รีวิว ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด
รีวิวหนัง netflix ที่หาดเอมเมอรัลด์เบย์ไม่มีภัยใดเกินฝีมือหัวหน้าทีมไลฟ์การ์ดเบย์วอชอย่าง ผู้หมวดมิตช์ บูแคนนอน (ดเวย์น จอห์นสัน) และลูกทีมไปได้ แต่ตำแหน่งขาใหญ่กลับสั่นคลอนหลังการมาถึงของ แมทท์ โบรดี้ (แซค เอฟรอน) เงือกหนุ่มดีกรีแชมป์ตกอับที่คอยงัดข้อกับเขาแทบทุกเรื่อง แต่เมื่อพบว่ายาซอมบี้ ยานรกตัวใหม่กำลังระบาดทั่วหาด คู่กัดจึงขอสงบศึกชั่วคราวเพื่อมาต่อกรกับ วิคตอเรีย ลีดส์ (ปรียันก้า โชปรา) อาชญากรสาวพราวสเน่ห์ ในภารกิจที่จะสอนให้พวกเขาร่วมใจกันกำจัดภัยพร้อมทีมไลฟ์การ์ดสุดฮอตระห่ำในนามเบย์วอช
เป็นที่ชัดเจนว่า เซธ กอร์ดอน ผู้กำกับ ตั้งใจจะปรับโทนให้หนังต่างจากซีรีส์ โดยเพิ่มความเข้มข้นในฉากแอ็คชั่นผสมมุกตลกสัปดนที่เขาถนัดดีดังที่ปรากฎใน Horrible Bosses (2011) โดยหยิบตัวละครจากซีรีส์ Baywatch จากซีซั่นที่1-3 ซึ่งเป็นที่จดจำของแฟนๆ ทั่วโลก แต่สิ่งที่กอร์ดอนเลือกจะละเลยคือความเป็นดราม่าความสัมพันธ์ในทีมไลฟ์การ์ดที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์ โดยแทนที่ด้วยมุกใต้สะดือเพื่อให้หนังเป็นเรตอาร์
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังกลับไปไม่ถึงเป้าหมายเหมือนไลฟ์การ์ดออกตัวแรงแต่ช่วยใครไม่ได้เลย ตั้งแต่พลอตที่ทิ้งช่องโหว่มโหฬารอย่างการคัดเลือกไลฟ์การ์ดที่หนังไม่ได้แสดงชัดเจนเหมือนซีรีส์ว่าต้องผ่านด่านอะไรบ้าง ยากแค่ไหน แต่เลือกตัดสลับไปนำเสนอการต่อปากต่อคำที่น่ารำคาญระหว่าง มิตช์ กับ แมต ที่มีเหตุคนจมน้ำแบบไร้เหตุผลแล้วจึงประกาศผล ซึ่งก็ทำให้เกิดช่องโหว่ต่อมาว่าทำไมถึงเลือกหนุ่มตุ้ยนุ้ยอย่าง รอนนี่ (จอห์น แบสส์) ที่แค่หลงรักซีเจ (เคลลี่ โรห์บัค) และทำดุ้นติดเก้าอี้ต่อหน้าประชาชีก็ได้รับเลือกให้มาเป็นไลฟ์การ์ด รวมถึงความพังพินาศด้านความสมเหตุสมผลของเรื่องที่อยู่ๆ ก็ดันรู้ข้อมูลว่าผู้ตายเกี่ยวข้องกับอาชญากรแบบบทจับยัดกันหน้าด้านๆ อีก
ส่วนตัวละครสมทบก็ไม่ได้มีหน้าที่มากไปกว่าทำสถิติหน้าอกกระเพื่อมให้มากที่สุดตอนปรากฎตัว ดังนั้นตัวละครฝ่ายพระเอกเลยแทบไม่มีช่วงเวลาทำให้คนดูผูกพันเห็นใจเลยทำให้ดราม่าช่วงท้ายไม่นำพาให้เราเอาใจช่วย แม้หนังจะสร้างตัวละครผู้ร้ายอย่างวิคตอเรียให้แบนราบและไร้ที่มาแค่ไหนก็ตาม
พ้นจากเรื่องบทภาพยนตร์แล้วเราจะมาว่ากันถึงความเป็นหนังตลกซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ก็นับว่าน่าผิดหวัง ลำพังแค่คนดูต้องทนกับอาการสำลักมุกฝืดสารพัดก็เกินทนแล้ว หนังยังเดินหน้าถาโถมคนดูด้วยสถานการณ์ชวนคลื่นไส้น่ารำคาญสารพัด
