รีวิว ทราเวลเลอร์ส
รีวิวซีรีย์ netflix Travelers – ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือตัวเราเอง
“เรา ผู้อยู่รอดกลุ่มสุดท้าย สาบานจะแก้ข้อผิดพลาดของบรรพบุรุษ เพื่อให้โลกสมบูรณ์ ลบล้างการสูญเสีย แม้เราอาจมิได้เกิดมา” – Travelers (Season 1, 2016) เมื่ออนาคตไม่เป็นดั่งที่หวัง การแก้ไขอดีตโดยคนจากอนาคตจึงได้เริ่มขึ้น
รูปรวมตัวเอกTravelers ซีรีส์แนว science fiction สัญชาติแคนาดา-อเมริกัน ที่สามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix (ในปัจจุบันสามารถรับชมซีรีส์ของทาง Netflix ผ่านกล่อง Trueid TV) ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่านักเดินทางซึ่งมาจากอนาคตหลายร้อยปีย้อนเวลามายังศตวรรษที่ 21 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆในยุคนี้ ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการที่ตัวละครนั้นข้ามจากอนาคตมายังปัจจุบันด้วยการส่งจิตเข้ามาในร่างที่กำลังใกล้ตาย
และกลายเป็นคนๆนั้นเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ (The director) ในโลกอนาคตที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างปฎิบัติภารกิจต่างๆนักเดินทางทุกคนต้องใช้ชีวิตของเจ้าของร่างนั้นต่อตามกฎทั้ง 6 ข้อของนักเดินทางด้วย โดยในทีมตัวเอกของเรานั้นประกอบไปด้วยคน 5 คนที่ได้รับร่างที่มีความแตกต่างกันและร่วมมือกันทำภารกิจโดยมีหัวหน้าทีมคือนักเดินทางหมายเลข 3468 ที่ใช้ร่างของแกรนท์ แมคคลาเรน เจ้าหน้าที่ FBIofficial trailer
ถึงจะเป็นซีรีส์แนว science fiction หรือที่เรามักเรียกกันว่าแนว sci fi ในเรื่องนี้เน้นไปที่การข้ามเวลา แต่เนื้อเรื่องนั้นกลับเข้าใจง่ายและสร้างปมต่างๆได้อย่างน่าติดตาม หลังจากได้ดูจนจบ 3 ซีซั่น ผู้เขียนรู้สึกว่าผู้กำกับได้ถ่ายทอดเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างดี ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้ ทั้งในแง่ของพล็อตเรื่องและมิติของตัวละคร การที่คนจากโลกในอนาคตต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ร่างของบุคคลอื่นที่ต้องดำเนินชีวิตแบบเจ้าของร่าง มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้เหมือนดั่งเจ้าของร่างตามที่ได้ศึกษามาจากโลกในอนาคตซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหากับการใช้ชีวิตนั้นต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังต้องปฏิบัติภารกิจกู้โลกเปลี่ยนอดีตเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าพบอุปสรรคทุกครั้งรวมถึงมีการแหกกฎเป็นบางครั้งซึ่งก็ส่งผลตามมาอีกเช่นกัน
ในตอนที่รับชมนั้นรู้สึกว่าทุกการกระทำของแต่ละตัวละครล้วนมีเหตุผลซึ่งเกิดจากอารมณ์ต่างๆ ความรู้สึกของมนุษย์แบบเราๆ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมต้องให้ผู้อำนวยการเป็นคนตัดสินใจในการให้ภารกิจเพื่อเปลี่ยนแปลงอดีตและส่งนักเดินทางมายังโลก เพราะ AI นั้นมีความรู้และความสามารถระดับสูงแต่ไม่มีอารมณ์ ความรัก ความเกลียดชัง สิ่งนี้ที่ทำให้ AI แตกต่างจากมนุษย์และทำให้สามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ดีกว่า เว็บหนังฟรี
