รีวิว มอง อย่าให้เห็น (2018)
รีวิวหนัง netflix เป็นหนังอีกเรื่องเหมือนกันของ Netflix ที่เฝ้ารอ เรื่องนี้ก็มีไอเดียในการสร้างสรรค์โลกของเขาแตกต่างจาก A Quiet Place ที่ฉายไปมากพอสมควร และลุ้นมาก รู้สึกอึดอัดด้วยเพราะไม่ค่อยเห็นบรรยากาศนอกสถานที่มากสักเท่าไหร่ ชอบมากสำหรับเรื่องนี้ชอบกว่า A Quiet Place อีกพูดตามตรงเลยเรื่องนี้ Bird Box นี่ เรื่องนี้ Netflix โปรโหมตหนักมาก
ไม่เคยเห็นเรื่องไหนโปรโหมตหนักเท่าเรื่องนี้ละครับ มีไลฟ์สดรอบพิเศษวันที่ 20 ใน Netflix มีตัดฉากที่เป็นผ้าปิดตาของตัวละครหลักออกมาปล่อยไลฟ์สดก่อนหนังจะฉายใน Netflix และอีกมากมาย เรื่องนี้โปรโหมตหนักมากตอนแรกก็คิดในใจนะว่า”ถ้ามันออกมาแย่นะ
Netflix มีเรื่องแน่”แต่ไม่เป็นแบบนั้นเลยค่อนข้างชอบเลยทีเดียว เป็นหนังอีกเรื่องของ Netflix ที่แนะนำให้ดูเลยครับ ดูหนัง
เรื่องย่อ : มาโลรี่หญิงสาวจิตรกรท้องแก่คนหนึ่งได้ออกไปตรวจครรภ์กับพี่สาวแต่หลังจากตรวจครรภ์เสร็จทั้งคู่ก็ขับรถกลับบ้านแต่เกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นเพราะอยู่ดีๆ ทุกคนก็ค่อยๆฆ่าตัวตายไปทีละคน และหลังจากนั้นมาโลรี่จึงได้รับการช่วยเหลือจากบ้านหลังหนี่งเพื่ออยู่อาศัยและมาโลรี่ก็ได้รู้ว่ามีอ่ะไรบางอย่างที่อยู่ข้างนอกและถ้าเกิดมองมัน จะ ต้อง ตาย
การถ่ายทำ : ทำได้ดีเลยล่ะ องค์ประกอบภาพสวยงาม มีการถ่ายทำให้อยู่ใน Setting เดียวมากที่สุดและไม่ค่อยให้ได้เห็นข้างนอกมากเหมือนเราติดอยู่ในบ้านกับตัวละคร ถ้าตอนออกไปข้างนอกจริงๆก็ มีเห็นภาพข้างนอกบ้างตัดกับภาพแทนสายตาตัวละครขณะใส่ผ้าปิดตาอยู่เลยทำให้รู้สึกอึดอัด
นักแสดง : คราวนี้ได้ตัวนักแสดง Sandra Bullock มาแสดงเป็นตัวนำเรื่องถือว่าทำได้ดีเลยแสดงดี คนอื่นก็ทำได้ดีเหมือนกันไม่มีอารมณ์แสดงเบอร์ใหญ่มากมายถือว่าเอาหนังอยู่พอสมควรเลย
บท : มันค่อนข้างปูมาให้เราลุ้นพอสมควรเลยทำได้ดีเลยแหละ แต่ยังมีบางจุดที่อืดๆช้าๆเนือยๆบ้างแต่มันก็ไม่มาก และเรื่องภูตผีมาอย่างไรปฎิกริยาต่างๆที่เกิดขึ้นเรื่องนี้ไม่มีการอธิบายอย่างชัดเจน ต้องดูแล้วไปตีความเองนะครับตรงส่วนนี้ มีการเล่าย้อนอดีตสลับกับปัจจุบันเป็นช่วงๆ
รีวิว มอง อย่าให้เห็น (2018)
