รีวิว ดิ เอ็กซ์เพ็นเดเบิลส์ 3
รีวิวหนัง The Expendables 3
มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นแห่งปีสุดมันส์ กับภาพยนตร์เรื่อง The Expendables 3 (โคตรมหากาฬ ทีมเอ็กซ์เพ็นเดเบิลส์ 3) นี่คือภาพยนตร์ที่ยกทัพความยิ่งใหญ่ของนักแสดงและงานสร้างสุดอลังการ และเป็น สุดยอดแฟรนไชส์หนังแอ็คชั่น และ พวกเขากำลังจะกลับมาครั้ง ระห่ำความมันส์อีกครั้ง
เรื่องราว บาร์นีย์ รอส พระเอกของเราที่ได้ไปช่วยเหลือเพื่อนของเขา หรือด็อกอดีตสมาชิกทีมเพื่อหนีจาก รถไฟหุ้มเกราะกำลังหลบหนีเข้าคุกเดนซาลี่ความร้อนแรงบนเส้นทางของพวกเขาคือ The Expendables บินไปในเฮลิคอปเตอร์ออกมา และเขาก็มีภารกิจใหม่ที่ต้องไปทำและ เพื่อนๆ ของเขาและเขาต้องเผชิญหน้ากับคนมหากาฬอีกคน คอนราด สโตนแบงค์เพื่อนเก่าของเขา ดูหนัง
โดยเมื่อหลายทศวรรษก่อน อย่างไรก็ตาม บาร์นีย์คิดว่า คอนราด ตายไปนานแล้ว และ ครั้ง คอนราด สโตนแบงค์ ผันตัวไปเป็นพ่อค้าอาวุธเถื่อน และ ด้วยความบังเอิญทำให้พวกมาเผชิญหน้ากัน และ สโตนแบงค์ได้ทำการเอาคืนพระเองแบบเจ็บแสบเลยทำให้ ซีซาร์ หนึ่งในทีมได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย เลยทำให้ บาร์นีย์ รอส ต้องการล้างแค้น และ ตัวพระเอกได้แต่ตัดสินใจยุบทีมเพื่อรักษาชีวิตคนในทีมไว้ และเขาก็ได้ไปหาเพื่อนเก่าเพื่อขอให้ช่วยหาสมาชิกทีมใหม่
รีวิว ดิ เอ็กซ์เพ็นเดเบิลส์ 3
ฉากแอ็คชั่นทำออกมาดีเหมือนเคย ระห่ำ มันส์สุด สะใจสุด ๆ ตัวหนังจะเน้นไปที่เนื้อเรื่องมากขึ้น ทำให้ฉากบู้ที่แบบสะใจจริงๆมันไปอยู่ท้ายเรื่องเลย ได้ความตื่นตาตื่นใจ สร้างสรรค์ออกมาได้สนุก มีคิวบู๊ที่มันส์สะใจ ซึ่งทำให้หวนนึกถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นในบรรยากาศยุค 80 จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่ ภาพยนตร์ the Expendables 3 ภาคนี้ ทำเป็น เรท PG-13 โดยภาคก่อน ๆ ทำเป็นเรท R น่าเสียดายตรงนี้ จริงๆ แล้วเรื่อง CG มีน้อยมาก แต่จะเน้นถ่ายทำจริงมากกว่า เช่น ฉากยิงกัน ฉากสู้กัน ถือว่ามันส์ใช้ได้ ด้านรายได้ถือว่าน้อยกว่า 2 ภาคแรกมากเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังใช้ทุนสร้างแค่ 90 ล้านดอลลาร์ แต่ทำรายได้ไปแค่ 214 ล้านดอลลาร์ เท่านั้นเอง