รีวิว ทราเวลเลอร์ส
แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่ไม่เชื่อในศักยภาพของ AI และพยายามแย่งอำนาจคืนมาโดยถูกเรียกว่ากลุ่มกบฏ เพราะตัว AI นั้นก็มีข้อผิดพลาดในการตัดสินใจหลายครั้งที่ถึงแม้จะผ่านการคำนวณอย่างดีแล้วแต่ก็ไม่เห็นถึงความแตกต่างของอนาคตที่ได้รับการแก้ไข สุดท้ายกลายเป็นว่าความขัดแย้งนั้นก็สร้างปัญหาขึ้นมา การกลับมาแก้ไขอดีตนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้จริงหรือไม่ เปลี่ยนแปลงอดีตเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ช่วยเราจากตัวเราเอง
โดยถูกควบคุมจาก AI เป็นทางที่ดีแน่แล้วหรือ หลังจากได้รับชมจนจบก็เกิดข้อสงสัยดังกล่าวว่าการแก้ไขนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้จริงหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเนื้อเรื่องถ่ายทอดออกมาได้เข้าใจง่ายและทำให้เราคล้อยตามได้ในหลายๆเรื่องหลายครั้งของการตัดสินใจในแต่ละตัวละคร ทำให้เราเองก็กลับมาคิดว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างไรดีเพราะทุกอย่างล้วนส่งผลกับอนาคต
อย่างไรก็ตามซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความ sci-fi แต่ยังสอดแทรกปัญหาที่ตัวละครแต่ละตัวต้องพบเจอและแก้ปัญหานั้นในแบบของตัวเอง ทุกตัวละครมีมิติที่น่าสนใจว่าจะผ่านปัญหานั้นไปได้อย่างไรโดยที่ยังต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยโลกซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นหากใครเป็นคอซีรีส์ sci-fi ก็พูดได้เลยว่าห้ามพลาดเรื่องนี้กันเลยทีเดียว
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลภาพยนตร์ หรือละคร ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา อย่าพึ่งข้ามซี่รี่ย์ที่เราจะนำมาเสนอนี้เด็ดขาด แน่นอนบางครั้งมนุษย์ก็รู้สึกกังขาว่าทำไมเวลาในโลกของเราถึงเดินเป็นเส้นตรง เวลาไม่อาจย้อนกลับ หรือไม่อาจข้ามไปในช่วงเวลาแห่งอนาคตได้
เพราะฉะนั้นการได้ปลดปล่อยจินตนาการอันสุดบันเจิดไปกับซี่รี่ย์ Netflix :: Travellers จะทำให้คุณเต็มอิ่ม! โดยเภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และสนุกมากแค่ไหนต้องมาดูกันเลย
Travellers เป็นซี่รี่ย์แนววิทยาศาสตร์ สร้างโดย Brad Wright ซีรี่ส์นี้เป็นผลงานร่วมของ 2 ประเทศ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง Netflix และช่องพิเศษของแคนาดา Showcase ในช่วงซีซั่น 2 แรก หลังจากนั้น Netflix ก็ได้เข้ามาเป็น บริษัท ผลิตแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งยังเป็นผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ซีซั่น 1 ฉายในประเทศแคนาดา วันที่ 17 ตุลาคม 2016 หลังจากนั้นก็ถูกสร้างมาเรื่อย ๆ ตามลำดับ ซึ่งก็จัดเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก หากคุณได้ดูสักครั้ง จะต้องติดใจแน่นอน
