the devil judge รีวิวหนัง ในขณะนี้ การแสดงที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นการร้องไห้ให้ล้ม แต่มันอาจจะเป็นท่าทางสบายๆ หรืออาจจะเป็นแค่การนั่งกินและพูดคุยตามปกติ แต่ถ้ามันดูเรียบเนียนและคุณสามารถเชื่อได้ว่าเป็นกาแฟที่มนุษย์กำลังจิบจริงๆ นั่นเป็นข้อพิสูจน์ ข้อใดเป็นปัจจัยหลักในการทำให้การแสดงอารมณ์ราบรื่นและสะดุดตา อาจต้องใช้บทบาทที่กล้าเล่น นี่คือความกล้าที่จะเป็นคนธรรมดาหรือกล้าที่จะสื่อสารผ่านคนธรรมดาเพื่อให้ปรากฏเป็นมนุษย์ในมนุษย์ไม่ใช่ตัวละคร และเมื่อคนธรรมดาที่เป็นคนเดินได้มีความกล้าหาญอีกทางหนึ่ง นั่นคือ กล้าเล่นของมีคมสะกิดใจ ให้บทเรียนชีวิตแก่ผู้ชมและทำให้พวกเขาคิดถึงสคริปต์ที่เป็นธรรมชาติและธรรมดา เกรื่นมาพอสมควรใครอยากดูก่อนหาดูได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์
ในขณะนี้ การแสดงที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นการร้องไห้ให้ล้ม แต่มันอาจจะเป็นท่าทางสบายๆ หรืออาจจะเป็นแค่การนั่งกินและพูดคุยตามปกติ แต่ถ้ามันดูเรียบเนียนและคุณสามารถเชื่อได้ว่าเป็นกาแฟที่มนุษย์กำลังจิบจริงๆ นั่นเป็นข้อพิสูจน์ ข้อใดเป็นปัจจัยหลักในการทำให้การแสดงอารมณ์ราบรื่นและสะดุดตา อาจต้องใช้บทบาทที่กล้าเล่น นี่คือความกล้าที่จะเป็นคนธรรมดาหรือกล้าที่จะสื่อสารผ่านคนธรรมดาเพื่อให้ปรากฏเป็นมนุษย์ในมนุษย์ไม่ใช่ตัวละคร และเมื่อคนธรรมดาที่เป็นคนเดินได้มีความกล้าหาญอีกทางหนึ่ง นั่นคือ กล้าเล่นของมีคมสะกิดใจ ให้บทเรียนชีวิตแก่ผู้ชมและทำให้พวกเขาคิดถึงสคริปต์ที่เป็นธรรมชาติและธรรมดา
เพราะบางครั้งเรื่องราวทั่วไปที่เป็นเรื่องธรรมดาในสังคม จากต้นเหตุสู่ปัญหาระดับโครงสร้างที่ก่อตัวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และบทที่ออกมาไม่เร่งรีบจนรู้สึกว่าถูกบังคับโดยเจตจำนง ดังนั้นผู้ชมจึงเชื่อและรักเรื่องนี้ บางครั้งมันก็น่าพอใจในจินตนาการที่จะกระโดดออกจากกรอบแนวคิดเดิมและเปิดโลกใหม่ บางครั้งสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงก็สามารถเป็นความกล้าหาญที่มีประสิทธิภาพมาก และตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือซีรีส์ Truth Is Watching and Complaining ซึ่งเราดูมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ฉันต้องพยายามเขียนความรู้สึกของฉันออกมา สำหรับการเล่น Demon Judge ที่เขียนยากแต่โดนใจ
the devil judge รีวิวหนัง เรื่องราวย่อๆ
the devil judge เรื่องย่อ ประเทศเกาหลีที่ระบบกำลังล่มสลาย พลวัตรทางสังคมถูกขับเคลื่อนโดยคหบดีผู้มั่งคั่งที่รวมตัวกันในนามมูลนิธิเพื่อสังคม การบริหารประเทศตกอยู่ในอุ้งมือของคนร่ำรวยธุรกิจใหญ่ผูกขาดเพียงไม่กี่องค์กร เมื่อทุกอย่างอยู่ในมือมูลนิธิเพื่อสังคมจึงครอบงำอำนาจบริหารระดับสูงด้วยการมีประธานาธิบดีหุ่นเชิด ที่มองดูก็รู้ว่าเป็นผู้นำที่ไม่ฉลาดแต่ได้อำนาจมาเพราะมูลนิธิฯอยู่เบื้องหลัง และการที่จะเอาประชาชนมาเป็นพวกนั้นรัฐบาลจึงจัดรายการพิพากษาสดคือการถ่ายทอดสดคดีที่ประชาชนสนใจ และให้ประชาชนทั่วไปได้โหวตเสมือนเป็นคณะลูกขุนผ่านแอปพลิเคชั่น และหัวหน้าผู้พิพากษาก็คือคังโยฮัน (จีซอง)
