รีวิว Death Wish
เดิมทีนิยายเรื่อง Death Wish (1972) เคยถูกดัดแปลงเป็นหนังแอ็คชั่นแนวศาลเตี้ยชื่อดังออกฉายปี 1974 (ชื่อไทย ล้างบัญชียมบาล) และส่งให้ชื่อชาร์ล บรอนสัน ดาราหนุ่มเคราเฟิ้มมาดนิ่งโด่งดังเป็นพลุแตกจนมีแฟรนไชส์หนังของตัวเองถึง 4 ภาค โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการดัดแปลงแต่ละครั้งตัวละครหลักอย่าง พอล เคอร์ซีย์ มีอาชีพไม่ตรงกับหนังสือซักเรื่อง โดยในหนังสือ พอล มีอาชีพเป็น นักบัญชี แต่หนังฉบับชาร์ล บรอนสัน มีอาชีพเป็น วิศวกร ส่วนฉบับล่าสุดของ บรูซ วิลลิส กลับกลายเป็นหมอ ซึ่งก็ทำให้เกิดธีมบางอย่างที่น่าสนใจขึ้นกับ Death Wish ฉบับปี 2018 ไม่น้อยเลยทีเดียว รีวิวหนัง netflix
โดยเรื่องราวของ Death Wish เวอร์ชั่นนี้ยังคงอ้างอิงตามโครงเดิมคืออันว่าด้วยคุณหมอดวงซวยอย่าง พอล เคอร์ซีย์(บรูซ วิลลิส) ที่ถูกโจรบุกบ้านในคืนที่เขาติดงานด่วน โดยพวกโจรใจเหี้ยมฆ่า ลูซี่ (อลิซาเบธ ชู) ภรรยาของเขา และทำร้าย จอร์แดน (คามิลา มอโรเน) ลูกสาวของเขาจนโคม่า ด้วยความคับแค้นใจที่นักสืบ เควิน เรน (ดีน นอริส) ไม่สามารถตามตัวคนร้ายได้ เขาจึงเริ่มออกไล่ล่าคนชั่วจนตัวเองเสพย์ติดความรุนแรง ในขณะเดียวกันสังคมก็เริ่มตั้งคำถามถึงการเป็นศาลเตี้ยของเขาว่าเป็นสิทธิในการทวงความยุติธรรมหรือเป็นการลดความน่าเชื่อถือของกฎหมายกันแน่
สิ่งที่พอเดาได้ว่าบทหนังของ โจ คาร์นาฮาน แห่ง The A Team และ Smokin’ Aces เลือกดัดแปลงให้พอล เคอร์ซีย์เป็นหมอ น่าจะเป็นการกำหนด ธีม ความขัดแย้งระหว่างการเป็นหมอ ผู้รักษาชีวิต และการเป็นนักฆ่าจากความแค้น ซึ่งทำให้ตัวละคร พอล เคอร์ซีย์ น่าสนใจไม่น้อย และโจก็สามารถถักทอเรื่องราวของคุณหมอ พอล ได้น่าเห็นใจและไม่ด้อยสติปัญญาในการแก้ปัญหาตอนท้ายเรื่อง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นในการวางปมการกระทำตัวละครที่โจ คาร์นาฮานช่ำชองอยู่แล้ว
แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่เนื้อหาของ Death Wish ฉบับนี้พยายามสร้างความแตกต่างคือการนำเรื่องราวของบทบาทโซเชี่ยล มีเดียและการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อในสังคมออนไลน์มาคอยย้ำเตือนสติของคนดูไม่ให้เอนเอียงต่อการกระทำของ พอล เคอร์ซีย์แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ถามว่ามันส่งผลอะไรกับโครงเรื่องหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลยครับ ฉากที่รายการวิทยุวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของพอล กลับกลายเป็นส่วนเกินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหนังเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำการที่หนังดึงเรื่องการโพสต์วีดีโอลงโซเชี่ยล มีเดีย กลับยิ่งทำให้เห็นความด้อยปัญญาของตำรวจหนักเข้าไปอีก โดยเฉพาะ นักสืบ เควิน เรน ที่เจอหน้าอีกตา พอล แทบทุกวันแต่กลับไม่สงสัยอะไรเลย แถมตอนออกไปสืบสวนที่เกิดเหตุยังแสดงความเป็นตัวตลกมากกว่าการเป็นนักสืบอาชีพเสียอีก ดังนั้นในส่วนเนื้อหาจึงถือว่ามีหลายจุดที่ขาดความสมเหตุสมผลไปพอสมควร
