รีวิว The Good Doctor
ข่าวหนัง netflix ในช่วงนี้ ดูเหมือนจะมีเสียงชื่นชมและพูดถึงกันหนาหูเกี่ยวกับซีรีส์ฝรั่งแนวคุณหมอที่มีแต่คนชื่นชอบ และแต่ละคนก็พยายามโน้มน้าวให้เพื่อนๆ ในกลุ่มลองหันมาดูตามกัน ใช่แล้ว และวันนี้ ก็ถึงวันที่ผมจะได้ลองเปิดดูเหมือนอย่างใครๆ เขาบ้าง วันนี้ ขอเขียนบทรีวิวของ ‘The Good Doctor’ ซีรีส์คุณหมอที่เป็นโรคออทิสติกครับ
มันไม่ใช่ซีรีส์ดั้งเดิมแต่เป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างและจัดจำหน่ายโดย Sony Pictures Television และ ABC Signature ซีรีส์เรื่องนี้เริ่มต้นที่เกาหลีในชื่อ ‘Good Doctor’ พวกเขาเคยสร้างไว้ในปี 2013 โดยมี Joo Won และ Moon Chae Won แสดงนำ และก็ไม่ได้มีแค่เวอร์ชันอเมริกา หากยังมีเวอร์ชันญี่ปุ่นตามมาในปี 2018 ด้วย ดูหนังออนไลน์
เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Good Doctor’
มันเป็นเรื่องของ ดร. ชอน เมอร์ฟีย์ ชายหนุ่มที่เป็นโรคออทิสติก ที่ทำให้เขามีปัญหาในการสื่อสารและเข้าสังคม เขาเคยเสียพี่ชายไปตั้งแต่เด็ก และนั่นเป็นสาเหตุให้เขาอยากจะเป็นศัลยแพทย์ ชอน เติบโตขึ้นมาจากการดูแลของ ดร.อารอน กลาสแมน ที่ตอนนี้ก็นั่งในตำแหน่งประธานของโรงพยาบาล ในที่สุดเมื่อชอนสำเร็จการศึกษา
แววในเชิงการวินิจฉัยโรคที่ถูกพบเห็นโดยกลาสแมนมาโดยตลอด ทำให้เขาเลือกจะรับชอนเข้ามาเป็นศัลยแพทย์คนใหม่ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยและความกังขาในความสามารถที่จะทำงานร่วมกับแพทย์และพยาบาลร่วมที่ทำงาน ที่นี่ชอนจะได้ทำงานร่วมกับ ดร.แคลร์ บราวน์ (Antonia Thomas จากซีรีส์เรื่อง Lovesick และ Misfits) หมอสาวที่เขาจะได้ทำงานใกล้ชิดที่สุด เป็นคนที่น่าจะเข้าใจความเป็นเขาได้มากที่สุด
มี ดร. นีล เมเลนเดซ (Nicholas Gonzalez จากซีรีส์เรื่อง ‘Narcos’) เป็นหมอหัวหน้าทีม ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าแผนกอย่าง ดร.มาร์คัส แอนดรูว์ ผู้ที่อยากจะเป็นประธานมาคุมอีกที นอกจากนี้ ชอนก็ยังมีสาวห้องข้างๆ เป็นสาวสวย ลีอา (Paige Spara จากซีรีส์เรื่อง ‘Kevin from Work’) อีกด้วย ด้วยอาการออทิสติกของเขา ชีวิตในโรงพยาบาลคงไม่ง่ายกับชอนเท่าไหร่นัก แต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้กันไปนั่นแหละน่า
รีวิว The Good Doctor
ตัวละครที่สำคัญในเรื่อง:
Dr. Shaun Murphy รับบทโดย Freddie Highmore
หากใครที่ได้ติดตาม Netflix ในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเข้าประเทศไทย อาจจะพอคุ้นซีรีส์แนว Psychology thriller เรื่อง “Bates Motel” ที่เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ต้นกำเนิดและต่อยอดมาจากหนังเขย่าขวัญเรื่องดังอย่าง Psycho ในครั้งนี้เขากลับมาพลิกบทบาท และเรียกได้ว่าสร้างชื่อพร้อมคำชมอย่างล้นหลามกับบท คุณหมอชอน เมอร์ฟี่ ศัลยแพทย์หนุ่มที่เป็นออทิสติก
เขาถูกพ่อของตนเองฆ่าสัตว์เลี้ยงที่เขารักตายต่อหน้าต่อตา แม่ผู้เป็นที่พึ่งของเขาไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ ดังนั้นเขาและน้องชายจึงหนีออกจากบ้าน เพื่อดูแลและมีโลกใบใหม่ขึ้นเอง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ในขณะที่ชอนและน้องชายกำลังเล่นซ่อนแอบในโรงเก็บรถไฟเก่า น้องชายของเขาพลัดตกจากรถไฟเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ ดร. กลาสแมน และผลันตัวมาเป็นศัลยแพทย์ในที่สุด