Travellers เปรียบได้กับอัญมณีหายากที่ซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ และดูท่าว่าจะเพิ่มจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซีรี่ย์ไซไฟของแคนาดาเรื่องนี้มีความสนุกสนาน และเต็มไปด้วยความอบอุ่นแน่นเฟ้นของพวกพ้อง โดยบรรดานักเดินทางข้ามเวลา ได้ถูกส่งกลับไปยังยุคที่ 21 เพื่อป้องกันไม่ให้อนาคตของพวกเขาล่มสลาย นักเดินทางได้ถ่ายโอนจิตสำนึกของพวกเขาเข้าไปในร่างกายของผู้คน ก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิต เพื่อใช้ชีวิตทำภารกิจให้สำเร็จ
โดยเรื่องราวเหล่านี้ค่อนข้างมีความสลับซับซ้อนและน่าตื่นเต้น มีการรวมความเป็นไซไฟ และความบันเทิงจากการเอาตัวรอด ที่เข้าถึงได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ ที่จะทำให้คุณต้องตะลึงและแทบไม่อยากละสายตาไปจากหน้าจอเลยทีเดียว
สรุป Netflix :: Travellers เป็นละครรูปลักษณ์ใหม่ของการเดินทางข้ามเวลา เป็นเรื่องราวที่สดใหม่ น่าชม ในส่วนของนักแสดงเองก็มีความสามารถมาก เล่นกันแบบจัดเต็มจริง ๆ พล็อตที่มีความแปลกใหม่ รวมเข้ากับนักแสดงที่มีพรสวรรค์ แน่นอนว่าซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดี
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนตร์เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลารับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน โดยสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เลยจากเว็บดูหนังแทบทุกเว็บ โดยเฉพาะที่ Netflix ซึ่งภาพเสียงคมชัด และมีคุณภาพที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าพลาดที่จะมาติดตามชมกันเลยเชียว เว็บดูหนังฟรี
เรียกได้ว่ามาได้ถูกเวลาจริง ๆ สำหรับซีรีส์ ‘Anatomy of a Scandal’ ทั้งเนื้อหาว่าด้วยนักการเมืองหนุ่มหน้าตาดีที่ต้องขึ้นศาลเพราะถูกฟ้องร้องในดคีข่มขืนเจ้าหน้าที่วิจัยรัฐสภาที่ดันมาแบบทาบทับสนิทกับคดีฟ้องร้องนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกฟ้องร้องในคดีคล้ายคลึงกัน แต่จุดที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นว่าแม้นี่จะเป็นซีรีส์ขึ้นโรงขึ้นศาลทว่ามันกลับเล่าในมุมของผู้หญิงที่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนผ่านสายตาทั้งเมีย ทนายและเหยื่อในคดีนี้
ทราเวลเลอร์ส
ซีรีส์มีศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่ครอบครัวไวต์เฮาส์ที่แสนอบอุ่นต้องมาสั่นคลอนเมื่อเจมส์ (รับบทโดยรูเพิร์ต เฟรนด์ Rupert Friend) สามีในตำแหน่งวิปรัฐบาลอนาคตไกลถูกฟ้องร้องจาก โอลิเวีย ลิตตัน (รับบทโดยนาโอมิ สก็อต Naomi Scott) เจ้าหน้าที่วิจัยรัฐสภาที่กล่าวหาว่าเขาข่มขืนเธอในลิฟต์ งานนี้คนที่จะได้รับผลกระทบที่สุดหนีไม่พ้น โซเฟีย (รับบทโดยเซียนนา มิลเลอร์ Sienna Miller) ภรรยาและแม่ของลูก ๆ ที่พยายามปกป้องครอบครัวไปพร้อม ๆ กับตั้งคำถามว่าสามีที่เธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยทุกวันเป็นคนดีจริงอย่างที่เธอคิดหรือไม่ เว็บดูหนัง
