รีวิวิซีรี่ย์ Youth of May
รีวิวหนัง สวัสดีค่ะ วันนี้แอดก็ได้มีซีรีส์เกาหลีที่น่าสนใจมาฝากกันนั้นก็คือYouth of May 2021 เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ทางการเมืองของเกาหลีที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยในกวางจูในปี1980 เป็นซีรีส์ที่น่าสนใจมาก นำแสดงโดยอีโดฮยอนและโกมินซีเป็นนักแสดงมากความสามารถและเคมีของทั้งคู่ก็เข้ามากด้วย ซีรีส์เรื่องนี้จะเริ่มออนแอร์ในวันที่3พ.ค.นี้นะและสามารถรับชมได้ที่Viuนะคะ ดูหนังออนไลน์
ชื่อไทย : ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ
ชื่ออังกฤษ : Youth of May
ชื่อเกาหลี : 오월의 청춘(owol-ui cheongchun) รีวิวซีรี่ย์ netflix
ผู้กำกับ : ซงมินยอบ(Song min yeop) ผลงานก่อนหน้านี้”Doctor Prisoner”
ผู้เขียนบท : ลีคัง(Lee kang) ผลงานก่อนหน้านี้ “spy”
ประเทศ : เกาหลีใต้
ประเภท : โรแมนติก,เมโลดราม่า
จำนวนตอน :12

นักแสดง
อีโดฮยอน(Lee Do Hyun) รับบท ฮวังฮีแท นักศึกษาแพทย์ เรียนดี ตั้วใจเรียนให้จบเพื่อที่จะได้เข้าทำงานในที่ดีๆ
โกมินซี(Go Min Si) รับบท คิมมยองฮี พยาบาลสาวที่อดทนต่อสู้กับความยากลำบากในการทำงานและการหาเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอนั้นมีนิสัยเย็นชาและเป็นมิตรกับคนอื่นยาก youth of may สปอย
เรื่องย่อ Youth of May
รีวิวิซีรี่ย์ Youth of May เดือนพฤษภาคม ปี 1980 ฮวังฮีแท นักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยโซลเดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองกวางจูเพื่อทำเรื่องย้ายผู้ป่วยติดเตียงคนหนึ่ง และได้พบกับคิมมยองฮี พยาบาลสาวในห้องฉุกเฉินที่ทำงานส่งเงินให้ครอบครัวที่อาศัยอยู่อีกเมือง ทั้งสองคนพบกันในเดือนพฤษภาคมที่ดอกไม้ผลิบาน เช่นเดียวกับความรักที่ผลิบานในใจคนทั้งสองภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายและไม่สามารถรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า
ฉากแรกเปิดมาด้วยการพบโครงกระดูกที่ไซต์ก่อสร้างในเมืองกวางจู ปี 2021 เท่านี้ก็รู้เลยค่ะว่าเรื่องนี้ต้องมีคนตาย และเกิดเป็นคำถามให้ผู้ชมได้เดากันว่าโครงกระดูกที่พบนั้นคือใคร จากนั้นเรื่องก็เล่าย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 ที่เกาหลีใต้ยังคงถูกปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการและยังมีทีท่าว่าจะเกิดการรัฐประหารขึ้น ปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน มีการข่มขู่คุกคามถึงขั้นทำร้ายร่างกายอย่างสาหัสหรือถึงกับทำให้หายสาบสูญกับผู้ต่อต้านรัฐบาล ผู้ต่อต้านรัฐบาลเหล่านั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์และมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง (คำว่าคอมมิวนิสต์ของเกาหลีใต้ ณ เวลานั้น น่าจะหมายถึงเป็นสายลับจากเกาหลีเหนือ) youth of may เรื่องย่อ

ความน่ารักสดใสของนักแสดง
ความน่ารักของนักแสดงนั้นก็ต้องให้เต็มร้อยเลย น่ารักสดใสสมวัย เคมีในการแสดงเข้ากันมาก หญิงก็สวยชายก็หล่อโดยรวมถ้าว่าลงตัวมาก
ฉากและเพลงประกอบ
สำหรับฉากที่ประทับใจยังไม่มีนะ เพราะว่าในทีเซอร์ที่ปล่อยออกมานั้นน้อยมากก็ยังไม่มีฉากไหนที่โดนใจเป็นพิเศษ
และสำหรับเพลงประกอบนั้นทาง official ก็ยังไม่ได้ปล่อยออกมานะต้องรอกันอีกหน่อยนะ
รีวิวิซีรี่ย์ Youth of May
