Skip to content
  • เว็บไซต์รีวิวหนัง netflix รีวิวซีรีส์ netflix และข้อมูลข่าวสารหนัง netflix สปอยหนัง netflix ทุกเรื่องทุกแนว ให้คุณสามารถเลือกอ่านได้ก่อนใคร
  • เว็บไซต์รีวิวหนัง netflix รีวิวซีรีส์ netflix และข้อมูลข่าวสารหนัง netflix สปอยหนัง netflix ทุกเรื่องทุกแนว ให้คุณสามารถเลือกอ่านได้ก่อนใคร
รีวิวหนัง netflix  รีวิวซีรีย์ ข่าวหนัง netflix สปอยหนัง netflix อัพเดทใหม่ทุกวันรีวิวหนัง netflix  รีวิวซีรีย์ ข่าวหนัง netflix สปอยหนัง netflix อัพเดทใหม่ทุกวัน
  • หน้าหลัก
  • รีวิวหนัง netflix
  • รีวิวซีรีย์ netflix
  • ข่าวหนัง netflix
  • ดูหนังฟรี
รวมบทความรีวิวหนัง, รีวิวหนัง netflix

รีวิว SO NIC

Posted on 19 พฤษภาคม 2022 by jack

รีวิว SO NIC

 

 

รีวิวหนัง netflix หลังจากปล่อยให้เราปวดหัวกับโมเดลแบบเก่า จนทางสตูดิโอหนัง ยอมเลื่อนกำหนดฉาย เพื่อหอบเอาโมเดลโซนิคแบบเก่ากลับไปแก้จนถูกใจแฟน ๆ มากขึ้น ก็ถึงวันเข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ Sonic : The Hedgehog ฉบับภาพยนตร์ จะออกมาดีหรือแย่อย่างไร วันนี้ขอเชิญพบกับรีวิว Sonic : The Hedgehog

เนื่องจากต้นฉบับเกมไม่มีที่มาที่ไปของโซนิคที่ชัดเจนนัก และพอถูกนำมาเล่าเป็นหนัง ทำให้ต้องมีการเล่าปูมหลังและที่มาที่ไปของโซนิค ที่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้น เราก็จะดำดิ่งสู่โลกของโซนิคในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ อย่างแรกเลยคือ ใครที่ติดภาพลักษณ์ของเจ้าโซนิคในฉบับเกมที่หน้าตาห้าว ๆ หน่อย อาจจะต้องปรับระดับความคาดหวังลงมา โซนิคในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น หน้าตาดูน่ารัก เหมือนเด็กวัยรุ่น ส่วนนึงก็เพราะนี่น่าจะเป็นหนังภาคแรก และเป็นจุดกำเนิดของโซนิคด้วย ยังไม่เข้าสู่ช่วงห้าวเต็มวัยแบบภาพลักษณ์ที่เราเห็นในเกม

 

รีวิว SO NIC

 

สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ กับการยอมรับฟีดแบ็คของผู้ชมและนำเอาโมเดลโซนิคกลับไปแก้ไข จนออกมาดูดี แม้จะยังไม่ดีที่สุด แต่ก็ทำให้คาแรคเตอร์โซนิคดูน่าจดจำขึ้นมาทันที ทั้งนี้เพราะผู้เขียนนึกภาพไม่ออก ว่าถ้าเป็นเจ้าโซนิคโมเดลเก่า แต่ถูกนำมาเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ เราจะอินดีหรือไม่ เพราะหน้าตามันไม่ค่อยน่าเอ็นดูเหมือนเวอร์ชั่นใหม่เอาซะเลย

ฉบับภาพยนตร์นั้น นำเสนอโซนิคให้เหมือนกับเด็กที่ได้พลังพิเศษ และพเราะการที่เขามีพลังพิเศษแถมไม่ใช่คนนี่แหละ เลยทำให้เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ และต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ ตลอดเวลา ทำให้คาแรคเตอร์ของโซนิคในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากตัวละครจำพวกเด็กมีพลังพิเศษและโดนรังเกียจในเรื่องอื่น เพียงแต่เขาไม่ได้เผยตัวตน และไม่ได้โดนรุมกลั่นแกล้งเท่านั้น