ในเชิงซีรีส์คุณหมอนั้น ปกติก็จะดูซีรีส์จากเกาหลีเสียเป็นส่วนใหญ่ มีครั้งนี้ที่จะได้มานั่งดูซีรีส์หมอของฝรั่งเขาสักที แถมยังรีเมกจากเกาหลีซะอีก กลิ่นเกาหลีจึงล่องลอยอบอวลอยู่ในซีรีส์อเมริกันเรื่องนี้ สำหรับผมแล้ว นี่เป็นครั้งแรกสำหรับพล็อตนี้ เพราะเวอร์ชั่นเกาหลี (หรือแม้แต่ญี่ปุ่น) ผมก็ยังไม่ได้ลิ้มรสมาก่อนเลยนะครัช หนัง 4k
เล่าเรื่องสลับอดีตสร้างหัวใจให้กับตัวละครคุณหมอ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนดูรู้สึกเข้าถึงจิตใจของหมอชอนได้มากที่สุดนั่นคือ การเล่าเรื่อง โดยเฉพาะการเล่าเรื่องราวในอดีตของหมอออทิสติกคนนี้ สลับกันไปกับเหตุการณ์ปัจจุบัน หลายครั้งที่คนดูได้รับรู้ว่า พฤติกรรมบางอย่างมันเกิดจากการจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้คนดูได้เห็นและเข้าใจที่มาที่ไปของพฤติกรรมต่างๆ ของชอน ได้ทำความรู้จักกับเขา พร้อมๆ กับได้มองเห็นการปรับตัวของหมอคนหนึ่งที่มีบุคลิกภาพแตกต่างจากคนทั่วไป
การที่เขาเป็นออทิสติกจะทำให้เขามีปัญหาอย่างไรบ้างทั้งในและนอกโรงพยาบาล แม้จะทำให้มีความสามารถสูงในการจดจำข้อมูลในหัว สังเกตอาการและวินิจฉัยโรค แต่ก็ทำให้ค่อนข้างจะดูแปลกแยกไปคนอื่นอยู่สักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาไม่ถูกกาละเทศะ และไม่ค่อยเข้าใจจิตวิทยาการเป็นหมอสักเท่าไหร่ ทำให้หมอบางคนตั้งแง่ ไม่ยอมรับ แต่อยู่ๆ ไป ความเก่งกาจที่แสดงออกมาไม่หยุดหย่อน เขาก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่หลายพฤติกรรมอาจเป็นปัญหาที่ผู้ร่วมงานไม่เข้าใจ แม้แต่ญาติคนไข้เอง บางทีก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่า ทั้งเพื่อนหมอ เพื่อนพยาบาล และเหล่าคนไข้คงต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจเขาไป ส่วนเขาเองก็พยายามเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อจะเป็นคุณหมอที่ดี และ นั่นก็ทำให้ผู้ชมคอยเป็นกำลังใจให้หมอชอน
หลากเคสสร้างบทสนทนาที่ทำให้มองเห็นหลายมุมมองต่อการรักษา
สิ่งที่เป็นเหมือนๆ กันกับซีรีส์แนวคุณหมอทั่วๆ ไป นั่นก็คือ ส่วนหนึ่งจะเป็นเคสยากๆ ที่พร้อมจะเข้ามาให้แก้ได้ตลอดเวลา ซีรีส์จึงมักจะเดินเรื่องด้วยการมี 2-3 เคสในเวลาเดียวกัน โดยมีหมอออทิสติกที่มักจะทำสิ่งชวนประหลาดใจ ความมุ่งมั่นในการรักษา ความช่างสังเกตและวินิจฉัย ทำให้หลายครั้งก็ดูเกินเลย แต่ก็กลับกลายเป็นสิ่งถูกต้องไปอย่างคาดไม่ถึง
นอกเหนือจากการเล่าเรื่องของหมอออทิสติกที่สื่อสารไม่เก่งจนคนดูนั่งขำอย่างอารมณ์ดีแล้ว ซีรีส์ก็ยังเล่าถึงการปรับตัวของหมอผู้แตกต่างที่ไม่ได้รับการยอมรับในทีแรก เล่าถึงการปรับตัวในการดูแลคนไข้และญาติคนไข้ ไม่พอ เขายังเล่าไปถึงความคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะในหมู่ญาติคนไข้ด้วยกันเอง หรือในหมู่คุณหมอด้วยกัน
แน่นอนว่า ถ้าเอาไปเทียบกับซีรีส์เกาหลี เรื่องราวจะดราม่ากว่านี้มาก อาจชวนอินจนต้องน้ำตาไหลไปหลายหยด แต่ที่นี่ ไม่เน้นฟูมฟาย เน้นความเข้าใจเสียมากกว่า
สิ่งที่โดดเด่นของ ‘คุณหมอฟ้าประทาน’
