รีวิว อาชญากลปล้นโลก 2
รีวิวหนัง หนัง Now You See Me 2 หรือชื่อไทยว่า อาชญากลปล้นโลก 2 ภาพยนตร์ จะบอกเล่าถึงเรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้วที่เหล่า ‘กลุ่มจตุรอาชา’ ได้ร่วมกันชิงไหวชิงพริบเอาชนะเจ้าหน้าที่ FBI ได้สำเร็จ รวมไปถึงยังได้รับเสียงชื่นชมและคำสรรเสริญจากเหล่าผู้คนมากมายถึงความชาญฉลาดของพวกเขา
โดย กลับมาในครั้งนี้พวกเขาก็จะขอแท็กทีมร่วมกันทำภารกิจสุดยิ่งใหญ่เหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้จะต้องเจอศัตรูตัวฉกาจรายใหม่ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและทัดเทียมไม่แพ้พวกเขา นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปล้นครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่าเดิมหลายเท่าตัว! มายากลอัจฉริยะจะตรึงทุกสายตา โจรกรรมครั้งมหึมาจะหยุดโลกอีกครั้ง! “Now You See Me 2”
Now You See Me ถือเป็นภาพยนตร์ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ของภาพยนตร์ที่นำเอามายากลและอาชญากรรมมารวมกันก็ว่าได้ เพราะภาคแรกหลายๆคนที่ได้ชม ต่างก็ไม่ได้ให้ความคาดหวังอะไร ผลสุดท้ายก็ฮิตตามคาดจนต้องเข็นภาคต่อออกมา ดูหนัง
บทวิจารณ์ : ถ้าจะพูดกันตามตรง เราขอสารภาพเลยว่าที่เลือกดูหนังเรื่องนี้เป็นเพราะนักแสดงล้วนๆ ไม่ว่าจะแดเนียล จากพ่อมดน้อยแฮรี่ พอตเตอร์ผู้โด่งดัง หรือจะเจ โชว์ นักร้อง นักแต่งเพลงที่มีความสามารถรอบด้าน แต่พอเอาเข้าจริงๆ ในเรื่องทั้ง 2 คนนี้ได้รับบทรอง เดเนียลยังไม่เท่าไหร่ แต่เจ โชว์นี้แทบจะโดนกลืนไปกับท้องเรื่องเลยก็ว่าได้
ในส่วนของตัวเนื้อเรื่อง ถ้าหากไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน รับรองได้ว่ายังไงก็งง แต่ถ้าจะดูเอาอรรถรส เช่น ดูเทคนิคมายากลที่นำมาเปิดเผย แบบนี้ก็พอไปวัดไปวาได้เหมือนกัน แต่ฉากเล่นกลนั้นก็มีไม่มากนัก ที่เห็นชัดๆ กันช่วงที่เหล่าจตุอาชาเข้าไปขโมยชิป โดยซ่อนของที่ขโมยได้เอาไว้ในไพ่ แล้วโยนไพ่ส่งต่อให้กัน ฉากนั้นเป็นฉากเดียวในเรื่องที่เรารู้สึกว่าทำให้คนได้ลุ้นแบบนั่งไม่ติดจริงๆ ส่วนฉากรองลงมาก็ต้องยกให้ฉากที่เหล่าจตุอาชาโดนโยนลงจากเครื่องบิน แต่สุดท้ายเกมกลับพลิก
สิ่งที่ชอบจากภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการแก้เกมของเหล่าจตุอาชา ที่ให้แผนที่ตัวร้ายของเรื่องใช้กับตัวเอง มาหลักเหลี่ยมฝ่ายตรงข้ามซะเอง และเป็นการจบเรื่องแบบสวยงาม แต่เราว่ามันไม่ปังสักท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าหนังน่าจะสามารถเร้าอารมณ์ของคนดูได้มากกว่านี้ ข้อดีของหนังคือมีความสมจริง เพราะใช้ CG น้อยมาก ทำให้นักแสดงต้องทำงานหนักกว่าเดิม แต่โดยรวมในฉากเล่นกลและฉากต่อสู้ ถือว่าทำออกมาได้เนียนใช้ได้เลยทีเดียว
รีวิว อาชญากลปล้นโลก 2
สรุป : ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ถึงจะไม่หวือหวา แต่ก็มีฉากให้คนดูได้ลุ้น เนื้อเรื่องมีจุดพลิกผันที่คาดเดาได้ยาก ส่วนตอนจบทุกปมก็คลี่คลาย ไม่เหลืออะไรให้ต้องขบคิดต่อ ถ้าอยากดูหนังเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ หนังเรื่องนี้ก็จัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว
มาในภาคนี้ก็เล่าเรื่องราวว่าด้วย 18 เดือนหลังจากท้ายภาคแรก เหล่า จตุรอาชา เริ่มเบื่อหน่ายกับการที่ต้องหลบซ่อน เกิดการแตกหักภายใน จนต้องมีการเพิ่มจตุรอาชาคนใหม่เข้าไปแทน เพื่อให้ครบ 4 คน (จริงๆนักแสดงคนเดิมท้องช่วงถ่ายทำเลยต้องเปลี่ยนบทเพิ่มตัวละครนั่นเอง) แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของภาคนี้ลดลงแต่อย่างใด ดูหนังออนไลน์
ภาคนี้กระหน่ำไปด้วยแอคชั่นที่ดูเดือดขึ้น จัดเต็มขึ้น และกลในเรื่องดูยิ่งใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะฉากปล้น “สติ๊ก” ในห้องแลปสุดท้าทาย ถือเป็นไฮไลท์ของเรื่องเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าตัวหนังจะให้ความบันเทิงแบบจัดเต็มเอามากๆ แต่ก็น่าเสียดายตรงที่บางจุดดูไม่ค่อยสมเหตุผลซักเท่าไหร่ และออกจะประหลาดๆไปซะหน่อย แต่ถ้ามองข้ามในจุดนี้ไปได้ ก็จะสนุกเลยไม่ใช่น้อย โดยรวมแล้ว Now You See Me 2 เป็นการต่อยอดจากภาคที่แล้วได้ค่อนข้างดี เสมอตัว ถึงมันจะไม่เพอร์เฟคซักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนดูเบื่อหน่ายกับ 2 ชั่วโมงทีหนังจัดมาให้เลยทีเดียว
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ NOW YOU SEE ME 2
หลายคนคงจำได้ว่า Now You See Me ภาคแรก แบ่งเป็น 3 องก์ 3 เวที หรือ 3 โชว์ใหญ่ชัดเจน ภารกิจหลัก ๆ จะเป็นการปล้นเงินในบัญชีของมหาเศรษฐีและธนาคารที่มีคดีเก่ากันเป็นการส่วนตัว ก่อนจะเอาเงินก้อนดังกล่าวไปแจกอย่างโรบินฮู้ด ประกอบกับระหว่างทางก็จะมีโชว์เล็ก ๆ หรือคิวบู๊ย่อย ๆ นิดหน่อยก่อนจะไปถึง final show ซึ่งแต่ละกลก็ยากแท้เดาถึง หักมุมไม่รู้จบสิ้น มีฉากจำหลายฉาก รวมถึงสไตล์การพูดไดอะล็อกรัว ๆ ของตัวละครที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ใครที่ชอบหนังภาคแรก ไม่ควรพลาดภาคสองด้วยประการทั้งปวง เพราะมีหลายปมที่ต้องต่อยอดติดตามมาจากภาคหนึ่ง และไม่ว่ายังไงก็น่าจะชอบภาคนี้เหมือนที่ชอบภาคหนึ่ง (ใครจะชอบภาคไหนมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นมันก็อีกเรื่อง แต่โดยส่วนตัวเราไม่อยากให้ยึดติดกับการเปรียบเทียบระหว่างทั้งสองภาคมากเกินไป)
ส่วนใครก็ตามที่เคยดูภาคแรกแล้วรู้สึกไม่ชอบ ก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะไม่ชอบภาคนี้เหมือนกัน เพราะ Now You See Me 2 ยังคงสไตล์การพูดฉอด ๆ ๆ และกลซ้อนกลอันแสนแฟนตาซีเอาไว้เช่นเดิม เพียงแต่คราวนี้ภารกิจใหญ่ของเหล่าจตุรอาชาจะไม่ได้อยู่บนเวที หากแต่อยู่ในมาเก๊าและลอนดอน
อาชญากลปล้นโลก 2
ตัวละครเดิมก็กลับมากันเกือบครบองค์ประชุม ยกเว้นตัวละครนำหญิง ที่ต้องเปลี่ยนจาก Henley Reeves (Isla Fisher) เป็น Lula (Lizzy Caplan) แทน เพราะ Isla Fisher ติดภารกิจอุ้มครรภ์ ไม่สามารถมาวิ่งปล้นล่าได้ หนัง 4k