 

รีวิว SO NIC

 

นักแสดงหลักของหนังเรื่องนี้คือ James Marsden อดีตผู้รับบท Cyclops จากหนังชุด X-MEN (เวอร์ชั่นเก่าปี 2000) และอีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือ จิม แครีย์ แต่เราคงจะไม่บอกว่าจิม แครีย์แบกหนัง เพราะซีจีของโซนิค และการแสดงของนักแสดงท่านอื่นก็ทำออกมาได้ดี เพียงแต่ จิม แครีย์ แกออกแนวจ้างร้อยเล่นล้าน เล่นจนล้นสุด ๆ เลยทำให้ดูเหมือนว่าตัวละครของเขานั้นแย่งซีนนักแสดงท่านอื่นก็เพียงเท่านั้น เพราะต้องยอมรับจริง ๆ ว่าทุกครั้งที่จิม แครีย์ออกมาในหนัง น้อยที่สุดก็ทำให้เราหัวเราะแห้ง ๆ ได้ หรือบางฉากก็ฮาลั่นโรงเลยก็มี

 

รีวิว SO NIC

ในส่วนของฉากแอ็คชั่นที่ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ก็พอดูแบบสนุกสนานได้ แม้บางฉากจะขาดความสมเหตุสมผลแบบใหญ่มาก ในหนังนั้น นอกจากพลังความเร็วของโซนิคแล้ว เราจะได้เห็นโซนิคได้ใช้พลังของวงแหวนสีเหลืองที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกมอีกด้วย หลังจากวิ่งตามเก็บมานานในเกม ใหนนังได้เอามาใช้สักที และคุณจะรู้สึกเลยว่าเจ้าวงแหวนของโซนิคนี่มีประโยชน์ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

หากความหวังของเราคือการได้เห็นเจ้าโซนิคออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ ก็ต้องบอกว่ามันทำออกมาได้ดีมาก มากกว่าที่เราคาดหวังไว้ด้วย เพียงแต่สุดท้ายแล้วข้อดีของมันก็มีอยู่เพียงเท่านี้ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าหนังมันจะห่วยครับ หนังเรื่องนี้มันไม่แย่เลย เพียงแต่มันธรรมดาจนเกินไป จนเราไม่รู้สึกประทับใจหรือมีอารมณ์ร่วมกับมันขนาดนั้น สาเหตุที่มันธรรมดาเกินไป เพราะพลังความเร็วแบบนี้ปรากฎให้เราเห็นบ่อยแล้วในหนังหรือซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ต่าง ๆ ดังนั้นการออกแบบฉากแอ็คชั่นในโซนิคมันเลยดูซ้ำซาก เพราะเราเคยเห็นมาแล้ว มันเลยไม่ค่อยว้าวเท่าที่ควร เราจะไม่สปอย แต่คุณไปดูแล้วจะรู้เองว่าฉากไหน

อาจเป็นเพราะนี่คือการปูพื้นภาคแรกของหนังโซนิค ทำให้การเล่าเรื่องมันยังซ้ำซากจำเจอยู่กับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างโซนิคที่ดูเหมือนมนุษย์ต่างดาว กับพระเอกอย่างทอมที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเราก็เห็นบ่อยมากจากหนังเรื่องอื่น ๆ นี่จึงเป็นปัญหาหลักของหนัง เพราะพล็อตแบบนี้มันมีให้เห็นเกลื่อนกลาดแล้ว ดังนั้นใครที่คาดหวังว่าโซนิคในฉบับหนังจะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ก็อาจจะต้องทำใจไว้นิดหน่อย

 

รีวิว SO NIC

 

แต่อย่างที่เราบอก มันไม่ใช่หนังแย่ มันเป็นหนังที่ดูสนุกมาก เด็กดูได้สบาย ๆ ไม่มีอะไรรุนแรง ผู้ใหญ่ก็ดูได้เพลิน ๆ ถ้าเป็นเกมเมอร์หรือชื่นชอบโซนิคก็จะชอบเลย และถึงแม้มันไม่ได้แย่ แต่มันก็ขาดเสน่ห์หรืออารมณ์ร่วมกับหนังไปเยอะมาก ทำให้ดูจบแล้ว เราไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับมันนัก แค่จบแล้วก็จบเลย จะมีเซอร์ไพรส์นิดหน่อยก็ช่วงตอนจบที่เป็นสัญญาณที่บอกเราว่า ภาค 2 มาแน่นอน (ถ้ารายได้เข้าเป้า)