Bird Box ถือเป็นงานที่ Netflix ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง โดยผมได้รับเชิญไปชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาก่อนจะลงสตรีมมิงวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าการได้ชมหนังบนจอของโรงภาพยนตร์ทำให้เราได้รับประสบการณ์ร่วมจากหนังได้อย่างเต็มที่จริงๆแต่หากเราพิจารณาจากตัวเนื้อหาก็คงต้องบอกว่า หนังเองดูจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบหนังดราม่ามากกว่า
คอหนังทริลเลอร์ที่หวังความตื่นเต้นในการเอาชีวิตรอดของมาโลรี่ เพราะด้วยวิสัยทัศน์ของ ซูซาน เบีย ที่เคยกำกับ In a better world หนังออสการ์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเดนมาร์คก็ย่อมคุ้นเคยกับการมองโลกและสังคมอย่างลึกซึ้ง ที่สำคัญคือการนำเสนอตัวละครผู้หญิงที่ต้องเผชิญความโหดร้ายเพื่อก้าวผ่านไปสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ที่อาจทำให้เราดูหนังด้วยความอึดอัดไม่สบายใจเท่าใดนัก
ซึ่ง Bird Box ก็ออกมาในแนวทางที่เธอถนัด เพราะการให้ มาโลรี่ เป็นคนท้องก็ยิ่งแสดงให้เห็นภาวะที่ผู้หญิงต้องเผชิญกับสารพันมรสุมชีวิตเพื่อให้กำเนิดชีวิตใหม่ยิ่งมาโลรี่ ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ยิ่งทำให้เห็นความแข็งแกร่งของผู้หญิงในการเผชิญโลกอันโหดร้ายได้อย่างเห็นภาพ ซึ่งหนังก็โหดร้ายมากพอที่จะโยนอุปสรรคในการเอาชีวิตรอดให้ตัวละครทั้งการต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตแบบมองอะไรไม่เห็นแถมยังมีคนติดเชื้อไวรัสซ่อนอยู่อีก
หรือกระทั่งการที่ต้องใช้ชีวิตหลบภัยในบ้านแบบไว้ใจใครก็ตามที่มาเคาะประตูบ้านไม่ได้เลยก็ยิ่งทดสอบระดับมนุษยธรรมของตัวละครได้อย่างหนักหน่วงขึ้นไปอีก ซึ่งการมีตัวละครนำเป็นผู้หญิงก็ย่อมได้คะแนนความเห็นใจจากคนดูไม่ยากนัก แต่ที่ต้องชื่นชมจริงๆคือการที่หนังไม่ได้ให้ มาโลรี่ เป็นตัวละครแบนๆ เพราะเธอเองก็มีดีมีชั่วมีด้านมืดที่ต้องเอาชนะเพื่อความอยู่รอดของลูกๆของเธอ
โดยจุดที่หนังสร้างความมืดหม่นสิ้นหวังมากๆคือการที่มาโลรี่ ไม่ยอมตั้งชื่อลูกของตัวเองเพียงเพราะไม่ต้องการสร้างความผูกพันหากเธอไม่สามารถเอาตัวรอดจากโลกาวินาศในครั้งนี้ได้ รวมถึงหนังยังมีฉากที่แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความเมตตาปราณีก็นำมาซึ่งหายนะอันใหญ่หลวงได้เหมือนกัน ซึ่งทำให้หนังสามารถตั้งคำถามกับความเป็นมนุษย์ได้อย่างลุ่มลึกอีกด้วย
