รีวิว โอคจา
รีวิวหนัง netflix Okja (อ่านว่า โอค-จา ไม่ใช่ โอ-เค-จ้า) เป็นหนังของ Netflix กำกับโดยผู้กำกับเกาหลี Joon-ho Bong (จาก Snowpiercer) หนังมีพูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี โดยมีนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังมาร่วมวงอย่างคับคั่ง ได้แก่ Tilda Swinton, Paul Dano, Steven Yeun, Lily Collins และ Jake Gyllenhaal (รวมถึงอาตี๋หล่อนักเบสบอลจาก Train to Busan ด้วย)
Okja ถูกจับตามองตั้งแต่ได้รับเลือกให้ไปฉายที่ Cannes เพราะปกติหนังที่ควรได้เข้าประกวดบนเวทีนี้ต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปกติ (ใครสนใจประเด็นนี้ก็ไป Google หาอ่านดราม่าเพิ่มเติมดู) แต่อย่างไรก็ดี กระแสตอบรับของคนดูจากในงาน รวมถึงนักวิจารณ์สำนักต่าง ๆ ก็ออกมาในเชิงบวก ยิ่งทำให้ Okja ได้รับความสนใจในหมู่คนดูทั่วไปยิ่งขึ้นไปอีก เว็บดูหนังฟรี
เรื่องย่อ
Okja บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กหญิง Mija (Seo-Hyun Ahn) ซึ่งเป็นหลานสาวของเกษตรกรท้องถิ่นบนภูเขาแห่งหนึ่งในเกาหลี กับซูเปอร์หมู Okja ซึ่งเป็นหมูพิเศษจากโครงการของ บ. Mirando ภายใต้การบริหารของ CEO Lucy Mirando (Tilda Swinton จาก Doctor Strange ฯลฯ)
เมื่อ Okja อายุครบ 10 ปี ดร. Johnny (Jake Gyllenhaal จาก Nightcrawler) ก็มาเอาตัว Okja กลับไปเพื่อแปรรูปเป็นอาหารขาย Mija ตามไปที่โซล เพื่อที่จะพาตัว Okja กลับมาก่อนจะถูกส่งตัวไปนิวยอร์ก และเจอพวก ALF อีกกลุ่มที่มาชิงตัว Okja ด้วย กลุ่ม ALF นำโดย Jay (Paul Dano จาก Love & Mercy) ร่วมด้วย K (Steven Yeun จาก The Walking Dead) และ Red (Lily Collins จาก Love, Rosie) ดูหนัง
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์
ตอนแรกเห็นเป็นหนังฉายใน Netflix อย่างเดียว ไม่เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก แต่พอทราบว่าหนังเกี่ยวกับสัตว์โลกน่ารัก ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในเกาหลี นักแสดงแต่ละคนก็หาใช่ไก่กาอาราเล่ แถมยังกำกับโดยผู้กำกับเรื่อง Snowpiercer ที่เราชอบมากอีกต่างหาก เราก็สนใจเรื่องนี้มากขึ้นทันที
ซูเปอร์หมูในเรื่องหน้าตาไม่ค่อยเหมือนหมูที่เราคุ้นเคย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเมื่อเห็นความน่ารักแสนรู้ของ Okja โดยเฉพาะตอนซีนเปิดตัว Okja ที่หนังพาเราไปรู้จักกับความสัมพันธ์ของมันกับ Mija มันทำให้เราค่อย ๆ หลงรัก อินจัด และอยากเอาใจช่วยทั้งสองตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เพราะเราได้เห็นพวกเขาโตด้วยกันมาฉันพี่น้อง
Okja อาจจะดูยังไงก็เหมือนลูกช้างผสมฮิปโปฯ มากกว่าเหมือนหมู แต่ก็ว่าไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะ CGI ของเกาหลีเขาเนียนมากกกกก เชื่อว่าทุนสร้างมหาศาลนั้นหมดกับส่วนนี้ไปโขอยู่ ขนาดหมูเคลื่อนไหวตลอดเวลา และอยู่ในเฟรมแทบตลอดในหลาย ๆ ซีน มันยังดูมีชีวิตชีวาสมจริงไร้ที่ติ (แต่พอลองกลับมามอง CG เสือและงู ณ ไทยแลนด์แล้วก็ถอนหายใจ เฮ้อ~)