แต่กระนั้น เนื่องจากหนังได้ อีไล รอธ แห่งหนังเฉือดโหดเลือดสาดอย่าง Hostel มากำกับ ผลลัพธ์คือทำให้ Death Wish ฉบับนี้มีส่วนผสมของหนัง Tortured Porn ที่น่าจะเสียใจคอหนัง ‘ทรมานบันเทิง’ ไม่น้อย เพราะอีไล รอธ จัดเต็มทั้งเลือด ทั้งหัวแบะ แบบไม่ต้องสนเรตอื่นนอกจาก R ซึ่งก็ทำให้หนังมีความเป็นแอ็คชั่นที่โหดสะใจแบบเฉพาะตัวไม่น้อย และยังอารมณ์ขันที่เวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้างที่มาชดเชยกับความบกพร่องในการเล่าเรื่องไปได้อย่างดี
ด้าน บรูซ วิลลิส ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี จนทำให้ Death Wish กลายเป็นหนังปลุกผี แอ็คชั่นสตาร์สไตล์คนอึดตายยากได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เห็นว่าแม้อายุอานามไม่น้อยแล้ว แต่เสน่ห์ความกวนฉบับ จอห์น แมคเคลนแห่ง Die Hard ยังคงเข้มข้นอยู่เสมอ
สรุปแล้ว Dead Wish เวอร์ชั่นนี้ถือว่าสร้างความแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนได้ดีทีเดียวแม้จะบกพร่องในด้านความน่าเชื่อถือของบทหนังไปบ้าง แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่สนุก ความโหดของฉากแอ็คชั่นรวมถึงการได้เห็น บรูซ วิลลิส กลับมาพะบู๊ให้หายคิดถึงก็เพียงพอแล้วสำหรับคอหนังแอ็คชั่นเอามันส์เรื่องหนึ่ง
รีวิว Death Wish
เรื่องย่อหนัง ‘Death Wish’
พอล เคอร์ซี (Bruce Willis) เขาเป็นหมอ เขาคือศัลยแพทย์ฝีมือดี มีงานชุกเคสเพียบหนักเข้ามาเสมอ เขาเหมือนเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมคนสุดท้าย
ในเมืองใหญ่อย่างชิคาโก ที่มีอาชญากรรมไม่เว้นวัน ในที่สุด เรื่องเลวร้ายก็กลับกลายมาบังเกิดกับหมอคนเก่งจนได้ เมื่อครอบครัวของเขาที่ประกอบไปด้วยภรรยาสุดที่รัก ลูซี่ (Elisabeth Shue) และลูกสาวสุดสวย จอร์แดน (Camila Morrone) ผู้กำลังจะได้ไปเล่าเรียนในอีกเมือง ต้องมาถูกโจรชั่วตัวร้ายบุกบ้าน
ทั้งปล้นและยิงจนลูซี่ตายทิ้งไว้แต่จอร์แดนที่โคม่าไม่รับรู้เรื่องราวเมื่อการพึ่งพาเงื้อมมือตำรวจไม่อาจช่วยตามหาและนำคนผิดมาลงทัณฑ์ได้ตามที่ตั้งหวังต้องการ นายแพทย์พอลจึงอาจหาญลุกขึ้นพิพากษา
คนผิดด้วยตนเองงานหมอที่ล้นมือในเวลากลางวัน ใครจะรู้ว่าเขากลายเป็นมัจจุราชคอยออกเก็บอาชญากรทีละราย ท่ามกลางการถกเกถียงมากถึงการอยู่เหนือกฏหมายของชายในชุดมีฮูดคลุมหัว
ได้เวลาทวงแค้นเอาคืนที่ทำเมียรักจากไปและลูกสาวต้องโคม่า ด้วยความรุนแรงที่ใครไม่คาดว่าว่ามันจะมาจากมือของคนช่วยชีวิตอย่างเขา
ผู้กำกับ ‘Top Gun: Maverick’ ถ่ายฟุตเทจกว่า 800 ชั่วโมง เพื่อใช้ในภาพยนตร์