ด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ฝรั่งแถมมุ่งหวังเน้นเล่าเรื่องการรักษาคนในโรงพยาบาลที่มีหมอคนหนึ่งเป็นโรคออทิสติก แถมตอนหนึ่งก็ใช้เวลาเพียง 40-42 นาที การเดินเรื่องจึงไม่เยิ่นเย้อ [จนอาจจะดูห้วนไปบ้างในบางที] บทจึงไม่เน้นไปที่ความรักกุ๊กกิ๊กให้เนิ่นนานนัก เน้นไปที่การวินิจฉัย การรักษา การตอบโต้และปรับตัวปรับใจของหมอชอน แต่ละตอนจึงกระชับ รู้สึกมันสนุกและผ่านไปไว
สิ่งที่สำคัญก็คือ งานรักษาคนไข้มีเรื่องของร่างกายคนที่ยากสำหรับคนทั่วไปจะเข้าใจได้ทั้งหมด เขาก็เลยใส่ CG ของสิ่งที่ ดร.ชอนคิดและจินตนาการในหัวให้ออกมาเป็นภาพ เสริมสร้างความเข้าใจให้คนดูทันความคิดของตัวละคร
ซีรีส์เรื่องนี้เพิ่งมีใน Netflix เพียง 3 ซีซัน แต่เท่าที่เห็น ตอนนี้มีข้อมูลว่าซีรีส์ยาวไปถึงซีซันที่ห้าเรียบร้อยแล้ว เคสใหม่ๆ ยังคงมีกันเข้ามาได้เรื่อยๆ กับหมอศัลย์คนนี้สวมบทบาทโดย Freddie Highmore ที่แสดงเป็นคนมีอาการออทิสติกได้น่ารักน่าชัง ใครสนใจก็หาเวลาว่างๆ มานั่งดูกันไปยาวๆ ดูหนัง
ซีรี่ย์ The Good Doctor
บทความรีวิวและความคิดเห็น:
ก่อนที่จะไปเริ่มอ่านรีวิว ต้องขอสารภาพก่อนเลยว่าเรายังไม่เคยดู The Good Doctor ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และ เกาหลีเลย ดังนั้นเราจะไม่ขอเปรียบเทียบและพูดถึงความแตกต่างนะคะ The Good Doctor ในเวอร์ชั่นนี้เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ทำเอาเราไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว เป็นซีรีส์ที่ดึงเอาจุดด้อยหรือความ
Contrast ของตัวละครขึ้นมาให้เห็นตั้งแต่ต้น อย่างการที่ตัวละครหลักเป็นหมอ แต่ป่วยเป็นออทิสติก เรามั่นใจว่าหากเป็นคนทั่วไป น่าจะเกิดข้อโต้แย้งในหัวว่า “มันจะเป็นไปได้หรอ? เขาสามารถทำงานได้จริงๆ หรอ?” และนี่แหละคือเสียงที่ตัวละครอย่างชอนจะต้องเจอไม่ใช่แค่นอกจอ
แต่ในจอด้วยเช่นกัน สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการจะบอกเราเลยคือ “อย่าตัดสินใคร โดยที่เรายังไม่ได้ให้เขาพยายาม” ชอนเป็นศัลยแพทย์ที่เรียกได้ว่าเก่ง ฉลาด อัจฉริยะ หาตัวจับได้ยาก แต่ในมุมหนึ่งเขาก็มีข้อบกพร่องอย่างการสื่อสารและการควบคุมอารมณ์ซึ่งสิ่งนี้ คือด่านใหญ่ที่ชอนจะต้องเรียนรู้และก้าวผ่านมันไปให้ได้ ผ่านการทำงานกับคนหมู่มาก
ในทางกลับกันตัวละครที่อยู่ใกล้ๆ ชอนนั้น ก็ต้องเรียนรู้และเก็บเกี่ยวความรู้สึก และประสบการณ์ที่ได้จากเขาด้วยเช่นกัน นอกจากเรื่องความพยายามและความสามารถแล้ว สิ่งที่เราชอบในซีรีส์เรื่องนี้เลย คงหนีไม่พ้นการ Production และความสมจริงต่างๆ บอกเลยว่าเป็นซีรีส์หมอที่ Real สุดๆ ผ่าเป็นผ่า เลือดเป็นเลือด
และนอกจากเรื่องการปรับตัว ความพยายาม เทคนิคการถ่ายทำ Production ใดๆ สิ่งที่หนังมอบให้กับคนดูอย่างเต็มที่สุดเลย คือหนีไม่พ้น ความอิ่มเอมทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรภาพ ครอบครัว ความฝัน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์แบบคู่รัก เรียกได้ว่าเรื่องนี้ขนเอาทุกความรู้สึกและทุกห้วงอารมณ์มาให้เราแล้วจริงๆ
สุดท้ายนี้หากใครที่เป็นสายหมอ สายฮีลลิ่ง เยียวยาจิตใจ ชอบความอิ่มเอมใจ เราขอแนะนำซีรีส์น้ำดี ในแบบไร้ที่ติอย่างเรื่องนี้ “The Good Doctor” ดูหนังออนไลน์ 4k