รีวิว มหาสงครามจักรกลล้างโลก
ข่าวหนัง Netflix คนเหล็กภาค 4 ที่หลายคนรอคอยมาถึงแล้ว พร้อมกับพระเอกคนใหม่ ที่ไม่ใช่ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) ที่หลายคนคุ้นเคย แต่คราวนี้เป็นทีของบทเด่น Christian Bale “John Conner” และ Sam Worthington “Marcus Wright” บ้าง
วันอวสานโลกได้ผ่านพ้นไป แต่มนุษย์ยังคงเหลืออยู่ แม้จะน้อยนิดก็ตาม พวกเขายังคงสู้ต่อเพื่อการคงอยู่เผ่าพันธุ์ ปกป้องตนจากการคุกคามของเครื่องจักร ที่นับวันจะยิ่งพัฒนาอาวุธที่สุดร้ายกาจมาทำลายล้างไม่รู้จักจบสิ้น มีเพียงชื่อ “จอห์น คอนเนอร์” เท่านั้น ที่ยังคงก้องอยู่ในใจของเหล่ามนุษย์ ว่าเขาคือผู้กอบกู้โลก
สกายเน็ต ผู้สร้างคนเหล็ก แต่กลับถูกเครื่องจักรหักหลัง และก่อการกบฎต่อผู้สร้าง เริ่มต้นแผนการใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดจะคิดไปถึง “มาร์คัส ไรท์” คือแผนการนั้น เขาคือนักโทษผู้ได้รับการโอกาสในการมีชีวิตเป็นครั้งที่สอง แต่ในฐานะมนุษย์กึ่งจักรกล อาวุธใหม่ที่จะมาสังหารมนุษย์พันธุ์ดั้งเดิมโดยเฉพาะ
กับภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดมันที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้เกือบ 2 ชั่วโมง จากผลงานของ McG ผู้กำกับที่โด่งดังจากซี่รี่ส์ในทีวี และมีผลงานจอยักษ์โดดเด่นมาก่อนอย่าง Charlie’s Angels (2000), Charlie’s Angels: Full Throttle (2003) และ We Are Marshall (2006) ครั้งนี้
เขาจะมาพิสูจน์ว่า เขาสามารถสานต่อความมันของภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องยักษ์ที่แฟนคนเหล็กตั้งตารอคอยได้หรือไม่ ดูหนังออนไลน์ 4k
หนังเริ่มต้นที่จุดจบสุดท้ายของชีวิตแรกแห่ง มาร์คัส ไรท์ ผู้กำลังได้รับโทษประหารชีวิต ก่อนหน้าที่เขาจะตาย ได้พบแพทย์หญิงคนหนึ่ง ที่มาขอให้เขาเซ็นยินยอมมอบร่างกายให้กับการทดลองอย่างหนึ่ง สุดท้ายลายเซ็นนั้น กลายมาเป็นการประหารรอบสอง
เมื่อเขาต้องมีชีวิตอีกครั้ง ในฐานะอาวุธที่ถูกสั่งให้เข่นฆ่ามนุษย์ด้วยกันเอง แต่เจตจำนงในการเป็นมนุษย์ที่ยังมีอยู่จะทำให้เลือกหนทางไหน
รีวิว มหาสงครามจักรกลล้างโลก
2018 วันอวสานโลกได้ผ่านมาและผ่านไป ทิ้งไว้เพียงซากอารยธรรมสมัยใหม่ กองทัพคนเหล็กได้คุกคามน่านฟ้าของโลกหลังวันหายนะ เพื่อสังหารและกำจัดมนุษย์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองร้างและทะเลทราย แต่กลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มเล็กๆ
ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ต่อต้าน ผู้หลบซ่อนอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินและโจมตีกองกำลังศัตรูที่มีกำลังพลเหนือพวก เขาทุกเมื่อที่เป็นไปได้
ผู้ที่บงการคนเหล็กเหล่านี้คือสกายเน็ท เครือข่ายคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ที่เริ่มมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 14 ปีก่อนและเพียงเวลาชั่วพริบตา มันก็ได้หักหลังผู้สร้างมันขึ้นมา และปลดปล่อยอาวุธนิวเคลียร์สู่โลกใบนี้ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว ดูหนัง
มีชายเพียงคนเดียวที่เห็นวันอวสานโลกคืบคลานเข้ามา ชายเพียงคนเดียว ผู้ซึ่งชะตากรรมของเขามักจะเกี่ยวพันถึงการคงอยู่ของมนุษยชาติเสมอ เขาก็คือ จอห์น คอนเนอร์ (คริสเตียน เบล)