Youth of May – ซีรีส์เกาหลีย้อนยุคที่จะพาเราย้อนกลับไปยังเดือนพฤษภาคม ปี 1980 ณ เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ โดยเล่าเรื่องราวผ่านความรักของคนสองคนท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ และซีรีส์เรื่องนี้อ้างอิงถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ผู้ชุมนุมที่ปักหลักเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นเวลา 10 วันที่กวางจูหรือที่รู้จักกันว่า Gwangju Uprising
หลายคนอาจรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับอีโดฮยอนในบทเด่นจากเรื่อง Hotel Del Luna, 18 Again และโกมินชีจากเรื่อง Hello, my twenties 2, Love Alarm, etc. และทั้งสองยังได้รับบทเป็นพี่น้องกันในเรื่อง Sweet Home ซึ่งใครที่ดูไปแล้วจะรู้ว่าพี่น้องคู่นี้ดูไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร เมื่อกลายมาเป็นบทพระเอกนางเอกในเรื่อง Youth of May ก็จัดว่าเคมีเข้ากันสุด ๆ youth of may เรื่องจริง
นอกจากความคุ้นหน้าคุ้นตาพระเอกและนางเอกของเรื่องแล้ว เราเชื่อว่ามีหลายคนที่แม้จะยังไม่ได้ดู ก็ได้เห็นบางฉากในเรื่องนี้มาจากทวิตเตอร์ ส่วนตัวเราเห็นทวีตที่พูดถึงตอนจบของเรื่อง เรียกได้ว่าโดนสปอยล์ยับตั้งแต่ยังไม่เริ่มดูเลยค่ะ แต่ก็เป็นตอนจบที่ทำให้เราตัดสินใจกดดูซีรีส์เรื่องนี้เช่นกัน
Youth of May รับชมได้ทาง VIU นะคะ
แม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์เกาหลีที่โหดร้ายและตึงเครียด ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างชูประเด็นความรักของพระเอกและนางเอกเป็นหลักโดยมีความเกี่ยวข้องทางการเมืองของทั้งคู่และคนรอบตัวคอยส่งให้ความรักครั้งนี้มีทั้งรสหวานและขมในเวลาเดียวกัน หวานด้วยความรักอย่างสุดหัวใจที่มีให้กันแม้พบเจอไม่กี่ครั้ง แต่ก็ขมด้วยอุปสรรคอย่างสิ่งที่ไม่สามารถหลีกหนีได้อย่างครอบครัวของทั้งคู่ที่มีสถานะทางสังคมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งอุดมการณ์ทางการเมืองที่เห็นได้ชัดว่าฮวังกีนัม, พ่อของฮีแทอยู่ฝ่ายเผด็จการอย่างชัดเจนในขณะที่คนรอบตัวฮีแทและมยองฮีนั้นเรียกร้องประชาธิปไตยกันสุดความสามารถ แต่ด้วยรสหวานและขมนี้ก็ทำให้มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครด้วยเป็นอย่างดีและยังคงนำเสนอผลกระทบจากการปกครองแบบเผด็จการต่อประชาชนในตอนนั้นได้ดีเช่นกัน
เอาตรง ๆ ตอนแรกนึกว่าเนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่การประท้วงต่อต้านรัฐบาล เรียกร้องประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่พอดูจนจบแล้วเราคิดว่าเนื้อเรื่องส่วนที่พูดถึงการเป็นแอคทิวิสต์ของซูรยอนและเพื่อน ๆ แกนนำน้อยแล้วก็จางไปหน่อย ซูชานที่เป็นพี่ชายซูรยอนก็ไม่ได้เข้าใจน้องสาวขนาดนั้น ขนาดฮีแทกับมยองฮีที่มีเพื่อนเป็นแกนนำนักศึกษาก็ดูไม่ได้สนใจและมีส่วนร่วมทางการเมืองอะไรมากมาย โดยเฉพาะฮีแทที่ต้องทำตัวเชื่อฟังพ่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนของมยองฮีนี่เราเดาเอาเองว่าอาจเป็นเพราะมยองฮีตกอยู่ใต้ความหวาดกลัวจากเรื่องในอดีตเลยเลือกที่จะอยู่อย่างเงียบ ๆ

อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวละครที่ดูเหมือนไม่ตื่นตัวทางการเมืองคงมีเหตุผลแหละค่ะ อย่างแรกคือทางผู้สร้างตั้งใจให้ออกมาโรแมนติก จากที่เราบอกไปข้างบนว่าเรื่องนี้ค่อนข้างโฟกัสความสัมพันธ์ฮีแทและมยองฮี ทำให้เป็นเรื่องราวความรักท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติรวมทั้งปัญหาจากครอบครัวด้วย เหตุผลต่อมาที่เราตีความเอาเองคือทุกคนหนีไม่พ้นการเมือง ถึงใครจะเลี่ยงหรือเมินเฉยกับการแสดงออกทางการเมืองเพราะไม่อยากโดนจับตัวไปสอบสวนหรืออะไรก็แล้วแต่ การใช้ชีวิตประจำวันปกติแต่หวาดกลัวกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การถูกลิดรอนเสรีภาพ หากใครคิดต่างจากสิ่งที่รัฐอยากให้คิดก็จะตกอยู่ในอันตราย นั่นก็คือความไม่ปกติและผลกระทบจากการเมืองต่อทุก ๆ คน อะไรทำนองนี้ และเพื่อให้มีตัวละครที่เป็นตัวแทนของ privileged people ที่ ‘ถ้าไม่เจอกับตัวก็คงไม่มีวันเข้าใจ’ ด้วย
กว่าฮีแทและมยองฮีจะได้มีความสุขด้วยกันในเวลาสั้น ๆ ก็ต้องผ่านอุปสรรคที่เกิดจากทั้งคนรอบข้างและตัวเองเยอะแยะไปหมด คือตอนที่ดูเหมือนโดนเหวี่ยงให้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วโดนกระชากกลับลงมากระแทกพื้นอีกที เป็นความรู้สึกแบบนี้อยู่แทบทั้งเรื่องเลยค่ะ นี่ดูซีรีส์หรือนั่งรถไฟเหาะก็ไม่รู้ แล้วความรักและความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือเหมือนกับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการหลังจากทั้งชีวิตที่ผ่านมาฮีแทต้องทำตามคำสั่งพ่อกับมยองฮีที่มีปมในใจจนไม่กล้าทำในสิ่งที่ต้องการ แต่ทั้งคู่ก็ใช้ความพยายามและความกล้าทั้งหมดในชีวิตเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่มีค่านี้ไว้สุด ๆ
อ่านมาจนถึงย่อหน้าเมื่อกี้แล้วอาจจะรู้สึกว่าแอบน้ำเน่าไปหน่อย(หรือไม่แอบนะ) นั่นแหละค่ะ ถึงจะดูน้ำเน่าแต่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่สามารถเป็นตัวแทนสะท้อนถึงความสูญเสีย ความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นกับผู้คนในเหตุการณ์จริง นำเสนอผลกระทบและความโหดร้ายที่เกิดจากรัฐบาลเผด็จการ ทุกหนึ่งชีวิตที่สูญเสียไปจากเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนั้นมีครอบครัว มีคนรัก มีเพื่อน แต่เผด็จการกลับพรากชีวิตของพวกเขาทั้งที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทิ้งไว้เพียงความเจ็บปวดจากการสูญเสียและยังคงเป็นบาดแผลใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันลืมลง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านรีวิวนี้จนจบนะคะ เขียนรีวิวซีรีส์ครั้งแรกเลยไม่รู้ว่าสามารถสปอยล์เนื้อเรื่องได้ขนาดไหน(แต่ก็มีนิดหน่อย) ที่ได้อ่านไปเป็นแค่เนื้อเรื่องส่วนเล็็ก ๆ กับการตีความแบบเดา ๆ ของเราเอง มีรายละเอียดอีกเยอะแยะเลยที่เราไม่ได้พูดถึง เพราะงั้นถ้าใครดูแล้วคิดว่าไม่เหมือนกับที่เราเขียนไปก็ไม่แปลกเลย ต้องลองดูเองค่ะ
รีวิวิซีรี่ย์ Youth of May
รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่า ช่วงหลังๆ มานี่ ผลงานซีรีส์ของ อีโดฮยอน มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง น่าจะถือได้ว่าเป็นดาราดาวรุ่งที่งานชุกงานเข้ามากคนหนึ่งของเกาหลี แถมเรื่องนี้ ยังดึงเอาสองพี่น้องในซีรีส์ Sweet Home มาจับเป็นคู่พระนางกันเสียด้วย แถมเรื่องราวยังเล่าย้อนไปยังเกาหลียุควุ่นวายที่มีความเคลื่อนไหวของเยาวชนเรียกร้องประชาธิปไตยกันด้วยอีก น่าสนใจไม่น้อยเลยต้องเปิดดู
ย้อนยุคสู่ปี 1980 ที่มีการประท้วงของนักศึกษา