ด้าน บรูซ วิลลิส ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี จนทำให้ Death Wish กลายเป็นหนังปลุกผี แอ็คชั่นสตาร์สไตล์คนอึดตายยากได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เห็นว่าแม้อายุอานามไม่น้อยแล้ว แต่เสน่ห์ความกวนฉบับ จอห์น แมคเคลนแห่ง Die Hard ยังคงเข้มข้นอยู่เสมอ
สรุปแล้ว Dead Wish เวอร์ชั่นนี้ถือว่าสร้างความแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนได้ดีทีเดียวแม้จะบกพร่องในด้านความน่าเชื่อถือของบทหนังไปบ้าง แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่สนุก ความโหดของฉากแอ็คชั่นรวมถึงการได้เห็น บรูซ วิลลิส กลับมาพะบู๊ให้หายคิดถึงก็เพียงพอแล้วสำหรับคอหนังแอ็คชั่นเอามันส์เรื่องหนึ่ง
เรื่องย่อหนัง ‘Death Wish’
พอล เคอร์ซี (Bruce Willis) เขาเป็นหมอ เขาคือศัลยแพทย์ฝีมือดี มีงานชุกเคสเพียบหนักเข้ามาเสมอ เขาเหมือนเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมคนสุดท้าย
ในเมืองใหญ่อย่างชิคาโก ที่มีอาชญากรรมไม่เว้นวัน ในที่สุด เรื่องเลวร้ายก็กลับกลายมาบังเกิดกับหมอคนเก่งจนได้ เมื่อครอบครัวของเขาที่ประกอบไปด้วยภรรยาสุดที่รัก ลูซี่ (Elisabeth Shue) และลูกสาวสุดสวย จอร์แดน (Camila Morrone) ผู้กำลังจะได้ไปเล่าเรียนในอีกเมือง ต้องมาถูกโจรชั่วตัวร้ายบุกบ้าน ทั้งปล้นและยิงจนลูซี่ตาย
เมื่อการพึ่งพาเงื้อมมือตำรวจไม่อาจช่วยตามหาและนำคนผิดมาลงทัณฑ์ได้ตามที่ตั้งหวังต้องการ นายแพทย์พอลจึงอาจหาญลุกขึ้นพิพากษาคนผิดด้วยตนเอง
งานหมอที่ล้นมือในเวลากลางวัน ใครจะรู้ว่าเขากลายเป็นมัจจุราชคอยออกเก็บอาชญากรทีละราย ท่ามกลางการถกเกถียงมากถึงการอยู่เหนือกฏหมายของชายในชุดมีฮูดคลุมหัว ได้เวลาทวงแค้นเอาคืนที่ทำเมียรักจากไปและลูกสาวต้องโคม่า ด้วยความรุนแรงที่ใครไม่คาดว่า
จุดหนึ่งที่ผมมองเห็นว่าหนังพยายามสร้างคาแร็กเตอร์ที่มีความขัดแย้งในตัวเอง พอลเป็นศัลยแพทย์ และด้วยความเป็นหมอ เขาจึงต้องทั้งทำหน้าที่ของตัวเอง เขาช่วยชีวิตมนุษย์ทุกคน แม้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นอาชญากรหรือพลเมืองดีก็ตาม
แต่ในวันที่เขาต้องพบเจอเรื่องเลวร้าย ในวันเกิดตัวเอง เขายังต้องทำงานช่วยชีวิตผู้คน ขณะที่บ้านเหลือเพียงเมียกับลูกสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่หวังเพียงทรัพย์สินแต่การณ์กลับเป็นว่าพวกมันพลั้งมือเด็ดชีวิตคนที่เขารักไปด้วย
สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ คนเป็นหมอ ต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นอาชญากรเสียเอง เพื่อแก้แค้นให้กับคนที่เขารักและสูญเสียไป ลักษณะคล้ายๆ จะเป็นการเยียวยาตนเอง หนังใหม่
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้ คือ การเล่าเรื่องที่ดูเป็นขั้นเป็นตอนดี มีความเหมือนหนังปฐมบทของซูเปอร์ฮีโร่สักตัว แถมยังมีคนมาตั้งข้อสังเกตและเริ่มต้นการถกเถียงเรื่องการมีอยู่ของมัจจุราชอย่างเขาอีกด้วย
