รีวิว อิท โผล่จากนรก (2019)
รีวิวหนัง Netflix ดูหนัง IT Chapter Two (2017) ภาพยนตร์สยองขวัญ สุดระทึกขวัญ หนังดัดแปลงจากนวนิยาย เรื่อง อิท ของ สตีเฟน คิง ปี 1986 กำกับโดย แอนดี มัสเคียตตี เขียนบทโดย ดอเบอร์แมน นักแสดงนำ เจมส์ แม็กอะวอย, เจสซิกา แชสเทน, บิล เฮเดอร์, อิไซยาห์ มุสตาฟา, เจ ไรอัน, เจมส์ แรนซัน, แอนดี บีน และบิล สการ์สกอร์ด อิท โผล่จากนรก 2
เนื้อเรื่อง 27 ปีหลังเหตุการณ์ในภาคแรก โดยกลุ่มตัวเอก “ชมรมคนขี้แพ้” (The Losers’ Club) ต้องกลับมาสู้กับ “อิท” พลังเหนือธรรมชาติที่มักปรากฏตัวในรูปตัวตลกเพนนีไวส์อีกครั้งตามคำสาบานที่ให้ไว้ ดูหนัง IT Chapter Two Netflix ซับไทย เต็มเรื่อง ได้ที่นี่
เรื่องย่อ it ภาค 2 เรื่องราวของ ตัวตลก “เพนนี่ไวซ์” ที่กำลังจะกลับมาเยือนเมือง เดอร์รี่ รัฐเมน ในทุก ๆ 27 ปี ในภาคนี้จึงได้พาเหล่าตัวละครที่จากไปนานกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งนับเป็นเวลานานเกือบ 3 ทศวรรษหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรก ตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในวัยเด็ก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังสยองขวัญ ดูหนัง Netflix ดูหนังออนไลน์
เป็นหนังภาคต่อที่เดินเรื่องในช่วง 27 ปีให้หลัง นับจากภาคแรก ซึ่งการกลับมาของ Pennywise รอบนี้คือน่ากลัวแบบจัดเต็ม ทั้งฉากJump Scare ฉากโหด มาไม่ขาดสาย เรียกว่าดูแล้วไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เมืองนอกจะให้เรต R กับเรื่องนี้ แม้จะมีแทรกมุกตลกค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับหนังแนวนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภาพรวมเสียหายเลย กลับกลายเป็นส่วนที่ทำให้บันเทิงขึ้นกว่าเดิมซะอีก
รีวิว อิท โผล่จากนรก (2019)
ตอนเห็นพลอตหนัง ผมก็งงๆว่าหนังจะเล่ายังไง เพราะแม้จะถ่ายทำต่อจากภาคแรกไม่นาน แต่เส้นเรื่องห่างกันนานมาก นักแสดงก็เป็นคนละชุด แต่นี่กลับกลายเป็นส่วนที่น่าสนใจที่สุดของหนังเรื่องนี้ หนังเชื้อเชิญให้เราอยากรู้อยากเห็นไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงรอยต่อ ปมในใจและความสัมพันธ์ของตัวละคร พร้อมๆกับการเตรียมตัวรับมือกับ Pennywise รอบนี้ ซึ่งหนังก็ทำได้น่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง แม้หนังจะยาวเกือบๆ 3 ชั่วโมงก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ในทุกช่วงของหนัง
โดยรวมนี่เป็นหนังระทึกขวัญ ที่ทำออกมาได้เต็มอิ่มกับหลากหลายรสชาติมากๆ ผมเลยชอบภาคนี้มากกว่าภาคแรกครับ ใครที่ดูภาคแรกแล้วชอบ ภาคนี้ถือว่าต่อยอด และปิดจบเรื่องของ IT ได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากใน It ภาคแรก (2017) แก๊งเด็กขี้แพ้สามารถปราบเพนนีไวส์ ปีศาจตัวตลกลงได้ แต่ทว่า 27 ปีต่อมา เพนนีไวส์ก็กลับมาอาละวาดอีกครั้ง เหล่าแก๊งเด็กขี้แพ้จึงต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อกำจัดตัวตลกนรกลงให้สิ้นซาก ดูหนัง