Sonic : The Hedgehog ไม่ใช่หนังจากเกมที่แย่ และดูจากรายได้ ณ ตอนนี้ มันน่าจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามและน่าภูมิใจในฐานะที่เป็นหนังจากเกม แต่ถ้ามองมันเป็นภาพยนตร์ทั่วไป ก็คงต้องบอกว่ามันขาดอารมณ์ร่วม และไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไร อาจจะเป็นเพราะต้องวางโครงสร้างและเนื้อเรื่อง และเชื่อได้เลยว่าภาค 2 นี่ล่ะ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของโซนิคจริง ๆ ซึ่งเราก็หวังว่ามันจะประสบความสำเร็จ จนได้ทำออกมานะ

ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ หากอยากจะผละออกจากบ้านหรือคอมพิวเตอร์และเครื่องเกม เพื่อหาหนังดู ในสัปดาห์นี้ก็คงไม่มีอะไรที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีไปกว่า Sonic : The Hedgehog แล้ว และเราคงต้องย้ำกันอีกครั้งว่า แม้มันจะไม่ใช่หนังที่น่าจดจำอะไรนัก แต่มันเป็นหนังที่ “สนุก” ครับ ใครไปชมก็อย่าลืมมาพูดคุยกันได้ล่ะ!

 

 

รีวิว

Sonic ในตอนแรกที่มีการประกาศสร้าง ก็มีแฟนๆให้ความสนใจ และรอติดตามชมกับภาพลักษณ์และตัวอย่างของหนังที่สร้างมาจากเกมดังรายนี้ แต่ก็เป็นเรื่องราวกระแสโด่งดัง(ในทางแย่) เมื่อชาวแฟนๆ และชาวโลกได้เห็นดีไซน์ของเจ้าเม่นสายฟ้าในฉบับหนังจอเงิน จนเกิดกระแสแอนตี้อย่างหนัก จนเป็นที่สนใจในวงกว้าง และตัวหนังก็ยังต้องยอมกลับไปปรับปรุงแก้ไขดีไซน์ของเจ้าโซนิคกันใหม่ทั้งเรื่อง!!และนั่นเป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องมาก เพราะมันช่วยส่งเสริมทางด้านความรู้สึกหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

หนังมีเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรต้องคาดเดาและต้องตีความให้มากมาย หนังเน้นเนื้อหาที่เบาสบาย และดูสนุก เหมาะทั้งสำหรับ เด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ซึ่งจากตัวบทที่เรียบง่าย ทำให้เราสามารถอินไปกับบทบาทของตัวละครภายในเรื่องได้อย่างเต็มที่สิ่งที่ทดแทนเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย นอกจากบทบาทตัวละครแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีอีกอย่างก็คือเรื่องของฉากแอคชั่นที่ดูได้สนุกและตื่นตาในระดับนึง

ตัวหนังยังมีมุกที่คอยแทรกออกมาเรื่อยๆทำให้ขำ และยิ้มกรุ้มกริ่มได้บวกกับความซนซ่าน่ารักของเจ้าโซนิค ก็ทำให้เราดูหนังได้อย่างเพลินๆและสำหรับแฟนๆเกม ตัวหนังค่อนข้างใส่ Easter Egg fan service เข้าไปอีกเพียบท้ายที่สุดสิ่งที่ดีงามและช่วยเสริมกำลังให้เรื่องนี้คือการแสดงของ Jim Carry ในบท Dr. Eggman

 

 

สรุป

เป็นหนังที่สามารถดูได้สนุก เพลิดเพลิน สามารถลบล้างคำสบประมาทของหนังที่สร้างจากเกมได้ดีเหมาะแก่การ พาครอบครัว พาแฟน หรือนัดแก๊งเพื่อนไปดูได้ในวันหยุดพักผ่อน

