รีวิว The Sound of Magic
รีวิวหนัง netflix Annarasumanara : The Sound of Magic โอม รักเอยจงมา เป็นซีรีส์ที่สร้างจากไลน์เว็บตูนเรื่อง Annarasumanara : โอม รักเอยจงมา นำแสดงโดย จีชางอุค-ชเวซองอึน-ฮวังอินยอบ เป็นซีรีส์มิวสิคัลแนวแฟนตาซี ดราม่าเกาหลีเกี่ยวกับปัญหาของสังคม ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับเวทมนตร์ของนักมายากลลึกลับคนหนึ่งในสวนสนุกร้าง อัน-นา-รา-ซู-มา-นา-รา คุณเชื่อ…ในเรื่องเวทมนตร์ไหม ?
เรื่องย่อซีรีส์ Annarasumanara The Sound of Magic โอม รักเอยจงมา : โดยภาพรวมก็จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตค่ะ ซึ่งการดำเนินเนื้อเรื่องในช่วงต้น ๆ ก็จะเป็นการเกริ่น ๆ พูดถึงนักมายากลลึกลับ ผู้มีเวทมนตร์อะไรทำนองนี้ก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่ปัญหาของ ‘ยุนอาอี’ นำแสดงโดย ชเวซองอึน เด็กนักเรียนที่เรียนเก่งแต่ยากจน ซึ่งปัญหาของยุนอาอีก็จะเกี่ยวกับหนี้สินที่เป็นของพ่อ พ่อของเธอก่อหนี้สินแล้วหนีหายไปเลย
ทิ้งให้ยุนอาอีต้องแบกรับภาระไว้เองทั้งหมด ปัญหาเหล่านี้ก็จะนำพาให้ยุนอาอีได้มาเจอกับนักมายากลสุดหล่อของเราที่ชื่อ ‘อีอึล’ นำแสดงโดย จีชางอุค เขาเป็นนักมายากลลึบลับคนหนึ่งที่มีนิสัยเหมือนเด็กมาก คือไม่อยากโต ซึ่งตัวเขาก็อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้างใครที่บังเอิญผ่านมาพบเจออีอึล หรืออีอึลเป็นฝ่ายไปพบเจอเองก่อนเริ่มการแสดงมายากล ก็มักจะโดนถามไปว่า คุณเชื่อ…ในเรื่องเวทมนตร์หรือเปล่า ? ตามด้วยแสดงเวทมนตร์ให้ดู
ซึ่งอีอึลก็จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้ยุนอาอีด้วยเวทมนตร์และกลมายากลของเขาทุกครั้ง อันนี้เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ยุนอาอีเกิดความสนใจเกี่ยวกับเรื่องมายากลค่ะ เพราะความฝันในวัยเด็กของเธอคือนักมายากล ทำให้ยุนอาอีแวะมาแอบเรียนมายากลที่สวนสนุกร้างอยู่บ่อย ๆ จนเพื่อน ๆ ที่เป็นพวกขี้อิจฉาที่ไม่ชอบยุนอาอีเป็นทุนเดิมก็เอาไปซุบซิบนินทาให้ ‘นาอึลดึง’ นำแสดงโดย ฮวังอินยอบ เพื่อนข้างโต๊ะของยุนอาอีฟังค่ะ นาอึลดึงเขาสนใจในตัวยุนอาอีมาสักพักแล้วค่ะ
เลยไม่ค่อยสนใจอะไรมาก แต่พอเห็นว่ายุนอาอีได้ไปที่สวนสนุกร้างจริง ๆ นาอึลดึงเลยแอบตามไปค่ะ พอรู้ว่ายุนอาอีมาเจอกับอีอึลนักมายากลลึกลับ นาอึลดึงก็ไม่ค่อยไว้ใจค่ะ เลยมานั่งเรียนมายากลกับยุนอาอีซะเลย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จะได้เห็นเกี่ยวกับเวทมนตร์และเรื่องราวน่าเหลือเชื่อต่าง ๆ ที่อีอึลแสดงให้ดู ซึ่งหลังจากนี้เนื้อเรื่องก็จะเข้มข้นมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ
รีวิว The Sound of Magic