เป็นภาพยนตร์รวมนักแสดงตำนานแอ็คชั่นสุดเก๋ามาไว้ด้วยกัน เยอะมาก และ นำแสดงโดย (“ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน”) (“อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์”) (“เจสัน สเตธัม”) (“เจ็ต ลี”) (“เวสลีย์ สไนปส์”) (“เมล กิบสัน”) (“ดอล์ฟ ลันด์เกรน”) (“แฮร์ริสัน ฟอร์ด”) (“อันโตนิโอ บันเดรัส”) (“รอนดา โรสซี”) (“เคลแลน ลุตซ์”) (“เทอร์รี ครูวส์”) (“แรนดี้ โคเทอร์”) (“วิคเตอร์ ออร์ติซ”) (“เกลน โพเวล”) ถือรวมนักแสดงไว้เยอะจริงๆ
ดารา Action จนเป็นที่รู้จักในวงการ และในภาพยนตร์เรื่องนี้ การดำเนินเนื้อเรื่องสั้น กระชับ ได้ใจความ มีการแอบแฝงมุขตลกเล็กๆ น้อยๆ เรียกเสียงหัวเราะได้บ้างเป็นบางฉาก และ ในด้านการแสดง และบทบาท ตัวละครออกมาดูดีใช้ได้
ไม่ผิดหวังเท่าใดนักกับลีลาบู๊แอ็คชั่นของแต่ละตัวละครที่ทำให้ถึงเครื่องเท่าจะทำได้ที่เคยมีมาแถมยังโชว์ความเก๋าเท่เข้ากันสุด ๆ โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง แน่นอนว่าแม้สังขารจะร่วงโรยไปตามวัยแต่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน พี่แกก็เล่นบทบู๊แหลกลุยตลาดอย่างฉากสู้กันเป็นอะไรที่อลังการก็ทำให้คุณสนุก มันส์ ไปกันหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง ดูหนังออนไลน์
สรุป ถือว่าสนุกตามสไตล์ของหนังบู๊ โดยฉากแอ็คชั่นในภาค 3 นี่จัดมาเต็ม และ ฉากแอ็คชั่นที่ดูยิ่งใหญ่ น่าตื่นตาตื่นใจ และ แฟรนไชส์ชุดนี้ เป็นหนังรวมทีมครั้งใหญ่ ภาคนี้สนุก และ น่าจะอินกับฉากแอ็คชั่น มากเลย แต่ที่เห็นนี่ก็ถือว่าดีมากแล้ว สำหรับการพยายามที่จะเดินทางใหม่ ๆ กับแฟรนไชส์นี้
จะว่าไปแล้ว The Expendables 3 ยังถือว่าดูได้ตามสไตล์หนังบู๊ที่มีฉากแอ็กชันเน้นๆ ระเบิดเบิ้มๆ สาดกระสุนถี่ๆ ดนตรีเร้าๆ มุขฮาแทรกเป็นพักๆ เรียกว่าสูตรสำเร็จหนังบู๊ยุค 80 – 90 ถูกนำมายำไว้ในนี้ บวกด้วย Effect ที่ลงทุนอลังขึ้น ตามด้วยดาราขาลุยทั้งระดับตำนานและหน้าใหม่ มาร่วมกันบู๊แบบแน่นจอ
ดิ เอ็กซ์เพ็นเดเบิลส์ 3
กระนั้น ถ้าว่ากันถึงความเด็ดแล้วสำหรับผม ภาค 2 ถือว่ายอดที่สุด ส่วนภาค 1 ถือว่ากลมกล่อมตามมาตรฐาน ในขณะที่ภาคนี้แม้องค์ประกอบจะมาเต็มมากขึ้น แต่มันค่อนข้างจะล้นไปสักหน่อย ในแง่ฉากบู๊ ฉากลุยนั้นถือว่ายังโอเค ฉากถล่มข้าวของก็ยังสะใจอยู่ แต่จุดที่เยอะไปคือดาราครับ พวกรุ่นเก๋าน่ะไม่มีปัญหาหรอก ที่ผมตามไปดูก็เพราะพวกเขานี่แหละ และยังไงคนพวกนี้ก็เล่นได้ไม่หลุดเฟรมอยู่แล้วครับ