แต่ก็อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่าการที่หนังเน้นไปในทางดราม่าส่วนใหญ่ก็ส่งผลให้บางฉากที่หนังสามารถทำให้ตื่นเต้นได้ หนังก็กลับเพิกฉายในการสร้างความตื่นตระหนกไม่ไว้ใจ ทั้งที่มันอาจช่วยให้ตัวหนังเข้าถึงคนดูวงกว้างได้มากขึ้นจนอดเสียดายไม่ได้ว่าการที่หนังมีฉากหลังเป็นโลกล่มสลายและมีไวรัสแพร่ระบาดแต่คนดูกลับไม่ได้สัมผัสมันจากกลวิธีทางภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้แต่อย่างใดจนทำให้กราฟในการดูหนังเรื่องนี้อาจมีตกบ้าง ดูหนังออนไลน์
แต่ก็ยังคงคุ้มค่าที่จะดูเพื่อความบันเทิงอยู่นะ แม้ไอเดียโลกล่มสลายของหนังดูจะคล้าย The Happening (2008) ผสมกับ The Quiet Place (2018) ไปหน่อยก็ตาม กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการแสดงของ ซานดร้า บูลล็อค สามารถชดเชยทุกข้อด้อยของหนังได้จริงๆ โดยแม่แสงดาว บุญล้อม นอกจากจะยังสวยสะพรั่งในวัย 50 แล้วเธอยังสามารถทำให้คนดู สัมผัสได้ถึงความกลัวของ ผู้หญิงคนนึงที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอด และ เรียนรู้ความเป็นแม่ในภาวะวิกฤติของโลก
เธอทำให้เราเข้าใจในน้ำหนักปัญหาของมาโลรี่ได้อย่างแจ่มชัดทั้งการแบกความรู้สึกผิดจากการเอาตัวรอดแต่ต้องแลกด้วยชีวิตของน้องสาวตัวเองหรือภรรยาของดักลาส ก่อนที่จะตัดสินใจสู้กับวิกฤติเพื่ออีก 2 ชีวิตได้อย่างน่าเอาใจช่วยจริงๆ
ถือเป็นจุดที่หนังเรื่องทำได้ดีสุดแล้ว เป็นอะไรที่แบกหนังให้เดินต่อไปได้ถึงการดำเนินเรื่องจะทุลักทุเลไปหน่อย แต่ทุกคนแสดงดีอินบทมาก แทบไม่มีที่ติเลย นางเอกแสดงเป็นคุณแม่สายแกร่งได้ดีมาก มีหลากอารมณ์ ตัวละครสมทบอื่นก็ไม่ได้จืดจาง เด่นไม่น้อยหน้านางเอกเหมือนกัน อย่างคุณป้าอ้วนๆในบ้านที่ท้องแก่ใกล้คลอด (บังเอิ๊ญบังเอิญตรงกับนางเอก) หรือจะเป็นพี่ดำที่แสนจิตใจดี๊ดี ชอบช่วยเหลือทุกคน
ส่วนที่ประทับใจคือ การแสดงท่าทางหลังผูกผ้าปิดตา (เพื่อจะได้ไม่จะเอ๋มันเข้า) แสดงได้สมจริงมาก ไม่ว่าจะเป็นมือกวัดแกว่งไปรอบๆ ไปตามผนังบ้าน หรือก้าวออกจากรถอย่าทุลักทุเล หยิบปืนหันเล็งไปมา หรือเกาะไปตามเส้นเชือกที่ร้อยกับเอว ทำให้เราอินว่ามันปิดตามองไม่เห็นจริงๆ ว่ะ คนพวกนี้คงลำบากน่าดู คงคอนเซ็ปต์ “มองอย่าให้เห็น” สมชื่อเรื่องมาก