‘อีอึล’ นำแสดงโดย จีชางอุค : อีอึลเป็นตัวละครเกี่ยวกับนักมายากลผู้ลึกลับที่มีคนเล่าลือกันว่า เป็นบ้าบ้าง มีเวทมนตร์บ้าง อีอึลอาศัยอยู่ในสวนสนุกร้าง เป็นผู้ใหญ่ที่ชอบทำตัวเหมือนเด็ก และไม่อยากโต อยากใช้ชีวิตอยู่แต่ในโลกที่เขาสร้างขึ้นมา ทุกครั้งที่เขาถามว่า คุณเชื่อ…เรื่องเวทมนตร์หรือเปล่า ? ตามด้วย อัน-นา-รา-ซู-มา-นา-รา เวทมนตร์หรือมายากลของเขาก็จะเริ่มทำงานทันที มีทั้งกลที่ทำให้คนหายตัว กลเสกเงิน กลทำคนตัวขาดแล้วกลับมาต่อกันได้เหมือนเดิม และมายากลอื่น ๆ อีกมากมาย
‘ยุนอาอี’ นำแสดงโดย ชเวซองอึน : ยุนอาอีเป็นเด็กนักเรียนที่เรียนหนังสือเก่งโดยเฉพาะเรื่องเลข แต่ด้วยความที่มีฐานะยากจน เช่าห้องอยู่กับน้องสาวกันสองคน แม่ก็หายไปไหนไม่รู้ ส่วนพ่อก็ทิ้งปัญหาหนี้สินไว้ให้ ทำให้ยุนอาอีต้องดิ้นรนทำงานต่าง ๆ ที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง เพื่อหาเงินเอามาจ่ายค่าหนี้และค่าเช่า เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจมาก ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ แถมยังโดนแซะกัดจิกและแกล้งสารพัดอีก จึงทำให้ละครตัวนี้เขาอยากจะโตเร็ว ๆ ความฝันที่อยากจะเป็นนักมายากลในวัยเด็กก็เลยละทิ้งไป แต่หลังจากที่ยุนอาอีได้พบเจอกับอีอึล มันก็ทำให้เธอเริ่มเห็นความหวังและกลับมาสนใจในตัวมายากลอีกครั้ง
‘นาอึลดึง’ นำแสดงโดย ฮวังอินยอบ : นาอึลดึงเป็นเด็กเรียนที่เรียนเก่งมาก ๆ เป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียน เป็นที่รักของอาจารย์ และยังมีฐานะที่ร่ำรวยอีกด้วย แม้ว่าเขาจะเรียนเก่งแต่ความจริงแล้วยังมีวิชาเลขที่เขายังรู้สึกว่าตัวเองยังเก่งไม่พอและเก่งไม่เท่ายุนอาอี แต่เห็นแบบนี้จริง ๆ แล้วตัวละครนาอึลดึงแทบจะไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในตอนนี้เลย แต่เขาก็ต้องเป็นเพราะครอบครัวอยากให้เป็น ทำให้เป็นตัวละครที่โตเกินไป แต่หลังจากที่นาอึลดึงได้เจอยุนอาอีและได้ไปเกี่ยวพันกับอีอึลเขาก็เริ่มกล้าที่จะทำตามฝันของตัวเองขึ้นมา
ความคิดเห็นส่วนตัว : หลังจากที่เราเริ่มดูตอนที่ 1 ไป ก็เห็นได้เลยว่าบทไม่เหมือนตามต้นฉบับเว็บตูนแบบเป๊ะ ๆ นะคะ คือทางซีรีส์ก็จะมีการดัดแปลง เพิ่มบทขึ้นมาให้แตกต่างจากในไลน์เว็บตูนบ้างค่ะ ส่วนตัวเราว่าในซีรีส์ที่เขาเพิ่มบทบางบทขึ้นมาใหม่มันก็ดีนะคะ เพราะมันทำให้เนื้อเรื่องดูแฮปปี้มีสีสันมากขึ้น จะได้ไม่หดหู่เศร้าหม่นหมองเหมือนในเว็บตูนค่ะ เพลงประกอบคือดีมากเลย บางเพลงฟังแล้วรู้สึกอยากเต้นตามเลยค่ะ นอกจากแสงสีเสียงและฉาก CG ที่เราชอบแล้ว เราว่าเคมีนักแสดงยังลงตัวเข้ากันได้ดีมากเลยค่ะ>< ทั้งฟินทั้งเอ็นดูปน ๆ กันไป ส่วนตัวขี้อิจฉานี่ก็แสดงได้น่าหมั่นไส้จริง ๆ