รีวิว ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด
แต่คนดูกับปล่อยก๊ากโดยไม่ตั้งใจกับการปรากฎตัวของดารานำอย่าง เดวิด ฮาเซลฮอฟฟ์ ที่โผล่มาพล่ามปลุกใจตัวละครมิตช์คนใหม่แบบไม่มีเหตุผลแต่หนังกลับตัดสลับไปที่ตัวประกอบที่ทำหน้างงว่าตาลุงนี่คือใครเลยทำให้ฉากเอาใจแฟนฉบับซีรีส์กลายเป็นเรื่องผิดคิวแบบช่วยไม่ได้
หรือแม้แต่ฉากแอ็คชั่นที่ผู้สร้างโม้นักโม้หนาว่าจะใหญ่โต ตื่นเต้นขึ้นกว่าฉบับซีรีส์ที่ไม่ค่อยมีฉากบู๊หรือระเบิดตูมตามเท่าใดนัก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูแพงทีเดียว..ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นนะ…ราคาคุยน่ะครับ ขนาดซีจีสเก็ดระเบิดในซีรีส์ยังแนบเนียนกว่าอีก มิหนำซ้ำหนังเองก็ไม่ได้ทำให้ตัวละครวิคตอเรียทำอะไรมากไปกว่าใส่ชุดเดรสแหวกอก ทำหน้าสวยๆ แล้วสั่งฆ่าคน ทำให้ฉากการเผชิญหน้าระหว่างเหล่าไลฟ์การ์ด เบย์วอชกับวิคตอเรีย เราเลยไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วยตามสถานการณ์ที่เหล่าตัวละครเอกต้องเผชิญแม้แต่นิดเดียว ที่เลวร้ายที่สุดคือเวลาตัวเอกเพลี่ยงพล้ำคนดูกลับสมน้ำหน้าเพราะส่วนมากมักเกิดจากความเลินเล่อ ซึ่งต่างจากฉบับซีรีส์ที่ตัวเอกประสบเคราะห์กรรมจากการช่วยเหลือคนอื่น สร้างความผูกพันและเอาใจช่วยให้คนดูได้มากกว่าทั้งที่ไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมากนัก
ว่ากันถึงนักแสดงนำ ถ้าว่าถึงฝ่ายชายที่เป็นจุดขายอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อค ก็ยังทำหน้าที่นักแสดงได้ดีและยังสร้างตัวละคร มิตช์ บูแคนนอนในแบบตัวเองแถมยังสามารถพูดไดอาล็อคเลี่ยนๆ ให้ฟังดูเข้าท่าได้อีก แม้มุขล้อตัวละครแมตต์โดยเปรียบเทียบกับ บอยแบนด์ต่างยุคทั้ง วันไดเร็คชั่น เอ็นซิงค์ จัสติน บีเบอร์ โจนาสบราเธอร์ หรือแม้แต่ล้อซีรีส์ High School Musical จะน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม ต่างจาก แซค แอฟรอน ที่ต้องบอกตามตรงว่า เขาคือของค้างตกยุคที่พยายามเอาชีวิตรอดด้วยการฟิตหุ่นแล้วมาเล่นบทแบดบอยแต่ทว่าคราวนี้เขาไม่ได้โชคดีเหมือนตอนเล่นหนังตลกป่วนข้างบ้านอย่าง Neighbors (2014,2016) นัก เพราะตัวละครแมตต์กลับขี้เก๊กแบบไร้มิติ แถมล้มเหลวในการรับส่งมุขกับเพื่อนร่วมจอ เลยทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่การเป็นอายแคนดี้ให้สายตาสาวๆได้โลมเลียหรือแม้กระทั่งจะไปเป็นหล่อสายฮาก็ไม่รอดเท่าใดนัก