และไม่เพียงเส้นเรื่องหลักที่ว่าด้วยคดีฟ้องร้องเท่านั้น แต่ซีรีส์ยังมีพล็อตเสริมอีกพลอตที่ทำหน้าที่เล่าคู่ขนานกันไปคือเรื่องราวของ เคท วูดครอฟต์ (รับบทโดย มิเชล ด็อกเคอรี Michelle Dockery) ทนายฝ่ายโจทย์ที่ต้องทวงความยุติธรรมให้กับเหยื่ออย่างลิตตัน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เก็บงำความลับบางอย่างให้คนดูต้องไปลุ้นในซีรีส์ว่าแท้จริงแล้วอำนาจและอภิสิทธิ์จะอยู่เหนือความยุติธรรมหรือไม่
พูดกันตามตรงแล้วหนังหรือซีรีส์ที่พูดถึงคดีนักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศไม่ใช่เรื่องใหม่เอาแค่หนังโรงก็มีทั้ง ‘Wag the dog’ (1997) และ ‘Primary Colors’ (1998) ที่เอาคดีฉาวโฉ่ของ บิล คลินตัน (Bill Clinton) มาเป็นต้นธารในการเล่าเรื่อง แต่สำหรับมินิซีรีส์อย่าง ‘Anatomy of a Scandal’ กลับขุดคุ้ยไปถึงปมอภิสิทธิ์ชนโดยเฉพาะฉากย้อนอดีตในซีรีส์ที่ทำให้เห็นเรื่องราวของหนุ่ม ๆ กลุ่มลิเบอร์ทีน ซึ่งเป็นสโมสรมหาวิทยาลัยที่เหมือนแบบจำลองโลกผู้ชายเป็นใหญ่เพื่ออธิบายถึงที่มาของเจมส์ ไวต์เฮาส์ก่อนจะเดินเข้าทางเข้าสู่สภาไปควบคู่กับเรื่องราวการต่อสู้ในชั้นศาล
ต้องยอมรับล่ะว่าความเข้นข้นและแซ่บปึ้กของนิยายชื่อเดียวกันของ ซาราห์ วอห์น (Sarah Vaughan) เป็นต้นธารให้ซีรีส์ได้ดีอยู่แล้ว แต่เราก็อดชื่นชมผู้กำกับหญิงคนเก่งอย่าง เอส เจ คลาร์กสัน (S.J. Clarkson) ที่เคยกวาดคำชมจากงานกำกับซีรีส์ทั้ง ‘Orange is the New Black’ ของเน็ตฟลิกซ์ และ ‘Life on Mars’ ที่สามารถคุมเรื่องราวและโทนอารมณ์ได้อยู่หมัดทำเอามินิซีีรีส์ 6 ตอนเต็มไปด้วยความดุเดือดแบบไว้วางใจใครไม่ได้
รวมถึงรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้เราเห็น “งานกำกับ” ที่แม่นยำของคลาร์กสันโดยเฉพาะซีนครอบครัวไวต์เฮาส์ที่มีเหตุการณ์เล็กน้อยอย่างเช่นฉากเล่นเกมเศรษฐีที่เจมส์เอาบัตร ‘Jail Free’ หรือบัตรพ้นคุกที่ซ่อนไว้ออกมาใช้กับลูก ๆ จนถูกเด็กน้อยทั้งสองลงทัณฑ์ด้วยหมอนก็เหมือนเป็นซีนที่บ่งบอกถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนของเจมส์ได้อย่างแยบยล และในขณะเดียวกันคลาร์กสันยังทำให้ผู้ชมได้เห็นความเคลือบแคลงใจของโซเฟียต่อผู้ชายที่เธอรักและเทิดทูนมาตลอดเป็นครั้งแรกได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย
นอกจากนี้สิ่งที่ต้องชื่นชมคืองานกำกับภาพในหนังซึ่งจากผลงานเชิงประจักษ์ในมินิซีรีส์ 6 ตอนนี้ก็ทำให้เราไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าความยอดเยี่ยมสำหรับโปรเจกต์ ‘Madam Web’ หนังใหญ่ในจักรวาล ‘Spider-Verse’ ไม่ได้เลย
แต่กระนั้นแล้วก็ต้องยอมรับว่าพอจำนวนตอนของมินิซีรีส์เรื่องนี้มีแค่ 6 ตอนมันก็กลายเป็นดาบสองคมไม่น้อยเพราะในขณะที่เรื่องราวเข้มข้นแบบแทบไม่มีซีนไหนที่เกินความจำเป็นเลยและทำให้คนดูลุ้นระทึกนั่งไม่ติดแล้ว พอซีรีส์เลือกจะให้ 2 ตอนสุดท้ายนำไปสู่อะไรบางอย่างก็กลับกลายเป็นว่าเวลาในการเล่าเรื่องในส่วนหลังสุดกลับไม่พอซะอย่างนั้นจนทำให้บทสรุปของซีรีส์อาจถูกมองได้ทั้งการทิ้งปมให้คนดูคิดต่อหรือบางทีอาจกลายเป็นว่าเหมือนซีรีส์จบตัดอารมณ์กันซะอย่างนั้น เว็บหนัง