เหตุการณ์ในซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าย้อนไปในเวลาที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์เกาหลี ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ที่มีการประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน และเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของเหล่านักศึกษาในแถบควังจู แน่นอนว่า มีหลายตัวละครทั้งหลักและสมทบที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย สำหรับตัวหลักนั้น ตัวที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น อีซูรยอน [ที่แสดงโดย กึมแซรก]อาจเรียกได้ว่า เธอคือหนึ่งในแกนนำเลยก็ว่าได้ เธอจำเป็นต้องแอบใช้ทรัพยากรของกิจการครอบครัวตัวเองเพื่อร่วมขับเคลื่อนปฏิบัติการ และเกิดปัญหาติดตามมา แม้เพื่อนของเธออย่าง คิมมยองฮี จะมีฐานะไม่ค่อยดี จึงไม่ได้ร่วมด้วยเพราะต้องทำงานเป็นพยาบาลทันทีเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ก็มีเพื่อนฝูงของซูรยอนหลายคนที่รวมอยู่ในกลุ่มนักศึกษาผู้ประท้วง

ขณะที่ฝ่าย ฮวังฮีแท เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยในกรุงโซล เมื่อเพื่อนหลายคนจะเข้าร่วมประท้วงรัฐบาล แต่เขากลับไม่ได้สนใจในการประท้วง แถมยังขับรถคันสวยผ่ากลางกลุ่มนักศึกษาอีกต่างหาก บางคนคงตราหน้าเขาเป็นพวกอิกนอแรนซ์ไปเรียบร้อย [แต่เขามีเพื่อนเป็นทหารที่กลายเป็นผู้รักสถาบันอีกด้วยนะ]ฮวังฮีแท เป็นลูกของแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้มาอยู่ใต้ชายคาของ ฮวังคีนัม (Oh Man Seok/โอมันซอก) พ่อบุญธรรมที่เป็นหัวหน้าแผนกสืบสวนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ ฮีแทกลายเป็นความหวังในการสร้างคอนเน็คชันของคีนัม ทว่าทั้งสองไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน คีนัมคาดหวังเพียงเรื่องการเมืองและความมั่งคั่งเท่านั้น ฮีแทมีบุคลิกเกเรทำตัวเจ้าปัญหา ขณะเดียวกันก็มีความเป็นศิลปิน ไม่ยอมสอบใบประกอบวิชาชีพให้ผ่าน จะได้ยังดำรงสถานะนักศึกษาเพื่อจะได้ประกวดดนตรีได้นั่นเอง
ความแตกต่างระหว่างคนมั่งมีและคนยากจน Youth of May
รีวิวิ Youth of May ความแตกต่างกันด้านฐานะนั้นนับว่าส่งผลอย่างสูงต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของแต่ละตัวละครอย่างยิ่ง สังเกตได้จากการที่ มยองฮี ที่อยากไปเรียนต่อเมืองนอกเหลือเกิน แต่เพราะครอบครัวยากจน ประกอบกับเธอออกมามาใช้ชีวิตแยกจากครอบครัว ทำให้ต้องทำงานทั้งกะกลางวันและกลางคืนเพื่อเร่งเก็บเงินให้เพียงพอจะซื้อตั๋วเครื่องบินราคาแพงให้ได้ ทั้งยังต้องพึ่งพาอาศัยทุน ซึ่งถ้าเกิดมาบ้านรวย คงไม่ต้องปากกัดตีนถีบขนาดนี้
ขณะที่คนรวยทั้งหลาย ดูจะมีชีวิตที่ดีกว่ามาก พวกเขาไม่ต้องคิดเรื่องปากท้อง แต่กลับหมกมุ่นเรื่องการรักษาหน้าตา รักษาระดับฐานะและความมั่งคั่งอย่างการสร้างคอนเน็กชันผ่านการมีทายาทไว้เพื่อจับคู่แต่งงาน

ในเรื่องนี้ พระเอกคือคนรวยที่สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง เลือกจะยืดการจบออกไปเพื่อจะได้เข้าร่วมประกวดร้องเพลง ขณะที่นางเอกต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานดูแลคนไข้ (ที่บางรายก็ชอบมาลวนลามพยาบาล) หามรุ่งหามค่ำ และต้องยอมทำบางอย่างที่ดูไร้ศักดิ์ศรี ยอมปลอมตัวเป็นเพื่อนไปนัดบอดกับผู้ชาย หาเงินเป็นค่าเครื่องบินเพื่อไปเรียนต่อเมืองนอก ชีวิตของคนรวยกับคนจนช่างแตกต่างกันเหลือเกิน youth of may สนุกไหม