แล้วเช่นเดียวกับ Snowpiercer ผู้กำกับก็ยังคงขยี้สังคมทุนนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง (แต่ไม่หนักหน่วงเท่า Snowpiercer) นอกจากประเด็นทุนนิยมแล้ว ยังมีประเด็นสังคมโซเชียลฯ อีกนิด ๆ หน่อย ๆ เช่น พวกชอบไลฟ์หรืออัดวิดีโอในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน หรือโพสต์รูปลงไอจี ฯลฯ แต่ไม่ได้เสียดสีอะไรมากนัก มีพอเป็นหอมปากหอมคอ ดูน่ารัก ตลก และทันยุคสมัยดี ดูหนังออนไลน์2022
รีวิว โอคจา
โดยใน Okja นี้ มี Mirando เป็นตัวแทนของนักธุรกิจหน้าเลือด สร้างภาพเก่ง โฆษณาเก่ง โน้มน้าวเก่ง ฯลฯ ทำธุรกิจประเภทเดียวกับ CP และสร้างโปรเจ็กต์บังหน้าบังตาประชาชนว่า หมูของเธอเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอก็มองแต่ว่ามันคือสินค้าทำเงิน
สำหรับคนอย่างเจ๊ Mirando สนใจแต่ตัวเลขและเงินทอง ประมาณว่าแค่มีเงินก็ซื้อได้ แต่สำหรับเด็กชาวเขาอย่าง Mija แล้ว ต่อให้เอาเงินเป็นล้านมาแลก เธอก็คงไม่ขาย Okja ให้ใคร เพราะ Okja คือเพื่อนคนเดียวของเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นโลกทั้งใบของ Okja เช่นกัน
ซึ่ง Tilda Swinton (คนเดียวกับป้าแว่นใน Snowpiercer) กับ Jake Gyllenhaal นี่เล่นใหญ่ล้นเบอร์กันได้ใจ โดยเฉพาะ Jake นี่เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่านี่คือ Jake จริง ๆ คือ… ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ค่อยเล่นเป็นคนปกติเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าเขาจะมาเล่นเป็นอีตาบ้าอะไรเบอร์นี้ ปกติเห็นเขาเล่นแต่หนังเครียด ๆ ประมาณนั้น แต่โดยรวมก็เป็นสีสันดี
สรุปความรู้สึกของเรา เราดูแล้วเราได้ฟีลเหมือนดู Pete’s Dragon ผสมองค์บาก (‘ช้างกูอยู่ไหน’) ดูสนุก บันเทิง หรรษา ครบรส หลากอารมณ์ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ไม่มีเบื่อ (แต่ก็มีฉากรุนแรงบ้างเล็กน้อย เด็กกับคนรักสัตว์อาจมีสะเทือนใจบ้างนิดหน่อย เรานี่บางฉากใจจะขาด) หนังเรื่องนี้จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่สมาชิกในครอบครัวหรือผองเพื่อนจะเปิด Netflix ที่บ้าน และ enjoy watching ร่วมกัน
จริงๆ เราได้ยินชื่อ Okja ตั้งแต่ปล่อยแรกๆ ใน Netflix แล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจมากเพราะเข้าใจไปเองว่าเป็นหนังเชิงรักสัตว์รักธรรมชาติกึ่งสารคดี (ไม่รู้ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน) แต่พอวันนี้ที่ได้ดูจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่แบบที่เราเข้าใจเลย กลับกันคือหนังจากผู้กำกับ Bong Joon Ho เรื่องนี้สนุกมาก และเสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ
Okja เริ่มต้นด้วยโครงการของบริษัทมิรานโด ที่ซึ่งลูซี่ (Tilda Swinton) เป็น CEO ในปัจจุบัน เธอเห็นว่าผู้บริโภคต่อต้านอาหารที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) จึงคิดค้นโปรเจ็กต์ที่จะสร้างภาพลวงตาผู้บริโภคขึ้นมา โดยอ้างว่าบริษัทตอนนี้มีหมูพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นหมูยักษ์ บริษัทได้ส่งหมูยักษ์ 26 ตัวไปให้คนเลี้ยงหมูทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาเลี้ยงดูหมูยักษ์เป็นเวลา 10 ปี เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
