รีวิว แบล็คแอนด์บลู พลิกแผนลับ สับตำรวจ
รีวิวหนัง netflix หนังแอคชั่นสุดมันส์จากทาง โซนี่ พิคเจอร์ ที่กำกับโดย ดีออน เทย์เลอร์ ผู้ได้ฝากผลงานการกำกับไว้ใน Traffik ครั้งนี้นำทีม 2 นักแสดง นาโอมิ แฮร์ริส และ ไทรีส กิ๊บสัน พลิกบทบาทมาร่วมกระหน่ำกับฉากบู๊ในเมืองใหญ่ไปด้วยกัน
ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายในต่างประเทศมานานแล้ว แต่ในไทยก็ได้มีโอกาสมาฉายใน NETFLIX เมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมานี่เอง แม้ว่าจะเป็นหนังจะเป็นหนังแอ็คชันถือปืนก็ตาม แต่ตัวหนังไม่ได้มีฉากระเบิดภูเขา เผาป่าแต่อย่างใด เพราะเนื้อหาของ BLACK AND BLUE ได้ดำเนินเนื้อเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้ทิ้งปมลึกลับไว้ให้กังวลมากนัก เว็บหนัง
โดยครั้งนี้ได้นักแสดงนำ นาโอมิ แฮร์ริส ที่หลายคนเคยคุ้นหน้าคุ้นตากันมาแล้วใน Rampage และ แฟรนซ์ไชน์ เจมส์ บอนด์ มารับบท อลิเซีย เวสต์ ตำรวจหญิงหน้าใหม่ของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเธอเองได้ถูกเกณฑ์เข้ากรมตำรวจ และได้กลับมาที่บ้านเกิดใน รัฐนิวออร์ลีน และเธอเองก็ได้มาเจอกับทีมตำรวจ รวมถึงทีม ปปส. ในพื้นที่
ปกติแล้ว อลิเซียจะมีกล้องบันทึกเหตุการณ์ของกรมตำรวจติดไว้ที่เสื้อตัวเองตลอด และในวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังออกตรวจในพื้นที่พร้อมกับนายตำรวจคนนึ่ง เมื่อถึงโกดังร้างเขาได้ย้ำให้เธอรอในรถ แต่เธอบังเอิญได้ยินเสียงปืน ทำให้เธอต้องเข้าไปสืบหาดูเหตุการณ์จริง และได้แอบเห็นทีม ปปส. ที่กำลังร่วมมือกับตำรวจคนนั้น ฆ่าปิดปากบางคนอยู่ โดยระหว่างที่เหตุการณ์ดำเนินไปนั้น กล้องวีดีโอที่ติดตัวเธอก็ได้บันทึกภาพหลักฐานทุกอย่างเอาไว้
เมื่อทีม ปปส. เห็นว่าเธอเป็นผู้รู้เห็นทุกอย่างในเหตุการณ์ รวมทั้งมีกล้องวีดีโอเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ เขาจึงร่วมมือกับตำรวจเพื่อหาทางกำจัดเธอทิ้งซะ จึงเกิดการไล่ล่าสุดระห่ำที่เธอต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดให้ได้ แต่ดูเหมือนชาวเมืองจะกลัวอิทธิพลของตำรวจและปปส.ในแถบนี้มาก จึงไม่มีใครให้ความช่วยเหลือเลยสักคน
หลังจากที่พยายามเอาตัวรอดจากการโดนไล่ล่า เธอก็ได้พยายามติดต่อคู่หูเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลายเป็นว่าเขาเองก็เป็นคนกลุ่มเดียวกับฆาตกรและพยายามหลอกล่อเธอเพื่อหาทางกำจัดเธอทิ้งซะ ทำให้เธอต้องหนีมาอีกครั้ง และในครั้งนี้เธอเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก พนักงานร้านสะดวกซื้อคนหนึ่ง ที่เคยบังเอิญเจอตอนออกตรวจ ซึ่งนำแสดงโดย ไทรีส กิ๊บสัน เขาอาศัยในย่านคนผิวสี คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าเขาทั้งสองจะสามารถเอาตัวรอดจากการไล่ล่าครั้งนี้ไปได้หรือไม่
แม้ว่าตัวหนังจะมีการดำเนินเรื่องอย่างตรงไปตรงมา แต่บอกได้เลยว่าหนังได้ตอบโจทย์ฉากบู๊ไล่ล่า ได้ดีมากๆ ที่สำคัญบทบาทตำรวจหญิงของ นาโอมิ สามารถแสดงเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม คงต้องติดตามบทสรุปของการไล่ล่าครั้งนี้ พวกเขาจะผ่านไปได้หรือไม่ ใน BLACK AND BLUE แบล็คแอนด์บลู พลิกแผนลับ สับตำรวจ เว็บดูหนัง
รีวิว แบล็คแอนด์บลู พลิกแผนลับ สับตำรวจ
Black and Blue (2019) แบล็คแอนด์บลู พลิกแผนลับ สับตำรวจ รีวิวหนัง
พีดีมือใหม่แห่งนิวออร์ลีนส์รับสมัครอลิเซีย เวสต์ (นาโอมี แฮร์ริส) จับภาพอาชญากรที่เพื่อนร่วมงานตำรวจของเธอยิงถึงสามครั้งด้วยกล้องบนตัวของเธอ เธอต้องนำภาพที่ถูกกล่าวหากลับไปที่เขตตำรวจ แต่เธอก็ถูกตำรวจฉ้อฉลและพวกอันธพาลในท้องที่ไล่ตามซึ่งเชื่อว่าเธอเป็นผู้ก่อเหตุ
คุณต้องสงสารคนจนNaomie แฮร์ริส หลังจากบทบาทสนับสนุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในแฟรนไชส์อย่างPirates Of The Caribbeanหรือ James Bond หรือละครอย่างMandela: Long Walk To Freedomและบทบาทที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในMoonlightในที่สุดเธอก็ได้รับบทนำในBlack And Blueและมันก็เป็น ทั่วไปตามที่พวกเขามา อย่าพลาด แฮร์ริสถูกตั้งข้อหาทางอารมณ์และสั่งการทางร่างกายในฐานะตำรวจมือใหม่ที่ตรงไปตรงมาซึ่งต้องเผชิญกับการทุจริตที่หยั่งรากลึกและการเหยียดเชื้อชาติในสถาบัน แต่ภาพยนตร์ที่รายล้อมเธอนั้นเป็นภาพยนตร์แนวตำรวจในยามวิกฤต ส่วนหนึ่งTraining Dayส่วนหนึ่งAssault On Precinct… ภาพยนตร์ที่ไม่อิงหลักการหรือความยุติธรรมของดารา เว็บดูหนังฟรี
เริ่มเข้มข้นแล้ว: อลิเซีย เวสต์ (แฮร์ริส) แอฟริกัน-อเมริกัน (แฮร์ริส) ออกไปวิ่งตอนเช้าในย่านนิวออร์ลีนส์อันเงียบสงบ เธอถูกตำรวจผิวขาวคู่หนึ่งดึงตัวเธอไว้ ซึ่งเริ่มก่อกวนเธอ แล้วจึงขย้ำเธอ จากนั้นตำรวจคนหนึ่งดึงบัตรประจำตัวของอลิเซียออกมาและได้รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนบลู มือใหม่ในสัปดาห์ที่สามของเธอในนิวออร์ลีนส์ PD ด้วยความคิดเห็นที่เฉียบขาด (“คุณรู้ว่ามันเป็นอย่างไร”) พวกเขาปล่อยเธอไป
ฉากดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดที่ว่าอลิเซียถูกจับได้ว่าอยู่ระหว่างโลกทั้งใบ ระหว่างคนดำและคนขาว ชายและหญิง คนธรรมดาและตำรวจ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำอะไรได้น้อยมากที่จะทำให้แนวคิดนั้นเป็นจริง แทนที่จะเป็นหนังของดีออน เทย์เลอร์ กลับเข้าสู่เส้นทางหนังระทึกขวัญเมืองที่ปลอดภัยกว่าและน่าสนใจน้อยกว่า ขณะที่อลิเซียในการลาดตระเวนกะกลางคืน จับตัวเธอว่าเป็นเหตุฆาตกรรมสามครั้งที่ตำรวจก่อขึ้น
ในฐานะอาชญากรในละแวกบ้าน ที่นำโดยดาริอัส ( ไมค์ โคลเตอร์ ) ไม่เชื่อว่าเธออยู่เบื้องหลังการสังหาร และกองกำลังตำรวจรวมตัวกันเพื่อปกปิดร่องรอยของพวกเขา อลิเซีย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านเพื่อนบ้าน เมาส์ ( ไทรีส กิ๊บสัน ) ต้องอยู่ต่อ มีชีวิตอยู่เพื่อเอาฟุตเทจจากกล้องติดตัวกลับไปที่บริเวณและอัปโหลดไปยัง Cloud เวอร์ชันตำรวจเพื่อเปิดเผยความจริง
ถ่ายทำโดยตากล้องในตำนานอย่าง ดันเต้ สปินอตติ (คุณไม่จำเป็นต้องรู้เลยเว้นแต่คุณจะอยู่เพื่อเครดิตนี้) แอ็กชันนี้เป็นส่วนผสมที่พอรับได้ระหว่างการยิงออกไป ชกต่อย และไล่ตามเท้า มีภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่องฝังอยู่ที่นี่ที่ใดที่หนึ่ง ปัญหาทางสังคมและเชื้อชาติที่กรองผ่านหนังระทึกขวัญตึงเครียดและตึงเครียด แต่สิ่งที่เราเหลือคือภาพยนตร์ที่อยู่ระหว่างช่องว่าง ที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตในนิวออร์ลีนส์หลังพายุเฮอริเคนแคทรีนา แต่ยังโง่พอที่ตัวละครจะตกลงมาจากตึกสูง ที่ดินบนหลังคาของ รถแล้วสู้ต่อไป. คุณเคยเห็นBlack And Blueล้านครั้งมาก่อน และเห็นว่าทำได้ดีกว่า
แม้แต่พรสวรรค์ที่สำคัญของ Naomie Harris ที่เคยดูไม่เคยสามารถยกระดับ Black And Blue ให้เหนือกว่าในวงกว้างและทั่วไป ผลที่ได้คือสูตรเชิงรุกที่น่าเศร้า
หนังเรื่องนี้จริงๆนั้นเข้าฉายที่ต่างประเทศมาได้นานแล้วครับแต่มีโอกาศได้ดูใน NETFLIX เพราะพึ่งเข้ามาวันนี้เลยนั้นเองเลยขอมารีวิวกันนิดนึง แน่นอนว่าตอนแรกเห็นตัวปกไม่เคยดูหนังไม่ได้ดูตัวอย่างอะไรมาก่อน คิดว่าหนังจะเป็นแนว แอคชั่นสายลุย พร้อมกับตัวละคร ไทรีส กิบสัน ที่เป็นดาราสายฮาในหลายๆเรื่องแต่พอมาเรื่องนี้กลับมาเล่นแบบจริงจังเข้มๆ อีกครั้งครับถือว่าก็ทำได้ดีเลยแหละ มาพร้อมกับดาราหญิง นาโอมี แฮร์ริส ที่เราคงคุ้นกันในหลายๆเรื่องของเธอครับ ตัวหนังนั้นจะเป็นเล่นในเรื่องราวของ การเมือง ตำรวจ และเส้นสายรวมถึง ความไม่เท่าเทียมกันในหลายๆอย่าง และมีประเด็นเรื่องสีผิวอะไรเข้ามาด้วยนิดหน่อยครับสำหรับหนังเรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจเลย
แบล็คแอนด์บลู พลิกแผนลับ สับตำรวจ
การเล่าเรื่องเนื้อเรื่องของตัวหนังนั้นถือว่าไม่ได้มีอะไรที่ลึกหรือดูยากอะไรครับหนังเล่าเรื่องแบบเส้นตรงๆไปตั้งแต่ต้นจนจบ มีการเล่าให้เรามีลุ้นไปกับตัวละครอยู่บ้าง ครับหนังจะเป็นในเรื่องราวของ Alicia West ตำรวจหน้าใหม่ ที่รับบทโดย นาโอมี แฮร์ริส ที่จับตัวฆาตกรผู้ค้ายาได้รายนึงแต่ก็ไปทราบเรื่องราวทำให้มีเบื้องหลังกับทางตำรวจและพาไปสู่การหลบหนีเอาตัวรอด และต่อสู้เพื่อความโปร่งใส และแก้ชื่อเสียงของตัวเองที่โดนเอาผิดครับ
แน่นอนว่ามันเป็นพล็อตเรื่องที่อาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก หนังทำได้ดีในบางจุดที่ให้เราลุ้นอยู่บ้างในหลายๆซีน แต่ก็ไม่ได้ลึกหรือ ตื่นเต้นเท่าที่ควรนัก รวมถึงประเด็นในหลายๆอย่างในเรื่องมันน่าจะสุดได้มากกว่านี้อีกเยอะครับ เบื้องหลังตัวละครอะไรหลายๆตัวก็น่าจะสุดให้เราได้ลุ้นหรือมีความรู้สึกได้มากกว่านี้แต่ก็ไม่ได้ อันนี้เลยน่าเสียดายมากๆ แต่ถ้าดูแบบไม่ได้คิดมาก และไม่ได้ลงลึกก็ถือว่าหนังดูง่าย ดูแอคชั่นได้บ้างพร้อมกับเนื้อเรื่องที่จริงจังระดับนึงไม่มีซีน ฮาๆอะไรเท่าไรที่ตอนแรกคิดว่า ไทรีสจะมาแทรกตรงนี้แต่ก็เล้นบทเข้มๆ ดราม่าไปทั้งเรื่องเลยแหละครับ เว็บหนังฟรี
ตัวนักแสดงนั้นถือว่าหลักๆจะเป็นทาง ไทรีส และ นาโอมี ทั้ง 2 คนที่มาเล่าเรื่องเล่นหลักๆในการเอาตัวรอดและต่อสู้ครับ และมีทางตำรวจอีกหลายๆคนมาเสริมจริงๆถือว่าการแสดงนั้นไม่ได้มีปัญหานะแต่จะเป็นในเรื่องของบทที่มันยังไม่ได้ส่งเท่าที่ควรทำให้หลายๆจุดมันไม่ได้เข้าถึงกับตัวละครหรืออินเอาใจช่วยลุ้นไปมากกว่าเดิมเท่าไรครับ ส่วนทางด้าน ไทรีส นั้นก็เป็นตัวละครรองที่จะมาแบบเงียบๆ การแสดงแบบที่เราไม่ค่อยคุ้นตากันเท่าไร มาเชิงดราม่าเข้มๆครับ เลยแอบแปลกตากว่าที่เคยเห็นในหลายๆเรื่องที่จะมาสายฮา แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในแง่ของการเล่นแบบนี้อยู่นะ
งานภาพและเสียงเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เน้นเท่าไรนักครับ งานภาพเรื่องนี้มุมกล้องอะไรเป็นเหมือนหนังแอคชั่นทั่วไปแต่จะมีทำโทนสีสวยพอสมควรแบบสมจริงเรียลๆ และมีการแทรกมุมกล้องของหน้าจอแบบกล้องบนรถยนต์ หรือ กล้องติดหน้าอกตำรวจแทรกเข้ามาในช่วงแรกเหมือนจะพยายามสื่อว่าตัวกล้องมันสามารถบันทึกอะไรหลายๆอย่างได้และเป็นหลักฐานอะไรในอนาคตประมาณนั้นครับ ส่วนตัวเสียงซาวนด์ดนตรีอะไรไม่ได้มีเด่นๆเท่าไรครับแต่เสียงยิงปืนอะไรแน่นดีนะในส่วนนี้แต่พวกดนตรีให้ลุ้นหรือเพิ่มอารมณ์นั้นยังไม่ได้เด่นเท่าที่ควรครับ
เอาจริงๆมันเป็นหนังที่มันดีลึกกว่านี้ได้อีกแต่ก็ทำออกมาค่อนข้างเรียบง่ายพอสมควรดูง่าย เพลินๆครับไม่ได้ถึงแบบน่าเบื่อหรือง่วงคือดีกว่าหลายๆเรื่องที่ทำแนวนี้เยอะเหมือนกันครับดูง่ายเพลินๆแก้เบื่อได้และมีความจริงจังระดับนึงผสมกับแอคชั่นแต่ก็ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่หนังที่เน้นเรื่องของแอคชั่นมากสะใจอะไรมากขนาดนั้น ครับถ้าใครที่เน้นดูสนุก มันส์ๆ บู๊ๆอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์มาก แต่หนังก็ไม่ได้เครียด จริงจังชัดเจนอะไรด้วยคือมันกลางๆครับในเรื่องนี้