บัดนี้ โลกกำลังจะก้าวสู่อนาคตที่คอนเนอร์ถูกพร่ำเตือนเสมอมาตลอดชีวิต แต่ปัจจัยใหม่อย่างหนึ่งได้สั่นคลอนความเชื่อของเขาที่ว่ามนุษยชาติมีโอกาส ที่จะชนะสงครามครั้งนี้ นั่นก็คือการปรากฏตัวของ มาร์คัส ไรท์ (แซม เวิร์ธธิงตัน) คนแปลกหน้าจากอดีต ผู้ซึ่งความทรงจำสุดท้ายของเขาคือการรับโทษประหารก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา ในโลกใหม่ใบนี้
คอนเนอร์จะต้องตัดสินใจว่าเขาสามารถไว้วางใจมาร์คัสได้หรือไม่ แต่เมื่อสกายเน็ทใช้กลยุทธใหม่เพื่อปราบกองกำลังต่อต้านให้ราบคาบคอนเนอร์และมาร์คัสก็ต้องหาทางร่วมมือกันเพื่อยับยั้งการสังหารโหด ด้วยการแฝงตัวเข้าไปในสกายเน็ทและชนกับศัตรูแบบจังๆ
คนเหล็กภาคนี้ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย แก้ตัวจากภาค 3 ได้ แต่ยังสู้ภาค 2 ไม่ได้หรอก บรรยากาศและความรู้สึกเรื่องการต่อสู้ การยิง สาดกระสุนใส่ ดูสมจริง ด้วยการถ่ายทำยุคใหม่ด้วย ฉากแอ๊คชั่นต่อเนื่อง พยายามนำมาจากภาคสองอยู่บ้าง
และประโยคเด็ดๆก็ยังมีให้เห็น เพียงแต่หุ่นอาร์โน อาจจะไม่เด่นเพราะใช้ตัวปลอมมาแสดง ตัวจอห์น ก็โอเค แต่ที่เด่นคือตัวมนุษย์กึ่งหุ่นสังหารที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ถือว่าทำได้น่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องก็ยังดำเนินไปไม่มากเท่าไหร่ การต่อสู้กับ สกายเน็ท ก็ยังคงมีต่อไปและยังไม่เห็นหนทางยุติ
จากโจนาธาน มอสโทว์ ที่น่าผิดหวัง และไม่มีอะไรใหม่ใน Terminator: Rise of the Machine หนึ่งในหนังไซไฟคลาสิคของโลกภาพยนตร์ ก็กลับมาอีกครั้ง ด้วยฝีมือของแม็คตี ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังของหนังรีเมคจากหนังทีวีอย่าง Charlie’s Angels
แม้ผลลัพท์ที่ออกมา อาจจะไม่ได้เยี่ยมยอดเทียบเท่า งานสองภาคแรก ที่เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ซึ่งถือว่าเป็นงานคลาสิคไปเรียบร้อยแล้ว แค่หากเทียบกับความพยายามทำ “ซ้ำ” ของมอสโทว์ใน Rise of the Machine งานชิ้นนี้ของแม็คจี
ถือว่าทำได้ดีกว่าหลายเท่านัก อย่างน้อยที่สุด Salvation ก็พยายามสร้างเรื่องใหม่ๆที่แตกต่างไปจาก การส่งหุ่นยนต์จากโลกอนาคต มายังโลกปัจจุบัน เพื่อฆ่าตัดตอนจอห์น คอนเนอร์ เหมือนที่เคยเป็นมาในทั้ง 2 ภาคก่อน หรือซาราห์ คอนเนอร์ในหนังภาคแรก
นอกเหนือไปจากนั้น Terminator Salvation ก็ยังมีสไตล์เฉพาะตัว ดูขึงขัง จริงจัง สอดรับกับเรื่องราวของโลกอนาคตที่ดูมืดมน เมื่อโลกถูกยึดครอบด้วยเครื่องจักรกลและมนุษย์ต้องทำสงครามกับพวกมัน เพื่อหาทางรอดชีวิต
แม็คจี สร้างภาพโลกอนาคตที่น่าสะพรึงกลัวได้สอดรับกับภาพโลกอนาคต ที่เคยเห็นกันมาบ้างแล้วใน The Terminator ของคาเมรอนได้เป็นอย่างดี แล้วก็เติมลงมาด้วยความขึงขัง ตึงเครียด จริงจัง และแน่นอน อึดอัด กับสิ้นหวัง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ หนัง 4k
ขณะที่เรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้นในปี 2003 จากการเกลี้ยกล่อม เพื่อขอให้นักโทษประหารที่ชื่อมาร์คัส อุทิศร่างให้กับการทดลองทางการแพทย์ของแพทย์หญิงที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ด้วยหวังว่า การทดลองของเธอกับร่างของนักโทษประหารรายนี้ จะช่วยสร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นกับวงการแพทย์