ภาพตัดมาที่ 10 ปีต่อมา ในชนบทประเทศเกาหลีใต้ เราได้รู้จักกับมีจา (Seo-hyun Ahn) เด็กหญิงที่อาศัยอยู่กับปู่ของเธอท่ามกลางธรรมชาติ พวกเขาได้เลี้ยงดูโอคจา หมูยักษ์ที่บริษัทมิรานโดให้มานั่นละ มีจากับโอคจาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มีจาอายุเพียง 4 ขวบ ถือเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญเลย แต่แล้วมีจาก็ต้องเจอเรื่องช็อก เมื่อจู่ๆ ตัวแทนจากบริษัทมิรานดา สาขาเกาหลีใต้ก็มาขอตัวโอคจาคืนตามกำหนดการ มีจาเข้าใจมาตลอดว่าปู่ของเธอซื้อโอคจามาจากบริษัทมิรานดาแล้ว ก็ไม่พอใจอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจคว้าเงินเก็บแล้วออกเดินทางไปกรุงโซล เพื่อตามโอคจากลับมา ก่อนที่โอคจาจะถูกส่งตัวไปนิวยอร์ก เพื่อเข้าการประกวดหมูยักษ์ที่จัดโดยบริษัทมิรานดา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีให้บริษัท
หนังมีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง รวม End Credit นิดหน่อย ซึ่ง 2 ชั่วโมงนี้ดูเพลินมากถึงมากที่สุด ไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยอะสำหรับเรา ตอนแรกเราคิดว่าหนังจะดูยาก ตามสไตล์หนังรางวัล แต่ปรากฏว่าหนังเสพง่ายมาก แม้ว่าประเด็นที่เล่นจะละเอียดละอ่อนและซีเรียส แต่หนังก็ผสมมันลงไปในเส้นเรื่องได้อย่างกลมกลืน ทำให้ระหว่างดูเราก็เอาใจช่วยให้มีจาสามารถทำภารกิจสำเร็จ นอกเหนือไปกว่านั้น หนังก็ทำให้เราทึ่งกับตัวมีจาในหลายๆ ตอน ทำให้เห็นว่าเด็กจากชนบทไม่ได้ปวกเปียกนะ เอาเข้าจริงมีจามีไหวพริบดีมาก เอาตัวรอดเก่ง และกล้าได้กล้าเสี่ยงสุดๆ ฉากที่เราชอบคือฉากปีนรถบรรทุกลอดอุโมงค์ ตรงนั้นคือร้องโหวววเลย
ในฝั่งของซีจีตัวโอคจานั้นทำได้เนียนมาก เหมือนมีตัวตนอยู่จริงๆ ส่วนฉากที่เราชอบคือชนบทบ้านเกิดของมีจา ที่ดูเขียวขจีรอบทิศรอบทาง เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่แปลกใจว่าทำไมโอคจาถึงได้ตัวใหญ่กว่าเพื่อนๆ คงเพราะถูกเลี้ยงดูตามธรรมชาติ ได้วิ่งเล่นในที่กว้าง สูดอากาศบริสุทธิ์
ประเด็นใหญ่ที่ไม่แตะไม่ได้คืออุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม้ในหนังจะเป็นหมูยักษ์ที่ไม่ได้มีอยู่จริงในปัจจุบัน แต่สถานการณ์นั้นใกล้เคียงมากๆ ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นความโหดร้ายทารุณของสัตว์ที่ต้องเผชิญชะตากรรมในห้องทดลองและโรงเชือด ที่พอดูแล้วอาจทำให้หลายคนไม่อยากกินเนื้อสัตว์อีกเลย หนังหยิบประเด็นนี้ขึ้นฉายให้เห็นกันชัดๆ จริงๆ และมันก็อดเจ็บใจไม่ได้เลยว่านี่เป็นภาพสะท้อนจากความจริง มีสัตว์อีกหลายชีวิตที่ต้องเผชิญความโหดร้ายแบบนี้จริงๆ ทั้งๆ ที่สัตว์แต่ละตัวก็มีความรู้สึก สุขได้ทุกข์ได้ แต่ก็ต้องมาเจออะไรแบบนี้ คิดแล้วหดหู่มาก ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก
โอคจา
นอกจากเรื่องสภาวะไม่น่าอภิรมย์ของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ยังมีประเด็นเรื่องของลัทธิทุนนิยมและผลประโยชน์ทางธุรกิจด้วย แม้ว่าผู้บริโภคจะต่อต้าน GMO แต่ผู้บริโภคก็ยังโหยหาอาหารอร่อยๆ ราคาถูกอยู่ ความต้องการนี้บีบบังคับให้บริษัทจำต้องหาวิธีมาสนองอุปสงค์ดังกล่าว อย่างลูซี่ที่สร้างแคมเปญหลอกตาคนว่าหมูยักษ์เหล่านี้มาจากธรรมชาติ แท้จริงแล้วหมูยักษ์ก็มาจากห้องทดลองนั่นแหละ แต่ถ้าผู้บริโภครู้ ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อยอดขายของบริษัท ลูซี่จึงต้องเล่นละครฉากใหญ่ยาวนานถึง 10 ปี ให้ผู้คนเข้าใจไปเองว่านี่ไม่ใช่ผลพวงจากการทดลอง แต่เป็นสัตว์ที่ถูกเลี้ยงตามธรรมชาติ