เรียกได้ว่ามาสานต่อความสำเร็จจากภาคที่แล้วแบบรวดเร็ว ไม่ทิ้งช่วงให้รอนาน อย่างกับเจ้าเม่นสายฟ้าออกวิ่งอย่างนั้นแหละ เพราะว่า ‘Sonic The Hedgehog 2’ หรือ ‘โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2’ นี้ ทิ้งห่างจากภาคแรก ‘Sonic The Hedgehog’ (2020) ภาพยนตร์กึ่งแอนิเมชันแบบไลฟ์แอ็กชัน ที่สร้างมาจากคาแรกเตอร์และเกมในตำนานของค่ายเซกา (Sega) เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง กลายเป็นหนังสร้างจากเกมไม่กี่เรื่องที่สามารถรอดพ้นอาถรรพ์หนังสร้างจากเกมที่มักจะเห่ยสนิทและเจ๊งยับ จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสกลับมาสร้างภาคใหม่อีกครั้ง โดยได้ ‘เจฟฟ์ ฟาวเลอร์’ (Jeff Fowler) ผู้กำกับจากภาคแรก และนักแสดงชุดเดิมจากภาคแรก กลับมาร่วมงานแบบครบทีม

 

 

เคล็ดลับความสำเร็จก็น่าจะมาจากการที่ตัวหนังดูสนุก ดูง่าย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี แถมยังเอาใจคอเกมด้วยการใส่แฟนเซอร์วิสและ Easter Egg จากเกมมาให้แบบจุก ๆ รวมทั้งการที่พาราเมาต์ พิกเจอร์ส (Paramount Pictures) ยังยอมอัดงบเพิ่ม 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับแก้ดีไซน์เจ้าโซนิคเวอร์ชันแรก ที่โดนแฟน ๆ ถล่มเพราะออกมาทรงประหลาดเกินรับไหว เรียกว่าปรับแก้กันจนในที่สุดก็ออกมาน่ารักน่าชัง และใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ต้นฉบับที่คุ้นเคยมากกว่าที่จะเน้นความสมจริง

แน่นอนว่า เนื้อเรื่องในภาคนี้เองก็จะต่อมาจาก Mid-Credits จากภาคที่แล้วเลยครับ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ดู อันนี้ผู้เขียนขอเบรกให้หยุดอ่าน แล้วไปหาดูใน Netflix ก่อนได้เลยนะครับ เพราะเนื้อหาค่อนข้างต่อและเชื่อมโยงมาจากภาคแรกพอสมควร ถ้าไม่ดูมาก่อนอาจจะมีงงและโดนสปอยล์ได้ ดูหนังใหม่

 

SO NIC

เนื้อหาเริ่มต้นหลังจากที่ ‘โซนิค’ (พากษ์เสียงโดย Ben Schwartz) ได้เนรเทศ ‘ดร. โรบอตนิก’ (Jim Carrey) ไปอยู่ดาวเห็ดได้ในภาคแรก เจ้าเม่นสีฟ้าก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของ ‘ทอม’ (James Marsden) นายอำเภอเมืองกรีนฮิลล์ (Green Hills) และคู่รัก ‘แมดดีย์’ (Tika Sumpter) โซนิคกำลังสนุกอยู่กับการแอบเป็นฮีโรฉายเดี่ยวพิทักษ์โลก (ที่สุดท้ายมักจะจบไม่ค่อยสวย)