ว่ากันถึงตัวละครสาวๆสุดเซ็กซี่ที่เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่เวอร์ชั่นซีรีส์ แน่นอนว่ามีทั้งตัวละครระดับไอคอนจากซีซั่นที่สามของซีรีส์อย่าง ซีเจ บทเดิมของพาเมล่า แอนเดอร์สัน ที่คราวนี้ได้ เคลลี่ โรห์บัค สาวผู้โดดเด่นด้านไฟหน้าไม่แพ้กันมาสานต่อตำนานวิ่งกระเพื่อมหาด ก็ทำหน้าที่ในฐานะอาหารตาของหนุ่มได้ดีและเหมือนผู้สร้างจะรู้งานเลยจัดทั้งฉากปั๊มหัวใจ ฉากกระทุ้งของติดคอรอนนี่ที่จงใจถ่ายบั้นท้ายกระเพื่อมเป็นแฟนเซอร์วิสให้ชื่นใจ
ต่างกับ อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ ที่มารับบท ซัมเมอร์ ควินน์ ตัวละครเซ็กซี่มีปัญญาจาก Baywatch Hawaii ซีรีส์ส่งท้ายตำนาน Baywatch ที่ต้องบอกว่าทำเสียของเป็นอย่างมากทั้งที่ แดดดาริโอ มีส่วนผสมทั้งใบหน้าน่ารักชวนเคลิ้มกับหุ่นสุดสะบึมส์ ที่สามารถทำให้พาร์ทโรแมนติก ระหว่างซัมเมอร์กับแมตต์ดูฟินจิกเบาะได้แต่บทกลับให้เธอหมกมุ่นกับการอวดนมเด้งกับแมตต์ จนขัดแย้งกับความเจ้าปัญญาในฐานะผู้มีความรู้ด้านชีววิทยาทางทะเลคนเดียวในทีม
ส่วนตัวละครอย่างผู้หมวดสเตฟานี่ โฮลเด้น สาวผมสั้นสุดแกร่งจากซีซั่นที่ 4 ของซีรีส์ที่คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นสาวสวยผิวสีอย่าง อิลเฟเนซ ฮาเดรา แต่คาแรคเตอร์ของเธอกลับเป็นเพียงลูกคู่ให้ มิตช์ บูแคนนอน แถมหนังยังเปิดประเด็นโรแมนซ์ระหว่างเธอกับมิตช์แต่กลับทิ้งไปดื้อๆซะงั้น และท้ายสุดแม้จะไม่ใช่ครัวคุณต๋อยแต่ถ้าเราไม่พูดถึงตัวแทนจากบอลลีวูดอย่าง ปริยันกา โชปรา อดีตมิสเวิล์ดปี 2000 ก็ถือว่าผิด! โดยปริยันกา รับบท วิคตอเรีย ลีดส์ เจ้าแม่ค้ายาตัวแสบได้ดีมากทั้งสายตาทั้งน้ำเสียงคือนิยามสวยอำมหิตจริงๆ แต่เสียดายที่บทหนังให้โอกาสเธอปล่อยของน้อยเกินไป แม้กระทั่งฉากเต้นในงานปาร์ตี้ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสให้เธอโชว์สเต็ปในฐานะนักร้องเพลงฮิตสุดเซ็กซี่อย่าง Exotic หนังก็ยังละเลยโอกาสที่จะแสดงสเน่ห์ของนักแสดงจากเอเชียเพียงคนเดียวไปอย่างน่าเสียดาย
รู้จักกับทุกสาวอึ๋มจากหนัง Baywatch
ถือว่าพลาดเป้าพอสมควรสำหรับ Baywatch ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ปี 2017 ที่หวังให้คนดูเข้าไปฮาแตก แอ็คชั่นปังๆ และมีฉากเซ็กซี่เริ่ดๆ แต่กลับกลายเป็นมหกรรมมุกฝืด ไร้เหตุผล และจงใจล้อของเก่าทั้งที่ฉบับใหม่ไม่ได้มีคุณค่าเทียบเท่าฉบับซีรีส์ที่เป็นหมุดหมายสำคัญของยุค 90 เลยสักนิด
เรื่องย่อหนัง ‘Baywatch’
เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่า มิทช์ บูแคแนน (Dwayne Johnson) ไลฟ์การ์ดผู้ดูแลอ่าวที่ได้รับความไว้วางใจด้วยความสามารถที่ทำอย่างดีมายาวนาน จนวันนึงที่เขาต้องการทีมงานใหม่ ปีนี้เขาจะรับเพิ่ม 3 คน