แต่ทีนี้หนังมี การเพิ่มดาราบู๊รุ่นใหม่ใส่ลงไป เนื้อเรื่องในส่วนของดาราใหม่ก็ถือว่าเยอะใช่ย่อย ซึ่งถ้าให้ว่าตามจริงพวกเขาก็เล่นได้โอเคนะครับ แต่ยอมรับว่าลึกๆ แล้วขณะดูมันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า… คือใจน่ะอยากดูขาเก๋ามาอวดสรรพคุณ กวนโอ๊ย หรือแบ่งกันบู๊ (แบบภาค 2) มากกว่า หนัง 4k
และพอพูดถึงดาราเก๋าๆ รายที่ถือว่าเด่นได้โล่ห์ขอยกให้ Antonio Banderas ครับ พี่แกฮา รั่ว และมั่วได้ใจ อีกทั้งหนังยังแทรกปมดราม่า (ที่อธิบายอาการพูดไม่หยุดของพี่แก) ได้อย่างพอเหมาะ ส่วน Wesley Snipes ก็พอดีๆ ครับ ไม่เด่นจัดแต่ก็มีซีนของตัวเอง อีกคนที่ถือว่าโอเคก็คือ Kelsey Grammer
ส่วน Harrison Ford ก็เรื่อยๆ ครับ ยังไม่มีซีนของตัวเองแบบเต็มๆ (ไม่เหมือนป๋า Chuck Norris จากภาค 2 ที่มาตูมเดียวเป็นตำนานไปเลย) ในขณะที่ Arnold Schwarzenegger ถือว่ากลางๆ แต่รายที่มาน้อยจนผมอึ้งคือ เฮียหลี่เหลียนเจี๋ยที่มาแบบรับเชิญอีกแล้ว บทเฮียแกน้อยจริงๆ ครับ
ป๋า Mel Gibson ที่พลิกมาเล่นเป็นตัวร้าย จริงๆ บารมีแกได้นะครับ ตอนถลึงตาเถียงท้าพี่สไลนี่ได้อารมณ์มาก แต่เสียดายความเก๋ายังไม่เยอะ และตอนแกซัดกับบาร์นี่ย์ช่วงท้ายก็ยังไม่สะใจดังคาด ครับ โดยรวมแล้วยังไม่ลงตัวเท่า 2 ภาคแรก ช่วงท้ายผมเชื่อว่าทีมงานพยายามแบ่งบทนะครับ พยายามเกลี่ยให้ทั่ว แต่พอดีตัวละครในทีมน่ะมันตั้ง 13 คน แบ่งซอยย่อยยังไงก็ยากจะทำให้ถึงใจได้ แม้ หนังจะยังไม่ลงล็อค ทว่าก็เพราะบารมีพวกพี่สไลนี่แหละครับที่ทำให้แฟนๆ พร้อมจะลืมจุดบกพร่องและเพลินไปกับหนังได้ในระดับหนึ่ง และพร้อมตั้งหน้าตั้งตารอดูภาค 4 ต่อไป
ยังคงเป็นกำลังใจให้พวกพี่ๆ ป๋าๆ และเฮียๆ เสมอครับ ขอบคุณที่ช่วยกันทำหนังมันส์ๆ ออกมา ช่วยกันลากสังขาร จูงมือกันมาฟัดซัดบึ้มให้พวกเราดูกัน งวดหน้ามามันส์กันใหม่ครับ
คราวนี้ทีมเอ็กซ์เพนเดเบิ้ลส์ นำโดย บาร์นี่ย์ (Sylvester Stallone) รับงาน CIA เพื่อกู้ของจากเครื่องบินที่ตก แต่แล้วพวกเขากลับต้องพบ วิเลี่ยน (Jean-Claude Van Damme) วายร้ายอำมหิตที่นอกจากจะฝากรอยแค้นไว้กับบาร์นี่ย์แล้ว พี่แกยังมีแผนนรกรอดำเนินการอยู่ด้วย อีแบบนี้พวกบาร์นี่ย์ก็ไม่ปล่อยให้มันลอยนวล ดูหนังออนไลน์ 4k