และมีผู้พิพากษาสมทบอีกสองคนคือโอจินจู (คิมแจคยอง) กับคิมกาอน (จินยอง) ผู้พิพากษาหน้าใหม่ไฟแรงผู้มีความคลางแคลงกับความเป็นคังโยฮันอยู่ลึกๆ และเห็นได้ชัดว่าคิมกาอนเข้ามาเพื่อสืบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคังโยฮัน แต่…ผู้มีอำนาจกลับคาดไม่ถึงว่าคังโยฮันจะเป็นคนที่ควบคุมไม่ได้และไม่ได้ทำการฟอกขาวคนร้ายอย่างที่หวัง กระทั่งคดีแรกคังโยฮันก็แหกหน้าผู้มีอำนาจทั้งเบื้องหน้าคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมชาคยองฮี (จังยุนนัม)ผู้หมายมั่นว่าจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป และเบื้องหลังคือมูลนิธิฯที่ทำให้เลขามูลนิธิจองซอนอา (คิมมินจอง) ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่คังโยฮันจะข้ามเส้นมามากกว่านี้
แต่เมื่อเกิดเหตุร้ายเพื่อหมายหัวคังโยฮันแล้วคิมกาอนได้รับบาดเจ็บคังโยฮันจึงพาคิมกาอนมาพักรักษาตัวที่บ้าน แล้วที่นั่นก็ทำให้คิมกาอนยิ่งสงสัยในตัวคังโยฮัน ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สายสืบยุนซูฮยอน (พัคคยูยอง) เพื่อสืบหาที่มาตัวตนและเบื้องหลังของคังโยฮันก็เริ่มข้น แล้วเบาะแสบางอย่างก็ชี้ไปในทางที่คังโยฮันไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด การต้องต่อสู้ของคังโยฮันที่ต้องผดุงความยุติธรรมด้วยอำนาจตุลาการก็ต้องมีคิมกาอนมาเป็นตัวแปร เมื่อระบบได้สร้างปีศาจขึ้นมาวิธีการทำลายระบบอาจต้องใช้ปีศาจแต่บางทีบางอย่างก็หนักหนาเกินเยียวยาหรือไม่
เจาะลึกรายละเอียดของหนัง
อีกครั้งที่เกาหลีเข้าใจเล่นและฉลาดเล่าเมื่องานด้านบทออกมาไม่ได้มีอะไรใหม่เลย เรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบือนโดยคนไม่สะอาด อำนาจ อิทธิพล แล้วต้องมีคนที่มาผดุงความยุติธรรม คนที่พยายามแก้ไขกลไกนั้นด้วยวิธีที่รุนแรงและท้าทายเส้นแบ่งทางกฎหมายหรือศีลธรรม ทั้งชั้นเชิงที่ธรรมดาถ้านับว่านี่คืองานซีรีส์เกาหลีซึ่งหากลองตรองดูให้ดีตัวละครและทิศทางไม่ได้ยากต่อการคาดเดา หรือจะเอาให้แน่นลงไปอีกเพราะคนดูไม่พยายามเดาเมื่อได้ถูกความเร้าใจดึงไปจนสุดทาง และมันมาจากความฉลาดที่จะเล่นกับอารมณ์เมื่อสำนึกในใจคนดูที่เป็นมนุษย์นั้นมองเห็นความบูดเบี้ยวบางอย่างในสังคมอยู่ในทุกๆวัน จึงเหมือนเป็นการเอาเรื่องราวสามัญในชีวิตประจำวันมาเล่า