แต่ถึงแบบนั้น ตัวหนังไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเธอแสดงอารมณ์ได้หนักหน่วงนัก พูดง่ายๆคือมันไม่มีฉากดราม่าขยี้หนัก เหมือนใส่เข้ามาพอให้มี ส่วนนิสัย และการกระทำตัวละครก็เหมือนฟิกไว้ให้คงเส้นคงวา ไม่ว่าสถานการณ์ไหน แม่งก็ทำเหมือนเดิมทุกครั้งจนแอบเอือมๆ เพราะเดาง่ายไปบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับพอรับได้
ห้าปีให้หลังของเหตุการณ์สุดสะพรึงที่ทำให้ทั้งโลกถึงคราววิบัติ ด้วยพลังงานลึกลับที่ไม่มีใครมองเห็น มันได้ครอบงำผู้คนจนเกิดการฆ่าตัวตายหมู่ทั่วโลก แต่ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งในบรรดาผู้รอดชีวิตเพียงหยิบมือ ออกเดินทางกับลูกรักทั้งสองของเธอ พร้อมกล่องนก เสบียงอาหารเพียงน้อยนิด และผ้าปิดตาสามผืน ด้วยความหวังอันริบหรี่.. ที่จะหาสถานที่ปลอดภัยเพียงแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่
มอง อย่าให้เห็น (2018)
การดำเนินเรื่อง
ช่วงแรกก็ดูน่าติดตามใช้ได้นะ มีความสยองปนลึกลับ เปิดตัวมาให้เห็นนางเอกอยู่บนเรือกับเด็กสองคน กำลังเดินทางไปไหนซักแห่ง และเธอก็กำชับลูกว่าห้ามเปิดผ้าปิดตาเด็ดขาด เข้าใจมั้ย! ไม่ว่ายังไง และหนังก็ตัดกลับมา ห้าปีที่แล้วก่อนเกิดเรื่อง นางเอกท้องแก่กำลังมาอุลตร้าซาวด์ในโรงบาล ก็มีข่าวทีวีคนที่มีอาการคลุ้มคลั่ง บลาๆ และสักพักก็เกิดเหตุแถวๆ
นางเอกเนี่ยแหละ ประมาณมีพลังงานอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นเข้าสิงคนให้บ้าคลั่งฆ่าตัวตาย แล้วเธอก็ต้องหนีตายขับรถไปจนไปขอหลบในบ้านหลังนึง ให้เราทำความรู้จักกับคนอื่นที่อยู่ในบ้าน นิสัยคนคร่าวๆ ซึ่งจุดนี้ถือว่าทำได้ดีนะ ดูน่าติดตามและลุ้นดี และพวกฉากวุ่นวายบนถนนทุ่มทุนสร้างสูงกว่าหนังเกรด B ทั่วไป
แต่พอชมไม่ทันขาดคำ หนังก็แสดงอิทธิฤทธิ์เสกพระอินทร์เข้าร่างคนดูทันที เพราะมันโคตรเอื่อยยย โคตรง่วงสัสๆ หลังจากช่วงนั้นคือหนังสลับไปมาสองไทม์ไลน์ 5 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันในแม่น้ำ และยังไม่พอแต่ละจุดยังมีสลับช่วงเวลาแยกย่อยลงไปอีก แบบก่อนหน้าห้าปีที่แล้วสามชั่วโมง กลับไป 24 ชั่วโมงในแม่น้ำ ตัดไปห้าปีที่แล้วแบบไม่ย้อน ตัดอีกรอบก่อนลงเรือแม่น้ำ คือเมิงต้องการอะไรจากกู 555
และแต่ละจุดที่คัตซีน อารมณ์แม่งโคตรกระโดดจากที่กำลังลุ้น ตัดชึบ นิ่งสงบกลางแม่น้ำได้ห้านาที เอ๊าา เมิงกลับมาห้าปีก่อนอีกละ คุยกันในบ้านไม่กี่ประโยค วาร์ปไปแม่น้ำ คือมันวนไปมาซ้ำซาก คิชเช่เดาง่ายแต่แกล้งสับขาให้ดูงงๆไปอย่างงั้น และไม่มีประโยชน์เลยสักนิดที่จะย้อนไปมา ไม่ได้ทำให้เราได้ข้อมูลเพิ่ม หรืออยากติดตามเลย หนัง 4k