ภาพที่แบ่งครึ่งจอนั่นก็น่าสนใจที่สุด ครึ่งหนึ่งของหมอพอลคือการเป็นแพทย์ ช่วยเหลือผู้คน ขณะที่ชีวิตอีกครึ่ง คือ การจับปืน ศึกษาและฝึกซ้อม หมอคือคนเดียวกับมัจจุราชที่อหังการ์ออกล่าคนเลว ทำตัวเหมือนศาลเตี้ยคอยพิพากษาด้วยอาวุธปืน ด้วยเพราะเขาไม่เชื่อในการทำงานของตำรวจที่ล่าช้า
Death Wish
เรื่องย่อหนัง ‘Death Wish’
พอล เคอร์ซี (Bruce Willis) เขาเป็นหมอ เขาคือศัลยแพทย์ฝีมือดี มีงานชุกเคสเพียบหนักเข้ามาเสมอ เขาเหมือนเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมคนสุดท้าย
ในเมืองใหญ่อย่างชิคาโก ที่มีอาชญากรรมไม่เว้นวัน ในที่สุด เรื่องเลวร้ายก็กลับกลายมาบังเกิดกับหมอคนเก่งจนได้ เมื่อครอบครัวของเขาที่ประกอบไปด้วยภรรยาสุดที่รัก ลูซี่ (Elisabeth Shue) และลูกสาวสุดสวย จอร์แดน (Camila Morrone) ผู้กำลังจะได้ไปเล่าเรียนในอีกเมือง ต้องมาถูกโจรชั่วตัวร้ายบุกบ้าน ทั้งปล้นและยิงจนลูซี่ตาย
เมื่อการพึ่งพาเงื้อมมือตำรวจไม่อาจช่วยตามหาและนำคนผิดมาลงทัณฑ์ได้ตามที่ตั้งหวังต้องการ นายแพทย์พอลจึงอาจหาญลุกขึ้นพิพากษาคนผิดด้วยตนเอง
งานหมอที่ล้นมือในเวลากลางวัน ใครจะรู้ว่าเขากลายเป็นมัจจุราชคอยออกเก็บอาชญากรทีละราย ท่ามกลางการถกเกถียงมากถึงการอยู่เหนือกฏหมายของชายในชุดมีฮูดคลุมหัว ได้เวลาทวงแค้นเอาคืนที่ทำเมียรักจากไปและลูกสาวต้องโคม่า ด้วยความรุนแรงที่ใครไม่คาดว่า
จุดหนึ่งที่ผมมองเห็นว่าหนังพยายามสร้างคาแร็กเตอร์ที่มีความขัดแย้งในตัวเอง พอลเป็นศัลยแพทย์ และด้วยความเป็นหมอ เขาจึงต้องทั้งทำหน้าที่ของตัวเอง เขาช่วยชีวิตมนุษย์ทุกคน แม้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นอาชญากรหรือพลเมืองดีก็ตาม
แต่ในวันที่เขาต้องพบเจอเรื่องเลวร้าย ในวันเกิดตัวเอง เขายังต้องทำงานช่วยชีวิตผู้คน ขณะที่บ้านเหลือเพียงเมียกับลูกสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่หวังเพียงทรัพย์สินแต่การณ์กลับเป็นว่าพวกมันพลั้งมือเด็ดชีวิตคนที่เขารักไปด้วย
สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ คนเป็นหมอ ต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นอาชญากรเสียเอง เพื่อแก้แค้นให้กับคนที่เขารักและสูญเสียไป ลักษณะคล้ายๆ จะเป็นการเยียวยาตนเอง
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้ คือ การเล่าเรื่องที่ดูเป็นขั้นเป็นตอนดี มีความเหมือนหนังปฐมบทของซูเปอร์ฮีโร่สักตัว แถมยังมีคนมาตั้งข้อสังเกตและเริ่มต้นการถกเถียงเรื่องการมีอยู่ของมัจจุราชอย่างเขาอีกด้วย
ภาพที่แบ่งครึ่งจอนั่นก็น่าสนใจที่สุด ครึ่งหนึ่งของหมอพอลคือการเป็นแพทย์ ช่วยเหลือผู้คน ขณะที่ชีวิตอีกครึ่ง คือ การจับปืน ศึกษาและฝึกซ้อม หมอคือคนเดียวกับมัจจุราชที่อหังการ์ออกล่าคนเลว ทำตัวเหมือนศาลเตี้ยคอยพิพากษาด้วยอาวุธปืน ด้วยเพราะเขาไม่เชื่อในการทำงานของตำรวจที่ล่าช้า ดูหนังใหม่