จนกระทั่งวันหนึ่ง โซนิคต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะทอมกับแมดดีย์ต้องเดินทางไปงานแต่งงานของ ‘ราเชล’ (Natasha Rothwell) พี่สะใภ้ที่ฮาวาย ในขณะเดียวกันที่ ดร. โรบอตนิก หรือด็อกเตอร์เอกแมน (Doctor Eggman) ก็กำลังวางแผนจับมือกับ ‘นักเคิลส์’ (พากษ์เสียงโดย Idris Elba) นักรบเผ่าอีคิดนาที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่่สุดในกาแล็กซี่ เพื่อแย่งชิงมรกต (Master Emerald) อัญมณีทรงพลังที่มีอำนาจในการทำลายอารยธรรมมาเป็นของตัว โซนิคจึงต้องแย่งชิงมาให้ได้ก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือผู้ร้าย โดยมี ‘เทลส์’ (พากษ์เสียงโดย Collen O’Shanussy) จิ้งจอกสองหางสุดอัจฉริยะ แฟนพันธุ์แท้ตัวจริงของโซนิค ร่วมมือในการปกป้องโลกในครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของพล็อตเรื่อง ผู้เขียนแอบคิดเอาเองว่า ผู้เขียนบทน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์เรื่องราวจากเกม บวกกับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในแอนิเมชัน ‘Sonic X’ (2003 – 2006) (ฉายทาง Netflix) นะครับ ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า แต่ถ้าใครเคยดูแล้วจะร้องอ๋อเหมือนผู้เขียนแน่นอน เพราะเนื้อเรื่องในอนิเมะบางตอนนั้นมีความคล้ายกับเรื่องราวในหนังพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องราวของการแย่งชิงมรกต และ ‘ตัวละครบางตัว’ ที่โผล่มาในหนังเป็นครั้งแรก ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟน ก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้ได้รู้จักตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีก และผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าดูหนังแล้ว น่าจะอยากกลับบ้านไปดู Sonic X ต่อแน่นอน

 

 

ซึ่งตัวหนังเองก็ยังคงยึดวิธีการเขียนบท และวิธีการเล่าเรื่องในแบบเดียวกับภาคแรก ที่เน้นความเบาของเนื้อเรื่อง เดินเรื่องเป็นเส้นตรง ดูง่าย เบาสมอง เรตไม่แรง รวมทั้งการหยิบ Easter Egg จากในเกมมาใส่ได้อย่างกลมกลืนและเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเกมได้ไม่แพ้ภาคแรก แต่สิ่งที่ทำให้ภาคนี้มีความแตกต่างก็คือ ความเล่นใหญ่นี่แหละครับ เรียกว่าภาคนี้ขยายสเกลทั้งเรื่องราว โปรดักชัน ซีจี ที่เรียกได้ว่าอัปเกรดจากภาคที่แล้วขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตั้งแต่บทที่เน้นเรื่องราวการผจญภัยปกป้องกาแล็กซี และซีจีที่อัปเกรดจัดเต็มแบบ Epic ซะจนแทบจะกลายเป็นหนังฮีโร Marvel แบบย่อม ๆ ไปแล้ว (555)

ซึ่งไอ้ความเล่นใหญ่แบบ Epic นี่แหละที่ถือว่าเป็นการแก้ Pain Point จากภาคแรกแบบชัดเจนมาก เพราะภาคแรกจริง ๆ ก็ดูสนุกแหละครับ แต่พล็อตมันก็ค่อนข้างจะเด็ก ๆ เหมือนดูอนิเมะอยู่พอสมควร แต่พอขยายพล็อตใหญ่ขึ้น ได้เห็นการผจญภัยมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ตัวพล็อตและการดำเนินเรื่องมีพลังมากพอที่จะเล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม และถือว่าเป็นอะไรที่เกินคาดมาก ๆ โดยเฉพาะใครที่อาจจะรู้สึกว่าภาคแรกอร่อยแต่ให้น้อยเหมือนกินอาหารเด็ก ภาคนี้รับรองว่ามีจุกแน่นอน

แน่นอนว่า ตัวหนังก็ยังมีข้อสังเกตก็คือ ยังมีบางฉากที่ดูจะไม่ค่อยจำเป็นและไม่ได้มีผลต่อเรื่องมากนัก ซึ่งทำให้ตัวหนังบางช่วงดูยืดยาดน่าเบื่อคล้าย ๆ ภาคแรกไปบ้าง แต่ก็ถือว่ายังพอจะแฝงเรื่องราว ใส่ Plot Twist ให้ตื่นเต้นและดูสนุก แม้ว่าตัวเรื่องจะพอเดาได้ ใส่มุกฮาให้ได้ขำพอไหล่สั่น โชว์คาแรกเตอร์ของตัวละครบางตัวได้ชัดขึ้น และยังสามารถขับเน้นประเด็นเรื่องความเป็นเพื่อนและครอบครัวได้มีพลังและชวนให้ซึ้งได้อย่างจัดเต็มมาก ๆ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใช้ทีมสร้างเดียวกับ ‘The fast and the furious’ หรือเปล่านะ เอะอะก็ครอบครัว ๆ