ฉาก CG แสงสีเสียง : ส่วนตัวเรารู้สึกว่าฉาก CG มันสวยงามมีความเนียน ๆ แต่อาจจะดูลอยไปนิดหนึ่ง ในส่วนของแสงสีตรงนี้เราชอบมาก ๆ ซีรีส์ของเกาหลีเขาไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย มูดโทนของสีคือดีงามมากชวนเคลิ้มฝันสุด ๆ สวย อบอุ่น ละมุนละไม ด้านเสียงตรงนี้ เราขอพูดถึงเสียงที่เป็นเพลงประกอบนะคะ ตัวซีรีส์เรื่องนี้เขาเป็นแนวมิวสิคัลหรือที่เรียกกันว่าละครที่ถ่ายทอดด้วยบทเพลงแต่ไม่ได้เป็นแบบละครเวทีนะคะ
เพราะว่าเขาจะมีทริคเทคนิคในการตัดต่อและถ่ายทำของเขาค่ะ ซึ่งเราก็จะได้เห็นทั้งการแสดง, ร้องเพลง, เต้นรำ และเวทมนตร์อันน่าเหลือเชื่อต่าง ๆ ส่วนตัวเราชอบทั้งการแสดงตอนที่เต้นเพลง แล้วก็ชอบเพลงมาก ๆ เลยค่ะ เพราะทุกเพลงเลย มีฮวังอินยอบเป็นคนร้องด้วยนะคะ ไพเราะไม่แพ้กันเลยค่าความหมายคือดีงามมากค่ะ>< เพลงประกอบแต่ละเพลงมันจะได้ฟีลเหมือนตอนที่ดูการ์ตูนดิสนีย์เลยค่ะ ทำงานไปและร้องเพลงไป ดูสดใสมากเลยค่ะ แต่บางเพลงก็จะเศร้า ๆ หน่อยค่ะ ดูหนังใหม่
Annarasumanara โอม รักเอยจงมา (ชื่อสากล The sound of Magic ชื่อเกาหลีอ่านว่า อัมนารา ซูมานารา ) ลิมิเต็ดซีรีส์เกาหลี Netflix 6 ตอนจบ เรื่องราวของนักมายากลที่อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้างสามารถเสกปัญหาของวัยรุ่นสาวคนหนึ่งให้หายไป… และนำความหวังกลับมา ในยามที่ต้องเผชิญความจริงอันโหดร้ายที่พรากความสดใสวัยเยาว์ไปจากเธอ
“เด็กน้อยที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ นักมายากลที่อยากเป็นเด็กตลอดไป” นี่คือคีย์เวิร์ดหัวใจของเรื่องราวดราม่าวัยรุ่น Coming of Age กึ่งแฟนตาซี+ด้วยละครเพลง ในรูปแบบซีรีส์เกาหลีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้วยเรื่องราวระดับตำนานจากเว็บตูนเมื่อ 10 ปีก่อน (เริ่มมกราคม 2010 จบมกราคม 2011) อ่านฉบับแปลไทยได้ที่นี่ ซึ่งทางผู้กำกับคิมซองยุนได้นำมาสร้างลง Netflix เป็นแบบออริจินอล 6 ตอนจบเลย และดัดแปลงเรื่องราวให้ทันสมัยมากขึ้นด้วย
นี่คือซีรีส์ที่มีหัวใจความเป็นเด็กอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยเรื่องราวกึ่งแฟนตาซีจนเกือบๆ จะเหมือนนิทานแฟนตาซียุคใหม่ ที่ซึ่งตัวเอกของเรื่อง ยุนอาอี (แสดงโดย ชเว ซุง-อึน นักแสดงอายุ 25 ที่พึ่งเล่นซีรีส์เรื่องที่ 2) สาวน้อยชีวิตรันทดที่ทุ่มเทความหวังให้การเรียนจนไม่เชื่อในสิ่งอื่นใด เธอต้องมาพบกับ รีอึล (นำแสดงโดย ชี ชัง-อุก) นักมายากลที่บอกว่าตัวเองคือผู้ใช้เวทมนต์ ซึ่งเขาก็ร่ายมนต์ปาฏิหาริย์ให้เธอได้เห็น เพื่อหวังว่าเธอจะกลับมาเชื่อในเรื่องนี้อีกครั้ง
The Sound of Magic