ก่อนที่หนังจะตัดกลับมายังโลก ในอนาคตที่ไกลออกไป มนุษย์กำลังทำสงครามกับเครื่องจักรกล หรือ สกายเน็ต โดยมีจอห์น คอนเนอร์ บุรุษในตำนาน ที่ว่ากันว่า จะเป็นคนกอบกู้โลก เป็นผู้นำในการรบภาคสนาม ที่หลังจากบุกเข้าไปในสถานีปฏิบัติการณ์แห่งหนึ่งของพวกจักรกลได้
มนุษย์ก็ได้ค้นพบวิธีทำให้พวกเครื่องจักรหยุดทำงาน และได้พบรายชื่อบุคคล 40 คน ที่ตกเป็นเป้าสังหารของสกายเน็ต หนึ่งในนั้นคือคอนเนอร์ ที่เป็นรายชื่อที่ 2 ในลิสท์ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ ไคล์ รีส คนที่ในเวลาต่อมา คอนเนอร์ก็ส่งไปป้องกันซาราห์ คอนเนอร์ในอดีต และกลายเป็นผู้ให้กำเนิดเขานั่นเอง
แล้วกับการบุกทำลายที่มั่นของพวกจักรกลในครั้งนี้ ก็ทำให้มาร์คัส กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และหลังจากที่คืนชีพกลับมาได้ จุดมุ่งหมายของเขาก็คือ หาตัวผู้ที่ทำให้เขาเป็นอย่างที่เป็นให้ได้และนั่นก็หมายความว่า เขาต้องเดินทางไปยังซานฟราสซิสโก ที่มีกองบัญชาการใหญ่ของสกายเน็ตอยู่ที่นั่น
ในเวลาเดียวกันกองกำลังกอบกู้โลกก็กำลังจะหาทางจัดการขั้นเด็ดขาดกับสกายเน็ตหลังจากได้ข้อมูลมาจากคอนเนอร์ แต่เมื่อไคล์ถูกจับตัวไป ปฏิบัติการณ์ที่เกิดขึ้นของกองกำลังกอบกู้โลก แม้อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ก็อาจทำให้จอห์น
คอนเนอร์ไม่มีตัวตน หากไม่ได้มีการช่วยเหลือไคล์ รีสออกมาจากที่คุมขัง และภารกิจนี้ ก็ดูจะมีแต่คอนเนอร์ กับมาร์คัสเท่านั้นที่สามารถทำได้ และการเดินทางไปช่วยมาร์คัสในครั้งนี้ ก็ทำให้พวกเขาได้พบกับความจริงอันน่าตระหนก
หนัง มหาสงครามจักรกลล้างโลก
ในที่สุดเรื่องราวของ Terminator ก็ได้เดินหน้าไปซะที หลังจากที่เป็นแค่เพียงการทำซ้ำในช่วงวัยของตัวละครที่แตกต่างไปเมื่อภาคที่ผ่านมา รวมไปถึงตัวหนังเองก็ออกมามีสไตล์ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังแอ็คชั่น ทุนสูงดาด ๆ อย่างที่มอสโทว์เคยทำ แล้วก็ยังมาพร้อมกับภาพของโลกอนาคตที่ดูน่าหวาดหวั่น
แปลกตา ถือว่าไมเคิล เฟอร์ริส และจอห์น ดี บรังคาโต สองผู้เขียนบท แก้ตัวจากที่ภาคแล้วได้สำเร็จ และแสดงให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้ ยังมีทางออกที่เปิดกว้าง และทำให้เรื่องเดินไปข้างหน้าได้ โดยที่ไม่ต้องมี หรือว่าไปยึดติดกับตัวละครหุ่นสังหารของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เหมือนเช่นที่ผ่านๆมา
แต่ถึงจะไม่มีอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ แต่ที่สุดแล้ว ตัวละครที่เด่นที่สุดในเรื่อง ก็ยังไม่ใช่จอห์น คอนเนอร์ ตัวละครที่น่าจะกลายมาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง ที่หนนี้รับบทโดยคริสเตียน เบล หากเป็นตัวละครผู้มาใหม่มาร์คัส ที่เล่นโดย แซม เวอร์ธิงตัน
ที่ไม่เพียงจะได้บทที่เด่นกว่า แต่กับการแสดงก็เห็นได้ชัดเจนว่าเวอร์ธิงตันกินเบล ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงชายฝีมือ ไปหลายช่วงทีเดียว โดยเฉพาะกับการแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ในเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และความสับสนในตัวเอง
ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เบลในบทนำ โดนตัวรองขโมยซีนไปเต็มๆ เช่นเดียวกับที่เคยเป็นมาแล้วใน The Dark Knight ที่ ฮีธ เล็ดเจอร์ หรือว่า The Prestige รวมไปถึง Batman Begins ที่ถูกกลืนไปในกลุ่มดาราสมทบมากฝีมือ ดูหนังออนไลน์ 4k