 

 

ส่วนในแง่ของการแสดง ก็หนีไม่พ้นล่ะครับที่จะไม่พูดถึงตัวละครที่มาจากเกม ที่ดูจะทำได้ดีกว่าตัวละครที่เสริมแต่งในเวอร์ชันหนังไปทั้งสองภาคซะแล้วแฮะ ไม่ว่าจะเป็นเคมีระหว่างตัวละครระหว่างโซนิค เทลส์ และนักเคิลส์ ที่ทำออกมาได้น่ารักมาก ๆ และหนีไม่พ้นที่จะต้องยก MVP ให้กับลุงจิม แครีย์ (Jim Carrey) เจ้าของบทด็อกเตอร์โรบอตนิกนี่แหละครับ ที่ภาคนี้มีโอกาสได้ปล่อยลีลาแบบจัดเต็มซะยิ่งกว่าภาคที่แล้วอีก คือถ้าลุงจะเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายจริง ๆ เหมือนอย่างที่ลุงแกออกมาให้สัมภาษณ์ ก็ถือว่าเป็นการทิ้งทวนที่ไม่เสียหลายล่ะครับ

โดยสรุป ‘Sonic The Hedgehog 2’ ก็ยังทำหน้าที่เป็นภาพยนตร์สำหรับครอบครัวได้อย่างดีนะครับ ด้วยพล็อตเบา ๆ และการดำเนินเรื่องแบบเส้นตรงที่ดูง่ายไม่ซับซ้อน ในขณะที่ตัวหนังเองก็จัดเต็มได้แบบจุก ๆ ด้วยโปรดักชันและซีจีที่เล่นใหญ่กว่าภาคแรก เป็นหนังสำหรับครอบครัวที่ให้ความบันเทิงเล่นใหญ่ที่ดูได้สนุกกันทั้งครอบครัว เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ไม่ว่าจะเป็นแฟนเกมหรือไม่ก็ตาม ดูหนังฟรี
ดูหนังใหม่

 

This entry was posted in รวมบทความรีวิวหนัง, รีวิวหนัง netflix and tagged netflix apk, netflix download, netflix login, netflix ดูฟรี, netflix พากย์ไทย, netflix ฟรี, netflix ราคา, netflix รายเดือน, netflix สมัคร, ข่าวหนังเน็ตฟิก, ดู netflix, ดู netflix พากย์ไทย, ดู netflix ฟรี, ดู netflix ในคอม, ดู netflix ในทีวี, ดู netflix ในทีวี samsung, ดู netflix ในทีวีไม่ได้, ดู netflix ไม่ได้, ดูหนัง, ดูหนังฟรี, ดูหนังออนไลน์, ดูหนังเน็ตฟิก, ดูหนังไม่มีโฆษณา, รวมบทความ, รีวิว netflix, รีวิว netflix 99 บาท, รีวิว Netflix netflix, รีวิว netflix pantip, รีวิว netflix twitter, รีวิวการ์ตูน netflix, รีวิวซีรี่ย์ netflix, รีวิวหนัง, รีวิวหนัง netflix, รีวิวหนังผี netflix, รีวิวหนังเน็ตฟลิก, รีวิวหนังใหม่ netflix, รีวิวหนังใหม่2022, สปอยซีรี่ย์ netflix, สปอยหนัง netflix, หนัง netflix, หนัง netflix 2021, หนัง netflix 2022, หนังใหม่ netflix, เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา, เว็บรีวิวเน็ตฟิก.
jack