ซึ่งในสายตาของนางเอกเขาคือลุงที่ออกจะเพี้ยนๆ ในตอนแรก ก่อนจะกลายมาเป็นผู้วิเศษที่คอยปัดเป่าสิ่งร้ายๆ ออกไปจากชีวิตเธอ โดยที่ตัวเรื่องนำเสนอแบบคาบเส้นความจริงกับเวทมนตร์แฟนตาซี ให้ผู้ชมได้หลงไหลไปกับฉากที่ถูกเนรมิตรขึ้นมาอย่างสวยงามระหว่างที่มนต์ของรีอึลทำงานในรูปแบบ “ละครเพลงแฟนตาซี” ซึ่งเป็นการนำเสนอส่วนผสมที่ไม่มีในเว็บตูน ซึ่งเป็นไอเดียที่ผู้กำกับเนรมิตรเข้ามาได้กลมกลืนกับเรื่องราวมากจริงๆ
คือนอกจากเราจะได้ฟังเพลงเพราะๆ ตัวละครในเรื่องฉากนั้นก็จะร้องเพลงเต้นรำไปตามอารมณ์แฟนตาซีของฉากเต้น โดยมีซับไตเติลแปลเนื้อเพลงความหมายครบ ที่ช่วยบรรยายอะไรหลายๆ อย่างได้ลึกซึ้งกินใจกว่าการบอกเล่าออกมาจากการพูดแบบบปกติ ซึ่งก็เหมือนพวกฉากเต้นของหนังอินเดียที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ดูที่ดีจริงๆ ว่ามันช่วยเล่าเรื่องได้ลึกซึ้งมากขึ้นยังไง ซึ่งเรื่องนี้ก็ให้ผลลัพธ์แบบนั้นเช่นกัน แล้วยังเป็นฉากละครเพลงจากทางเกาหลีที่ละเมียดละไมแบบที่เข้าถึงกินใจคนดูฝั่งเอเชียได้มากสุดๆ แน่นอน
นอกจากนั้นแล้วการที่เรื่องเล่าแบบกึ่งจริงกึ่งแฟนตาซีก็มีความหมายลึกซึ้งถึงประเด็นหลักในเรื่องการเติบของเด็กไปสู่ผู้ใหญ่ที่ดี เป็นการหลอมรวมใส่ปมปัญหาทั้งวิธีคิดปฏิบัติของผู้ใหญ่ที่ทำร้ายเด็กทั้งทางตรงทางอ้อม ซึ่งแฝงมาในรูปพ่อแม่รังแกฉัน เลี้ยงลูกด้วยเงิน หนีปัญหาทิ้งภาระให้ลูกรับผิดชอบ ความกดดันที่เด็กถูกขีดเส้นชีวิตโดยพ่อแม่และสังคมที่ตีกรอบให้เด็กคิดและเชื่อว่าตัวเองต้องเดินบนเส้นทางนี้เท่านั้น
ซึ่งพอเรื่องพาให้ตัวเอกเด็กทั้งสองคนต้องมาเจอและเกี่ยวข้องกับนักมายากลที่ใช้ชีวิตนอกกรอบอยู่ในสวนสนุกร้าง โดยไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง เขาขอเพียงแค่ใครบางคนคนเชื่อในตัวเขาก็พอ โดยมีคำพูดกึ่งคำถามติดปากว่า คุณเชื่อในเรื่องเวทมนตร์ไหม? นี่คือการจุดประกายชีวิตนอกกรอบให้เด็กได้ลองคิดและตัดสินใจ ซึ่งเรื่องก็ไม่ได้นำเสนอแบบให้หลุดกรอบทิ้งอะไรทุกอย่างไป เพียงแต่ให้เลือกทำสิ่งที่ชอบเพิ่มขึ้นกับทดสอบเปิดรับเส้นทางใหม่ๆ เข้ามา
ซึ่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเด็กก็คือเวทมนตร์หนึ่งในหัวใจหลักของเรื่องนี้ ที่เรื่องนำเสนอประเด็นต่างๆ ได้ค่อนข้างลุ่มลึกและมีคำตอบแบบที่คลี่คลายเรื่องราวทำให้หัวใจอบอุ่นเจือความเศร้านิดๆ โดยอิงกับความเรียลในบริบทสังคมจริงอยู่ ไม่โลกสวยแสนหวานปรุงแต่งกันจนอยู่ในจินตนาการแบบซีรีส์เกาหลีโดยทั่วไป
และสิ่งที่ฉีกให้เรื่องนี้แตกต่างมากขึ้นไปอีกคือการนำเสนอความคิดการกระทำของตัวเอกเด็กทั้งสองคนแบบสีเทาๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าค่อนข้างดาร์คมากในแง่มุมของเรื่องราวที่นำเสนอ ในช่วงแรกตัวเรื่องเหมือนจะตั้งใจหลอกคนดูว่ามีพล็อตรองเป็นเรื่องความรักวัยรุ่น การแอบชอบ หลงรักใสๆ ของ อีลดึง (รับบทโดย ฮวังอินยอบ) ที่แอบชอบอาอีที่นั่งติดกันและเรียนเก่งทั้งคู่แข่งกัน ดูหนังฟรี