It ภาคก่อนถือว่าเป็นงานที่เซอร์ไพรส์ เพราะมันเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ดัดแปลงจากนิยายของสตีเฟ่น คิง แล้วทำออกมาได้ดี และภาคนี้ก็ยังรักษามาตรฐานนั้นได้ดี ทั้งความสยองจากการจู่โจมอันไร้ปราณีต่อเด็กๆและคนไน้ทางสู้ของเพนนีไวส์ และมิตรภาพอันอบอุ่นและชวนฮึกเหิมของแก๊งขี้แพ้ ภาคก่อนเล่าถึงการต่อสู้และเอาชนะความกลัว
ส่วนภาคนี้จะเล่นกับประเด็นของการเอาชนะและก้าวข้ามอดีตอันโหดร้าย ความทรงจำอันเลวร้ายที่บรรดาแก๊งขี้แพ้ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วอยากฝังลืมมันไว้กับเมืองพร้อมๆกับอดีตของพวกเขา จนพวกเขาเองก็หลงลืมอะไรหลายๆอย่างที่ควรจ่าแก่การจดจำไป เพราะเมื่อพวกเขาเลือกที่จะฝังอดีตไปกับเมือง เพื่อที่จะลืมความเจ็บปวด พวกเขาก็ฝังความสุขที่เคยอยู่ด้วยกัน
เคยฝ่าฟันอุปสรรคร้อยแปดไปด้วยกันไปด้วย และพวกเขาก็เรียนรู้ที่จะเอาชนะ ก้าวข้าม และปล่อยวางกับอดีตที่เจ็บปวด เพื่อให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ ประเด็นพวกนี้ทำให้Itกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ดูแล้วอบอุ่น ฮึกเหิมประหนึ่งEndgame มากกว่าที่จะกลัว
แน่นอนว่าฉากน่ากลัวโหดร้ายยังคงมีอยู่ เพนนีไวส์ยังโจมตีคนไร้ทางสู้แบบไม่ปราณีเช่นเดิม บางคนเพิ่งถูกbullyถูกรุมกระทืบไปไม่กี่นาทีก็ตกเป็นเหยื่อของเพนนีไวส์แล้ว ทำให้เพนนีไวส์คราวนี้ดูไร้ปราณีขึ้นกว่าเดิม และนั่นก็ทำให้ฉากต่อสู้ตัดสินระหว่างเพนนีไวส์และแก๊งขี้แพ้ในตอนท้ายเรื่องยิ่งดูสนุกและฮึกเหิมขึ้นตามไปด้วย เพราะมันคือการเอาคืนbullyตัวเอ้ของบรรดาอดีตเด็กห่วยแก๊งนี้
ด้วยความที่รายละเอียดของหนังค่อนข้างเยอะ อยากให้ไปดูแบบซึมซับกันเองเต็มๆ รีวิวนี้จะขอเขียนเป็นข้อสั้นๆ แล้วกันนะ
หนังมีความต่อเนื่อง ความเชื่อมโยงจากภาคแรกเยอะมาก ควรดูภาคแรกก่อนอย่างยิ่ง ใครลืมแล้วก็ควรดูใหม่ ก่อนที่จะไปดูภาคนี้ เพื่ออรรถรสที่สมบูรณ์
นักแสดงรุ่นผู้ใหญ่ คือแคสมาได้ยอดเยี่ยมมาก หน้าตา และบุคลิคถอดแบบจากวัยเด็กมาแบบเป๊ะๆ เวลาพวกเขาอยู่ด้วยกันนั่นคือความบังเทิง เพราะจะมีมุกตลกตลอดเวลา คาแรคเตอร์ทุกตัวคือสีสันของหนังมาตั้งแต่ภาคแรก ในภาคนี้ก็เช่นกัน
ตัวตลก เพนนี่ ไวซ์ ภาคนี้มีลูกเล่นเยอะ ร้ายขึ้น ปล่อยของไม่อั้น ส่วนพวกสัตว์ประหลาดทำได้น่าเกลียดน่ากลัว แปลกใหม่ และโอเว่อดี หนัง 4k
หนังสนุกครบรสมากๆ ออกแนวแฟนตาซี เว่อวัง ไม่ได้สยองจนเครียด ไม่ได้น่ากลัวจนต้องปิดตา ไม่ได้มีภาพโหดร้ายรุนแรงจนต้องเบือนหน้าหนี แถมยังตลกด้วยซ้ำ
ชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ แก๊งค์ Loser ที่ถึงแม้จะแยกย้าย ห่างหายกันไปถึง 27 ปี จนลืมเลือนกันไปหมด แต่ก็ยังสามารถต่อติดกันอย่างสนิทใจ เพราะเคยร่วมทุกข์ร่วมสุข ต่อสู้มาด้วยกัน
อิท โผล่จากนรก (2019)
สรุปแล้ว It: Chapter two ก็สามารถปิดฉากสรุปเรื่องราวของIt ได้อย่างเต็มอิ่มและดีเยี่ยม ไม่แพ้Endgameเลยทีเดียว มันทำให้เรารู้สึกวิธีการเอาชนะอดีตอันเจ็บปวดของเราที่แท้จริงไม่ใช่การวิ่งหนีมัน แต่เป็นการอ้าแขนต้อนรับมัน และก้าวข้ามมันไปอย่างสมศักดิ์ศรีต่างหาก