รีวิว The King Eternal Monarch
รีวิว โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2
มิถุนายน 2023
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930  
« ก.พ.    
รีวิวซีรีย์ล่าสุด
  • 27
    ก.พ.
    the devil judge รีวิวหนัง เนื้อเรื่องเข้นข้นที่แอบฝั่งข้อคิดไว้มากมาย
  • 13
    ก.พ.
    รีวิวหนัง morbius ดีก็ไม่ดีแย่ก็ไม่แย่ไปไม่สุดสักทางเรื่มจะมึนๆ
  • 06
    ก.พ.
    ghost doctor ผีหมอหมอผี รีวิวซีรี่ย์
  • 02
    ก.พ.
    the takeover รีวิวหนัง โลกไซเบอร์มีความมืดมิดซ้อนอยู่เบื้องหลัง
  • 01
    ก.พ.
    คุณหมอโรแมนติก รีวิวหนัง เมื่อความรักที่มาพร้อม อุดมการณ์ ทั้งคู่จึงได้มาพบกัน
  • 01
    พ.ย.
    ลองของ 2 รีวิวหนัง
  • 31
    ต.ค.
    รีวิวซีรี่ย์the good nurse
  • 28
    ต.ค.
    รีวิวหนัง leio โคตรแย้ยักษ์ ซีจีไทยก็ยังพอมีดีให้เราได้เห็นกัน
  • 24
    ต.ค.
    youth of may ในความทรงจําที่ควังจู รีวิวซีรี่ย์
  • 22
    ต.ค.
    20th century girl รีวิวซีรี่ย์
  • 21
    ต.ค.
    รีวิวหนัง rampant นครนรกซอมบี้คลั่ง
  • 20
    ต.ค.
    sweet home รีวิวซีรี่ย์
  • 19
    ต.ค.
    รีวิวซีรี่ย์ ลิขิตฝันฉันและเธอ
  • 18
    ต.ค.
    รีวิวหนัง hubie halloween
  • 17
    ต.ค.
    midnight คืนไร้เสียง รีวิวหนัง

netflix apk netflix download netflix login netflix ดูฟรี netflix พากย์ไทย netflix ฟรี netflix ราคา netflix รายเดือน netflix สมัคร ข่าวหนังเน็ตฟิก ดู netflix ดู netflix พากย์ไทย ดู netflix ฟรี ดู netflix ในคอม ดู netflix ในทีวี ดู netflix ในทีวี samsung ดู netflix ในทีวีไม่ได้ ดู netflix ไม่ได้ ดูหนัง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ดูหนังเน็ตฟิก ดูหนังไม่มีโฆษณา รวมบทความ รีวิว netflix รีวิว netflix 99 บาท รีวิว netflix pantip รีวิว netflix twitter รีวิว Netflix netflix รีวิวการ์ตูน netflix รีวิวซีรี่ย์ netflix รีวิวหนัง รีวิวหนัง netflix รีวิวหนังผี netflix รีวิวหนังเน็ตฟลิก รีวิวหนังใหม่2022 รีวิวหนังใหม่ netflix สปอยซีรี่ย์ netflix สปอยหนัง netflix หนัง netflix หนัง netflix 2021 หนัง netflix 2022 หนังใหม่ netflix เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา เว็บรีวิวเน็ตฟิก

  • the devil judge รีวิวหนัง เนื้อเรื่องเข้นข้นที่แอบฝั่งข้อคิดไว้มากมาย
  • รีวิวหนัง morbius ดีก็ไม่ดีแย่ก็ไม่แย่ไปไม่สุดสักทางเรื่มจะมึนๆ
  • ghost doctor ผีหมอหมอผี รีวิวซีรี่ย์
  • the takeover รีวิวหนัง โลกไซเบอร์มีความมืดมิดซ้อนอยู่เบื้องหลัง
  • คุณหมอโรแมนติก รีวิวหนัง เมื่อความรักที่มาพร้อม อุดมการณ์ ทั้งคู่จึงได้มาพบกัน
  • ข่าวหนัง netflix
  • รีวิวซีรี่ย์ netflix
  • รีวิวหนัง netflix
  • รีวิวหนัง netflix ซีรี่ย์ netflix ข่าวหนัง netflix
  • หน้าหลัก
  • รีวิวหนัง netflix
  • รีวิวซีรีย์ netflix
  • ข่าวหนัง netflix
  • ดูหนังฟรี
  • หน้าหลัก
  • รีวิวหนัง netflix
  • รีวิวซีรีย์ netflix
  • ข่าวหนัง netflix
  • ดูหนังฟรี