เพราะเรื่องของ VVIP มันมีให้เห็นเหมือนเซเว่นหน้าปากซอยที่เดินออกจากบ้านไปทำงานทุกวันก็ต้องเจอ แล้วความที่พื้นฐานในสำนึกมนุษย์ที่ยังมีมโนธรรมในใจก็จะมีความรู้สึกขัดขืนและไม่ได้รับความยุติธรรมทางใจ เมื่อได้เห็นแสงแห่งความยุติธรรมไม่เคยส่องถึงชนชั้นผู้เป็นกลไกรากฐานของสังคม แล้วเมื่อเรื่องเล่าด้วยประเด็นนี้ผ่านความแข็งแรงแน่นหนาของบทจึงทำให้คนดูเร้าใจ เมื่อบทพาหัวใจคนดูไปยังจุดขึ้งโกรธ ชิงชัง และพร้อมพิพากษาคนที่คิดว่าอยู่เหนือคนอื่นด้วยมือตนเอง และแน่นอนว่าบทได้มอบความสาสมใจกับบทลงโทษที่คนเหล่านั้นได้รับ เพราะในโลกแห่งความจริงคนที่ร่ำรวยเงินและอำนาจอาจไม่ได้ถูกพิพากษาอย่างแท้จริงและคนดูก็ชาชินกับมัน รีวิวซีรีย์ Netflix
นั่นคือความสิ้นหวังในโลกจริง… แต่แล้วเมื่อโลกแห่งจินตนาการมอบความสาแก่ใจให้ได้บ้างหัวใจคนดูก็พองโต และเชื่อได้ว่าร้อยทั้งร้อยเห็นด้วยกับบทลงโทษที่ผู้พิพากษาคังโยฮันมอบให้คนเหล่านั้น นั่นคือความชาญฉลาดของคนเขียนบทที่รู้จังหวะเวลาที่จะให้รางวัลกับคนดูตามรายทางของการเล่าเรื่องขนาดยาว ทั้งนี้ทั้งหมดก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานเรื่องหลักที่ซื่อตรงคือการเอาคืนของคนที่ถูกกระทำผ่านการบ่อนทำลายระบบยุติธรรมที่ฟอนเฟะ ทั้งยังสอดไส้ประเด็นทางสังคม การปกครอง และประเด็นความเป็นมนุษย์มากมายมาเล่าได้อย่างแนบเนียน
เพียงแต่เมื่อการผูกเรื่องที่แน่นหนาแบบนี้และเป็นการเล่าเรื่องขนาดยาว จึงมีบ้างที่เมื่อถึงเวลาต้องจบมันแก้ร่างแหไม่ทันจึงเห็นเป็นการเร่งรีบจนรวบรัดในตอนท้าย เมื่อบทพาเรื่องให้ไปไกลสุดกู่คนดูคาดหวังความสาแก่ใจที่แรงกว่า แต่ตอนสุดท้ายเหมือนหาทางลงง่ายๆบางอย่างก็ไม่เก็บเอาไปทำให้ตอนสุดท้ายกลายเป็นดร็อปลงเร็วเกินไป แต่ด้วยความที่เรื่องเดินมาดีก็ยังทำให้ตอนสุดท้ายที่แม้ไม่สะใจก็ยังไม่หลุดออกนอกทาง แค่พลังมันน้อยกว่านั่นเป็นเพราะที่ผ่านมาบทละครของเรื่องนี้ได้พาหัวใจคนดูกลายเป็นปีศาจไปเรียบร้อยแล้วตามเจตนาจนกระทั่งเห็นบทสรุปไม่สาแก่ใจเท่านั้น
เมื่อความยุติธรรมเป็นสิ่งที่บิดเบี้ยวใน the devil judge
กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวกลายเป็นเรื่องสามัญของโลกได้อย่างไร อาจบางทีเป็นเพราะมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายและเป็นภัยที่สุดในโลก มนุษย์ที่ยังคงมีรัก โลภ โกรธ หลง อันนำมาซึ่งความไม่รู้จักพอ เมื่อมีอำนาจก็อยากรักษาอำนาจไว้ให้ยาวนานที่สุด โดยไม่สนว่าเส้นทางนั้นจะเหยียบย่ำความเจ็บปวดและคราบน้ำตามามากมายขนาดไหน และอำนาจก็ได้สร้างระบบของมันขึ้นมาแล้วระบบนั้นก็คือเครื่องมือของคนที่เสพติดอำนาจเพื่อมาใช้บิดเบือนกระบวนการ สุดท้ายการรักษาอำนาจให้ได้จึงมาทำลายสิ่งที่ต้องเป็นเสาหลักคุ้มครองระบบนั่นคือความยุติธรรม