ซึ่ง Lula ก็นับว่าเป็นตัวละครใหม่ที่ดีที่สุดของภาค เพราะตัวละครใหม่ตัวอื่น โดยเฉพาะ Jay Chou หรือแม้กระทั่ง Daniel Radcliffe นี่ยังเหมือนเอามาใช้ไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่ Lula นางตลก นางสร้างสีสันให้หนังมาก อย่างตอนเล่นมุก sexist นี่เราชอบเลยนะ เสียแต่บางครั้งคาแรกเตอร์นางดูพูดมาก ล้น ๆ และอ้อยแรงไปหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาอ่อย Dave Franco สุดหล่อของเรา ฮึ่ม! ไม่อยากจะให้อภัย
ในส่วนที่หนังพล่ามเยอะไปหน่อยนั้นเป็นช่วงน่าเบื่อของหนังอย่างเลี่ยงไม่ได้ คิดดูสิ แค่ปกติมีแค่ Jesse Eisenberg คนเดียวมันก็พูดน้ำไหลไฟดับพอแล้ว พอมีนาง Lizzy Caplan กับ Harry Potter มาใหม่อีก “ท้าดาาาาา~!!!!” เยิ่นเย้อไปกันใหญ่ (ทั้งนี้ยังไม่นับที่ตัวละครเก่าบางตัวมีบทพูดมากขึ้นกว่าภาคแรกนั่นอีกหนึ่งพอยต์) แต่การแพล่มนั้นก็เป็นช่วงน่าเบื่อที่น่าให้อภัย เพราะเอาจริง ๆ ตอนมันพูดรัว ๆ ๆ มันก็ฟังสนุกนะ และตอนเฉลยกลต่าง ๆ นานา นั้น มันก็สนุกดี (เออ สนุกที่ถูกมันหลอกนี่แหละ)
โชว์ต่าง ๆ ภาคนี้ไม่เน้นบนเวทีในฮอลล์ แต่เน้นไปใช้กลปล้นจริงในห้องแล็บจริงและโชว์กลในพื้นที่สาธารณะแทน ซึ่งการเล่นกลในพื้นที่สาธารณะนี้ เราแอบเสียดายนิดนึงที่เขาใช้โลเกชั่นมาเก๊ากับลอนดอนไม่ค่อยคุ้ม ยังดีที่ฉากไฮไลท์ของเขายัง “ว้าว!” อยู่ โดยรวมคือเวอร์วัง โชว์เล่นใหญ่กว่าภาคแรก เดาทางไม่ถูกเลยสักกล โดนหลอกกันจนเพลิน ดังนั้น ถ้าจะไปดูหนังเรื่องนี้นี่คือต้องไปดูเพื่อไปดูจริง ๆ นะ อย่าพยายามเดาเนื้อเรื่องหรือคิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดหรือฉลาดทันเกมมัน เพราะมิเช่นนั้นอาจจะกลายเป็นคนโง่ที่สุดในโรงไม่รู้ตัว
Now You See Me 2 มีหลายซีนที่น่าจดจำและไอเดียดีไม่แพ้ภาคแรก เช่น ฉากกลไพ่ นี่ลุ้นจนเยี่ยวเหนียว หรือฉากต่อสู้กลางตลาดมาเก๊าของ Mark Ruffalo ก็สนุกดีมีลูกเล่นเยอะ ทำให้นึกถึงคิวบู๊ลุยเดี่ยวของสุดหล่อ Dave Franco ในภาคแรก แต่เสียดายที่คิวบู๊ของ Mark Ruffalo นี้ กับอีกหลาย ๆ ซีนของหนังดูรีบเร่งรีบเล่าไปเสียหน่อย ทำให้ยังไม่สุดอย่างที่ควรจะเป็น อย่างฉากเฉลยกลก็ดูรีบเฉลย ไม่ประณีตเท่าภาคก่อน แต่ก็ไม่ถึงกับแย่อะไร ยังดูสนุกอยู่ เพลิน ๆ
อีกอย่าง ตอนแรกเราคาดหวังว่า จะเห็นการฟาดฟันกันระหว่าง “มายากล vs วิทยาศาตร์” มากกว่านี้ (ในเรื่อง Daniel Radcliffe ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี) แต่เอาเข้าจริง มันก็ยังไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่ละทีมยังเน้นใช้กึ๋นสู้กันอยู่เหมือนเดิม กล่าวคือ ถ้าใครรอบคอบ ไม่ละเลยจุดบอด เดินหมากอย่างมีสติ ไม่อีโก้ ไม่หลงตัวเอง และที่สำคัญคือสามารถรักษาความเป็นทีมเวิร์คได้ ทีมนั้นก็จะชนะ ใส ๆ
โดยสรุป หนังอาจจะไม่ได้พีคถึงขั้นสุดยอด แต่ถ้าดูเหมือนมาดูโชว์ ไม่คิดอะไรมาก บันเทิงและสนุกสมการรอคอย คะแนนตามความชอบส่วนตัวให้ 7.5/10 และขอแนะนำว่า คนที่เคยดูภาคแรก ไม่ควรพลาดภาคสอง ส่วนใครที่ไม่เคยดูมาก่อน แนะนำให้ไปดูภาคแรกมาก่อนเน้อ ดูหนังออนไลน์ 4k