การเล่าเรื่อง การตัดต่อซีนมีปัญหาค่อนข้างหนัก และจุดที่น่าผิดหวังที่สุดก็เห็นจะเป็นเนื้อเรื่องที่ห่างไกลเทรลเลอร์เอามากๆ ที่เหมือนวางคอนเซปต์หลอกให้เราดู ทั้งๆที่หนังแม่งแทบจะไปคนละทางเลย เทรลเลอร์มาเป็นแนวระทึกขวัญเว้ย มีเอาตัวรอด ดราม่าด้วย เฮ้ยยย โคตรลุ้นเลยว่ะ น่าดูๆๆ คงจะอารมณ์ประมาณ walking dead แน่ๆ แต่พอดูจนจบนี่อยากจะให้ผีมันเข้าสิงกู แล้วเอาหัวโขกกำแพงตายจริงๆ ถ้าหนังมันชั่วโมงครึ่งอาจจะไม่ค่อยเบื่อมาก แต่นี่เป็นหนังสองชั่วโมงที่ราบเรียบจนแผ่นกระดาษเรียกพี่จริงๆ
ตอนจบนี่ก็เหมือนทิ้งปรัชญาเอาไว้เท่ๆ ไม่มีความหมายที่เราคาดหวังจากหนังแนวนี้ และถ้าใครมาดูเพราะอยากเห็นตัวผีบ้าที่เข้าสิงคน แบบตัวเป็นๆล่ะก็ฝันไปเถอะ ทั้งเรื่องดูไปก็ไม่มีให้เห็นหรอก (เหมือนลดต้นทุน CG) มีให้เห็นแค่ใบไม้ปลิวว่อนกับเงาวับๆแวมๆตอนมันมา คือเชี่ยเอ๊ยอย่างน้อยก็บอกได้มั้ยว่ามันเป็นตัวอะไร มันเกิดจากอะไร หรือให้กูเห็นตัวสักทีก็ยังดี
หลอกให้สงสัยทั้งเรื่องแล้วไม่ยอมคลายปมซะงั้น สุดท้ายก็ไม่มีใครต่อกรกับมันได้เลย คือถ้าใส่แบบพวกนักล่าปีศาจอะไรแบบนี้เข้ามา ยังจะดูสนุกและลุ้นกว่ามาทนนั่งดูชีวิตรันทดนางเอก เสียดายไอเดียของหนังว่ะ ไอเดียดีแต่ถ่ายทอดออกมาได้ชวนง่วง น่าเบื่อเอามากๆ คือถ้าไม่ติดว่าจะรีวิวนี่คงหลับไปแล้ว ไง สปิริตแอดเพจรีวิวป่ะล่ะ
แต่ มันก็ไม่ได้ห่วยไปซะหมด จุดดีมันก็มีตรงที่ทุกไทม์ไลน์ที่มันย้อนไปมา มันมาต่อกันได้เป๊ะสมบูรณ์ระดับนึงเลย เหมือน ผกก. วางแผนมาดี เพียงแต่หนังมันแบนราบไม่มีจุดพีค เหมือนมีคนมาเล่านิทานให้ฟังเฉยๆ และถึงคุณจะต่อจิ๊กซอว์ครบแล้ว ก็ไม่รู้ว่าภาพที่ออกมานั้นจะสื่ออะไรกับคนดูกันแน่
โดยรวมเอาไป 6/10 พอแล้วกัน มันก็มีบางช่วงน่าสนใจและลุ้นดี การแสดงอินใช้ได้ ลงทุนกว่าหนังเกรดบีทั่วไป แต่มีปัญหาหนักตรงการดำเนินเรื่อง ที่สลับไทม์ไลน์ได้น่าเบื่อมากๆ อีกทั้งไม่ได้เฉลยปมสมกับที่หลอกให้เราอยากรู้ทั้งเรื่อง และตัวหนังก็ค่อนข้างราบเรียบ ไม่มีจุดพีค จนไม่อยากเอาใจช่วยเท่าไหร่
เอาเป็นว่าถ้าใครชอบการดำเนินเรื่องที่ไหลเอื่อยเหมือนเรือล่องในแม่น้ำลำธาร เจอโขดหินบ้างแต่ก็เลี้ยวหลบทันทุกก้อน น้ำมีเชี่ยวบ้างสองสามนาที แล้วก็กลับมาเอื่อยเหมือนเดิม ก็ลองไปชมดูแล้วกัน ดูหนังออนไลน์ 4k