และหนึ่งในนั้น กลับเป็นนักว่ายน้ำที่เคยคว้า 2 เหรียญโอลิมปิกที่กำลังตกอับจนต้องมาเป็นไลฟ์การ์ดโดยไม่ต้องเข้าทำการทดสอบ เขาคือ แมตต์ โบรดี้ (Zac Efron)
แน่นอนว่า ไลฟ์การ์ดย่อมต้องมีสาวๆ ร่วมอยู่ด้วย และแต่ละนางก็ล้วนแต่หุ่นดีๆ นมตู้มๆ กันทั้งนั้น แต่หลักใหญ่ใจความของเรื่องไม่ได้อยู่ตรงนั้น เรื่องมันเกิดตรงที่ว่าง มิทช์เกิดไปได้กลิ่นยาเสพติดที่กำลังระบาดในเขตอ่าว และน่าจะมีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายใหม่อย่าง วิคตอเรีย รีดส์ (Priyanka Chopra) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยและงานนี้ดูเหมือนตำรวจจะพึ่งไม่ได้ ไลฟ์การ์ดเลยต้องออกโรงเอง
เรื่องดั้งเดิมตอนซีรีส์เป็นอย่างไร ผมไม่ได้กลับไปติดตามหรอกนะครับ แต่สำหรับความรู้สึกระหว่างชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ‘ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด’ ผมรู้สึกได้ถึงสูตรของหนังที่พยายามจะสร้างมุกฮาๆ กระจายเต็มหาด ทว่าดูเหมือนหลายมุกไม่ชวนคนไทยเก็ทเอาเสียเลย แทบจะหามุกที่คนร่วมโรงหนังออกเสียงหัวเราะไม่ได้ แต่ละมุกที่ตัวละครพูดออกมาดูพอรู้ว่าเป็นมุก แต่กลายมุกที่กริบไปเสียเกือบหมด หนังใหม่
การเลือกหยิบ Dwayne Johnson หนุ่มหัวโล้นกล้ามใหญ่มารับบทนำคือพยายามที่จะทำเบย์วอตช์ให้ออกมาดูแตกต่าง แต่ก็พยายามอีกเช่นกันที่จะเซอร์ไพรซ์ผู้ชมด้วยนักแสดงเก่าจากซีรีส์ซึ่งก็ไม่ชวนว้าวอะไรเพราะคนไทยไม่มีโอกาสได้ชมมัน
ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด
ส่วน Zac Efron กลับแทบไม่ได้ช่วยให้หนังดูดีมีอะไรขึ้นมาเลย นอกจากกล้ามเป็นมัดๆ แล้วก็ไม่ได้เห็นเสน่ห์อะไรนอกเหนือไปจากนั้นได้อีก
เมื่อหนังไม่ยอมทำให้เราเชื่อการกระทำของตัวละคร ระหว่างดูเราอาจรู้สึกว่า เหตุใดไลฟ์การ์ดจึงไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง คอยดูแลอ่าวและชายหาดให้ปลอดจากเหตุร้าย แต่กลับทิ้งหน้าที่ไปตามสืบเพื่อหาหลักฐานมัดตัวเอาผิดเจ้าแม่ ทำให้ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตัดสินใจของตัวละครนำสักเท่าไหร่
Baywatch คือซีรี่ส์ในตำนานที่สร้างต่อเนื่องกันถึง 11 ปีครับ แล้วก็มีการทำตอนพิเศษออกมาอีก 2 ตอน ซึ่งหากใครตามอ่านผมมาตั้งแต่สมัยแรกๆ คงจำได้ว่าผมเคยเขียนถึง Baywatch: Hawaiian Wedding อันเป็นตอนพิเศษที่สรุปเรื่องราวของซีรี่ส์นี้ด้วย
ที่ผมใช้คำว่า “ในตำนาน” ไม่ได้หมายความว่ามันมีความยอดเยี่ยมจนลื่อเลื่อง แต่เพราะจุดขายเด็ดๆ ของซีรี่ส์นี้คือ “สาวๆ” ครับ เพราะเนื้อเรื่องว่าด้วยชีวิตไลฟ์การ์ดชายหาด ดังนั้นชุดปฏิบัติงานของพวกเธอก็หนีไม่พ้นชุดว่ายน้ำนั่นเอง