นี่คือกลยุทธ์ของลูซี่ ที่ใช้กลลวงหลอกตาผู้บริโภคให้เชื่อว่าภาพลักษณ์บริษัทดูดี ไม่ได้บู๊จัดเหมือนแนนซี่ (Tilda Swinton) แฝดพี่ของเธอซึ่งเป็นอดีตซีอีโอ รายนั้นทำอะไรก็ทำตรงๆ ไม่มีการบังหน้าใดๆ ทั้งสิ้น ลูซี่ต้องการสร้างเรื่องราวที่น่าคล้อยตาม ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภค เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าของตน ในขณะที่แนนซี่นั้นมองตามกลไกเศรษฐกิจ เธอเห็นว่าถ้าสินค้าที่อร่อยนั้นมีราคาถูกพอ แม้จะมีเรื่องราวแย่ๆ แต่คนก็จะแห่กันไปซื้ออยู่ดี
ในภาพใหญ่นั้นเราจะได้เห็นคำหลอกลวงปะปนไปทั่วเส้นเรื่อง ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อนำเสนอด้านดีๆ โดยกลบด้านแย่ๆ เอาไว้ อย่างตอนต้นเรื่องก็ปู่ของมีจานั่นละที่โกหกมาตลอดว่าโอคจาเป็นของพวกเขา เพราะไม่อยากให้หลานสาวรู้สึกเสียใจว่าจะต้องสูญเสียโอคจาไปสักวัน ในฝั่งธุรกิจของลูซี่เองก็คือการสร้างแคมเปญหลอกคนว่าหมูยักษ์นั้นมาจากธรรมชาติ
นอกเหนือจากนี้ ระหว่างทางของหนัง เรายังได้รู้จักกับขบวนการปลดปล่อยสัตว์จากการกดขี่ หรือ ALF ที่มาช่วยมีจาปลดปล่อยโอคจา แต่ถึงกระนั้นขบวนการก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น พวกเขาอยากทำลายแคมเปญนี้ให้สิ้นซาก แต่ก็ต้องแลกกับการส่งโอคจาไปให้บริษัทมิรานดาก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อคอยอัดวิดีโอสอดแนมความเน่าเฟะเบื้องหลัง ไว้นำมาประกาศให้โลกรู้ทีหลัง ด้วยเพราะเป็นการตัดสินใจที่ยากพอสมควร หัวหน้าทีมจึงขอความยินยอมจากมีจา แน่นอนว่ามีจาไม่ยอมหรอก แต่สมาชิกชาวเกาหลีเพียงหนึ่งเดียวดันโกหกทีมว่ามีจาตกลง ก็เพื่อให้ภารกิจมุ่งต่อไปได้ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022
ในตอนสุดท้าย แม้ว่าหนังจะจบค่อนไปทางแฮปปี้ ว่ามีจาสามารถพาโอคจากลับมาได้ แต่หนังก็ทิ้งตะกอนแห่งความไม่สบายอารมณ์ไว้ ตรงที่ว่ามีเพียงโอคจาตัวเดียวเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือ ยังมีหมูยักษ์อีกหลายร้อยตัว (รวมถึงสัตว์อื่นๆ) ที่ยังต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย กลายเป็นอาหารของพวกมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอ สะท้อนมาถึงความจริงที่ว่าการจะปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมนี้ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องของเงินทองและปากท้องของคนเข้ามาเกี่ยวข้อง
Okja จึงกลายเป็นหนังที่นอกจากความสนุกในเส้นเรื่องฝั่งการผจญภัยแล้ว ก็ยังสามารถทำให้ดูแล้วน้ำตาซึม และตะลึงในความมาไกลของหนัง จากช่วงต้นๆ ที่ซีนเป็นธรรมชาติ มีจาและโอคจาใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์ หนังพาตัวละครทั้งคู่ไปพบเจอเหตุการณ์ระทึกและโหดร้ายต่างๆ มากมาย ชนิดที่ว่ามีจาในตอนแรกก็คงไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะไปได้สุดขนาดนั้น แสดงให้เห็นเลยว่า แม้จะต่างสายพันธุ์ แต่ก็สามารถเกิดมิตรภาพที่แข็งแกร่งได้จริงๆ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย