเป็นฉากที่หวาดเสียวและลุ้นเสียเหลือเกินว่าเมื่อไรจะจบ ทว่าฉากที่มีระดับด้วยลูกเล่นการตัดต่อที่แสนชวนสะดุ้งและสะอิดสะเอียนคือฉากสมานแผล เพราะเป็นฉากกรีดท้องตัวเองแบบใกล้ๆเห็นเต็มตา ซึ่งเวลาต่อมาคืออาการหลอนจากฝันซ้อนฝันที่เหวอแล้วเหวออีกไม่จบลงง่ายๆ
Revenge คือหนังแก้แค้นที่ดุเดือดเลือดพล่านไหลออกมาเป็นแกลลอน ตัวละครต่างก็อึดไม่ตายง่ายราวกับพยายามยื้อให้เห็นถึงความบ้าเลือดของตัวละครถึงขีดสุด การร่วมลุ้นเอาใจช่วยได้กลายเป็นความสะใจที่แสนบันเทิง แต่สิ่งที่น่าปรบมือที่สุดคือการวางมิติตัวละครที่อ่อนแอมาเป็นสาวแกร่งราวกับอีกคนมาเอง ทั้งฉลาด หัวไว และช่างสังเกต ทำให้เป็นตัวละครที่ชอบมากที่สุด ถือเป็นหนังแก้แค้นที่พูดน้อยแต่ต่อยหนักถึงตาย ถ้าไม่เชื่อต้องลองดูเพราะการเล่าเรื่องและองค์ประกอบถึงอารมณ์จนไม่เชื่อว่าเป็นผู้กำกับหญิงทำเองและนี่คือหนังยาวเรื่องแรกอีกด้วย
พล็อตหนังและความรู้สึกหนังดู revenge(2017) ดับแค้น
รีวิวหนัง revenge(2017) ดับแค้น พล็อตแนวผู้หญิงผู้กระทำย่ำยีจนไม่เหลือความเป็นคน แล้วท้ายที่สุดเธอก็พลิกมาเป็นฝ่ายตามล่าเอาคืนผู้ชาย ไม่ใช่พล็อตใหม่ แต่เป็นพล็อตสากลโลก แบบละครซีรีส์อย่าง “ล่า” ที่มธุสร (หมิว ลลิตา) สร้างปรากฏการณ์ผู้ชายอย่าได้ท้าลองดีกับผู้หญิงอยู่พักใหญ่ สิ่งเรานี้กำลังบอกอะไรเราอยู่ มันกำลังบอกถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศสภาพ หลายครั้ง การใช้อำนาจคุกคามด้วยการใช้กำลังเพื่อทำให้อีกฝ่ายสมยอมต้องจำนนเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดกับใครทั้งสิ้น
ความสนุกของ Revenge จึงเป็นการติดตามชีวิตตัวละครทั้ง 4 ตัว ว่าใครจะอยู่ ใครจะตายก่อนกัน และนางเอกของเรื่องจะหาวิธีการอะไรมาเอาชีวิตรอด และในที่สุดการชำระแค้นของเธอจะสำเร็จหรือไม่
ทุกวันนี้ ‘ความถูกต้อง’ ‘ความจริง’ หรือ ‘ความยุติธรรม’ ยังเป็นสิ่งที่สังคมมองหาอยู่อีกเหรอ? นี่คือคำถามสีเทา ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัว ขณะที่กำลังดู ‘Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น’ ไปได้เพียงไม่กี่นาทีของ Ep. 1 ยอมรับตามตรงเลยว่าเมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของ ‘พัคแซรอย’ ผู้ชายที่เรียนไม่จบ ม.ปลาย พ่อตาย แถมยังติดคุกคนนี้ มันช่างเป็นคำพูดที่น่าโดนดูถูกด้วยคำว่า ‘โลกสวย’ เสียเหลือเกิน… Revenge (2018)
ความรู้สึกหลังดู
ซีรีส์พาเราไปรู้จักกับโลกของ ‘พัคแซรอย’ ชีวิตมหัศจรรย์ของเด็กหนุ่มผู้(อยาก) โค่นยักษ์ ผู้ใช้ทั้งชีวิตแลกกับความฝันอันยิ่งใหญ่ แบบที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ทั้งที่เรียนไม่จบ ติดคุก โดนซ้อม ออกจากคุกมาก็ไปทำงานประมง หรือแม้กระทั่งงานกรรมกรที่แสนสาหัสแซรอยก็ผ่านมันมาแล้วทั้งหมด ความสำเร็จที่เขาวาดฝันเอาไว้ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ใกล้ ๆ แค่ในหนังสือเล่มเล็กที่คนทำชีวิตของเขาพังเป็นผู้เขียนมัน
และแม้ว่าเราในฐานะคนดูจะเคยดูถูกความโลกสวยในคาแรกเตอร์ของ ‘พัคแซรอย’ เอาไว้(เหมือนที่คู่ปรับอย่างประธานจางแดฮีก็เคยดูถูกเขาแบบนี้) แต่บอกเลยว่าทันทีที่ดู Ep.8 จบ คาแรกเตอร์ของ พัคแซรอย กลายเป็นสิ่งที่เรารักที่สุดในซีรีส์ คือต้องยกความดีความชอบให้ พัคซอจุน ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของพัคแซรอยออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ ความหัวขบถเล็ก ๆ ที่มาพร้อมจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นผสมกับความใสซื่อนั้นถูกบอกเล่าผ่านสีหน้า ท่าทาง และคำพูดได้อย่างหมดจด บทจะซื่อ ๆ งง ๆ ก็น่ารักน่าเอ็นดู บทจะดราม่าตึงเครียดก็ใส่เต็มจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัดและเจ็บปวดจริง ๆ ของตัวละคร จนเรียกได้ว่าฝีมือทางการแสดงนั้นแทบไร้ที่ติ
ศัตรูคู่อาฆาตอย่างสองพ่อลูก จางกึนวอน (รับบทโดย อันโบฮยอน) และ ประธานจางแดฮี (รับบทโดย ยูแจมยอง) คือส่วนผสมชั้นดีที่อยากจะเกลียดก็เกลียดไม่ลงจริง ๆ เพราะสองคาแรกเตอร์นี้ถูกสร้างมาให้เป็นทั้งศัตรูและครูในเวลาเดียวกันของแซรอย เราจะได้เห็นว่าครอบครัวแบบไหนที่สร้างคน ๆ หนึ่งให้กลายมาเป็นปีศาจร้าย และมันเลวร้ายจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะสามารถเข้าใจความรู้สึกลึก ๆ ของคาแรกเตอร์สีเทาจนเกือบดำมืดอย่างจางกึนวอนได้ หรือแม้แต่เราจะให้ความรู้สึกเคารพในความน่าเกรงขาม ของคาแรกเตอร์อย่างประธานจางแดฮีได้ แม้ว่าคนพวกนี้จะเคยเหยียบย่ำตัวละครที่เรารักไว้แค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างตัวละครของซีรีส์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
โดยเฉพาะกับตัวละครหลักอื่น ๆ เช่น โจอีซอ (รับบทโดย คิมดามิ) สาวน้อยไอคิว 162 ที่เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญในชีวิตของแซรอย และ โอซูอา (รับบทโดย ควอนนารา) รักแรกและรักเดียวผู้ยืนอยู่คนละเส้นทางกับแซรอย นางเอกทั้งสอง(?) ของเรื่องที่แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่จะได้เป็นตัวจริงของพ่อหัวเกาลัค แต่ความน่ารักและเสน่ห์อันเหลือล้นที่มาพร้อมบทบาทที่ต่างกันแบบสุดขั้ว มันทำให้เราคนดูสามารถหลงรักพวกเธอทั้งคู่ได้ไม่ยาก revenge ช่องวัน