นั่นล่ะครับ เหตุผลสำคัญที่ทำให้มันอายุยืนถึง 11 ปี เพราะมีผู้ชม (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) ตามดูแบบเหนียวแน่น ขนาดซีรี่ส์สุดฮิตอย่าง Friends ยังเอาไปแซวน่ะครับ (ประมาณว่าเป็นซีรี่ส์ที่ 2 หนุ่ม โจอี้กับแชนด์เลอร์ชอบดูด้วยกันเป็นประจำน่ะครับ 555)
มันยังเป็นผลงานแจ้งเกิดของดาราสาวเซ็กซี่แห่งยุค 90 หลายคน ไม่ว่าจะ Pamela Anderson Lee, Alexandra Paul, Yasmine Bleeth, Erika Eleniak, Nicole Eggert, Carmen Electra (แต่ถ้าถามว่าผมชอบใครที่สุด ผมยกให้ Stacy Kamano ครับ แต่เสียดายที่เธอไม่ดังเท่าที่ควร)
และไม่เฉพาะสาวๆ นะครับ หนุ่มๆ ในซีรี่ส์ก็ทำให้สาวๆ จดจำ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Jason Momoa ที่รับบทเป็นตัวนำของ Baywatch ยุคสุดท้าย ในขณะที่ตอนนี้เขาก็กลายร่างเป็น Aquaman ไปเรียบร้อย
ครับ จุดเด่นคือความหล่อความสวยและความอะร้าอร่าม ส่วนเนื้อหาก็ไม่ได้มีอะไรเด่นครับ พล็อตก็จะวนๆ อยู่กับความสัมพันธ์ของตัวละคร แล้วก็การช่วยชีวิตคน รวมถึงไล่ปราบผู้ร้าย, โจรสลัด หรือผู้ก่อการร้ายที่หาญกล้ามาก่อเรื่องในหาดของพวกเขา ซึ่งถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตอบได้ว่าเรื่อยๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ
ดังนั้นพอได้ข่าวว่าจะมีการทำเป็นหนังใหญ่ เลยกลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ผมต้องดูเลยครับ แม้จะรู้อยู่ว่ามันคงไม่สนุกอะไรมาก แต่ในฐานะที่คุ้นเคยตามดูกันมา ก็พร้อมจะเข้าไปดูว่าผลที่ได้จะออกมาเป็นยังไง
สำหรับ Baywatch ฉบับนี้มันก็เรื่อยๆ อีกน่ะครับ ไม่ได้สนุกเยอะแยะอะไร โดยทีมงานพยายามเดินเส้นเรื่องใหม่ จากเดิมพล็อตมักจะเป็นดราม่าที่มีตลกแทรกแบบเบาๆ แต่ในฉบับนี้หนังเน้นคอมเมดี้มากขึ้น จนโทนหนังดูเบาขึ้นพอสมควร (บางขณะก็แทบจะเบาเกินด้วยน่ะครับ)
สไตล์มันเลยออกแนวคอมเมดี้ที่ให้ตัวละครมากวนใส่กันครับ คู่เอกก็คือ มิตช์ บูเคนแนน (Dwayne Johnson) หัวหน้าไลฟ์การ์ดคนเก่งกับ แมตต์ โบรดี้ (Zac Efron) หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วมแจมทีม ซึ่งผมก็พอเข้าใจน่ะครับ หากดำเนินเรื่องแบบทุกคนร่วมมือกันเป็นอย่างดีแต่เริ่ม หนังก็คงไม่มีอะไรเล่น เลยกำหนดพล็อตให้มิตช์กับแมตต์ไม่ชอบหน้ากันอยู่ในที ก่อนที่ภารกิจต่างๆ จะช่วยกระชับสัมพันธ์ให้พวกเขามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ดูหนังใหม่