โดยภาคนี้จะกลับมาเล่าถึงมันอีกครั้ง มันกลับมาอีกแล้วค่ะ หลังจากเวลาผ่านไปถึง 13 ปี… ที่ในตอนนี้ทุกๆคนอายุ 30 ปี และค่อยๆลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นตอนเด็กๆไป จนกระทั้งเกิดสัญญาณๆหนึ่งกับบิลลี่ แผลของบิลลี่ที่เกิดจากการต่อสู้กับมันเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เกิดปวดแสบปวดร้อนและหัวของเขาก็เริ่มปวดขึ้นมาจนบางครั้งก็ทนไม่ได้
บิลลี่เลยนัดรวมกลุ่มลูซเซอร์ให้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อต่อสู้กับมัน และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กภายในหมู่บ้านสังเวยชีวิตหรือตกเป็นเหยื่อเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ในความรู้สึกของผู้เขียนที่ไปดูในโรงตอนหนังออกใหม่ๆนะคะ ขอบอกว่าถ้าเทียบกับความรู้สึกที่ได้ดูตอน chapter I ของปี 2017 ผู้เขียนรู้สึกผิดหวังมาก เพราะ chapter I ทำออกมาได้ดีมาก เลยทำให้ความคาดหวังที่มีตอน Chapter II ออกมาเลยค่อนข้างสูง แต่พอทำได้ไม่ดีอย่างที่หวัง เลยเกิดผิดหวังขึ้นมา
อิทกับเด็ก 13 ปี เรายังพอเข้าใจได้ เพราะเด็กกลัวอะไรที่ดูเรียบง่ายเสมอ เช่น กลัวผี กลัวของน่ากลัว กลัวสัตว์ที่น่าขยะแขยง แต่ผู้ใหญ่วัย 30 นั้น มีความกลัวที่ซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เช่น กลัวหุ้นตก กลัวเงินเดือนไม่ออก จึงไม่ควรกลัวอะไรอย่างที่สมัยเด็กๆกลัวแบบมันอีกแล้ว…
และสำหรับใครที่เคยดูแล้ว ไม่ขอสปอยล์นะคะ แต่ถ้ามันมาเจอผู้เขียน คงเป็นฝุ่นตั้งแต่เวลาไม่ถึง 0.001 วินาทีแน่นอนค่ะ
ค่อนข้างจะเฉยๆ กับภาคนี้นะฮะ คือถามว่ามันสยองหรือน่ากลัวมั้ย ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากเทียบกับภาคแรกแล้ว รู้สึกว่าความสยองและลุ้นระทึกสู้ภาคแรกไม่ได้นะฮะ แถมฉากสยองตุ้งแช่ต่างๆ แลดูจะมี “ความพยายาม” ที่จะนำเสนออะไรแปลกๆ มากเกินไป จนมันดูแล้วเหมือนดูหนังสัตว์ประหลาดมากกว่าจะเป็นหนังผีปีศาจ อย่างที่ภาคแรกทำเอาไว้ แต่ถามว่าโหดมั้ย ก็โหดแหละ แถมบางฉากดูยังหดและรุนแรงกว่าภาคแรกซะด้วย
และด้วยความที่ตัวหนังค่อนข้างจะยาว จึงทำให้ในบางช่วงมีความน่าเบื่อและง่วงเหงาเข้ามาบ้าง
ด้านนักแสดงก็หายห่วงได้เลยฮะ นักแสดงทุกคนสามารถถอดคาแรคเตอร์ของตัวละครในวัยเด็กออกมาได้อย่างดีไม่มีที่ติ ทำให้เราไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย
สรุป หนังดูสนุกและน่าตื่นเต้นดี แต่สู้ภาคแรกไม่ได้ และสำหรับคนที่ยังไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน แนะนำว่าเพื่ออรรถรสการดูที่สมบูรณ์ คุณควรจะดูภาคแรกมาก่อนนะฮะ
เพราะตัวตลกปีศาจเพนนี่ไวซ์ จะกลับมาเยือนเมืองเดอร์รี่ รัฐเมนในทุกๆ 27 ปี เหล่าเด็กๆ แก็งค์ขี้แพ้ (Loser) ที่แยกย้ายจากกันไปนาน จึงต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ ตามที่ได้กรีดเลือดสัญญากันไว้ในภาคแรก เพื่อหาทางกำจัดเจ้าตัวตลกเพนนีไวซ์ไปอย่างถาวร ดูหนังออนไลน์ 4k