จนเมื่อความยุติธรรมถูกบิดเบือนครั้งแล้วครั้งเล่า จากเรื่องใหญ่ในปฐมบทลงมาสู่เรื่องปลีกย่อยเมื่อเงินเพียงจำนวนหนึ่งสามารถซื้อความยุติธรรมได้ แต่อีกด้านผู้สิ้นไร้กลับกลายเป็นถูกความยุติธรรมทำร้ายจนทำให้รากฐานของสังคมเน่า เพราะเมื่อถึงจุดที่ใครก็ได้ที่มีเงินอาจสามารถซื้อความยุติธรรมได้ความยุติธรรมจึงกลายเป็นรากเหง้าแห่งปัญหา ปัญหาที่ลุกลามจนกระทั่งยากที่จะมีใครสักคนสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้เพราะมันได้กลายเป็นเรื่องปกติและนั่นคือโลกแห่งความจริง ที่ความยุติธรรมผ่านระบบคือความฝันที่มิอาจเอื้อมไปแม้กระทั่งยามหลับตา
ที่ทำได้คือการกระชากหรือสะกิดรอยแผลให้กับระบบได้บ้าง ด้วยการสร้างเรื่องในจินตนาการให้ความยุติธรรมอยู่ในมือของคนระดับฐานราก ความยุติธรรมที่อยู่ในมือประชาชน ความยุติธรรมที่มีประชาชนเป็นแกนกลาง เมื่อมีอัศวินขี่ม้าขาวออกมากระชากหน้ากากคนที่ใช้อำนาจบิดเบือนความยุติธรรมประชาชนก็พร้อมที่จะสนับสนุน เพราะความเหลวแหลกของกระบวนการมันเกินเยียวยาและกลายเป็นความธรรมดาจนคล้ายกับอาหารเช้าที่ต้องกิน แต่การจะทำเช่นนั้นได้ก็ยังต้องใช้ทรัพยากรมากมายทั้งทุนทรัพย์ สมอง และแรงผลักดันภายใน
เมื่อโลกจริงไม่อาจทำให้มนุษย์รู้สึกได้ว่าโลกยังมีความยุติธรรม แต่โลกในจินตนาการกลับทำให้รู้สึกว่าในความมืดยังมีแสงสว่าง โลกสมมติจึงเป็นเสมือนที่พึ่งทางใจให้ยึดเหนี่ยว แม้กระทั่งความคับแค้นที่สั่งสมมานานจากโลกจริงก็ได้พาหัวใจไปสู่จุดที่หลอมรวมกับความคับแค้นในโลกสมมตินั้น เพราะเรื่องราวที่เล่าผ่านมีเรื่องมากมายที่เป็นเรื่องที่สามารถเกิดกับใครก็ได้ สุดท้ายมีจำนวนไม่น้อยอยากให้โลกแห่งความจริงมีระบบที่ผู้พิพากษาคังโยฮันมาตัดสินพวกคนร้ายที่ใช้ระบบเป็นเครื่องมือ แต่นั่นก็ทำได้แค่จินตนาการให้หัวใจได้รางวัลบ้าง เพราะแม้กระทั่งในจินตนาการในเรื่องบทสรุปก็ยังไม่สามารถโยกคลอนรากฐานของความฟอนเฟะนั้นได้
รีวิวโดยรวมมาดูกันว่าหนังมีทิศทางที่ดีหรือไม่
ซีรีส์เกาหลีมักจะมีข้อดีที่เป็นจุดแข็งคือการคัดเลือกนักแสดงและการแสดงที่ไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ ส่วนหนึ่งอาจมาจากงานด้านบทที่ค่อนข้างมีมิติและกล้าเล่น จึงมีบ่อยครั้งที่บทจะสร้างตัวละครที่ลึกลับน่าสงสัยและท้าทายมโนธรรมในใจคนดู เป็นตัวละครที่เดาไม่ออกว่าร้ายหรือดีเป็นสีเทาค่อนดำ ซึ่งเมื่อบทมีมิติที่ลึกนักแสดงที่มารับบทนั้นต้องมือถึงและเรื่องนี้เป็นเช่นนั้น
ก็ใช่ที่บทผู้พิพากษาคังโยฮันไม่ใช่บทที่ใครก็เล่นไม่ได้เพราะนักแสดงชายเกาหลีส่วนใหญ่คงเล่นได้หมด แต่เมื่อผู้รับผิดชอบบทที่เป็นตัวเดินเรื่องที่มิติหลากหลายคือยอดฝีมือที่พิสูจน์การแสดงมาแล้วมากมายอย่างจีซอง บทตุลาการปีศาจจึงกลายเป็นภาพที่ชัดเจนในจินตนาการออกมาแบบนั้นทันที
ส่วนเรื่องพื้นฐานที่มีก็ไม่บกพร่องทั้งเรื่องความสูญเสียหรือความคลั่งแค้น โดยเฉพาะสิ่งที่ยากมากคือการแสดงให้ผู้ชมเชื่อใจแต่ดันตั้งอยู่บนความน่าสงสัยจีซองรับผิดชอบอย่างไร้ที่ติจนช่วงต้นกลายเป็นเพื่อนร่วมจอทุกคนดับอนาถไปขนสิ้น ยังดีที่บทยังมีพัฒนาการให้ตัวละครของจินยอง , คิมมินจอง , พัคกยูยองหรือกระทั่งคิมแจคยองมีเวลาทองเป็นของตัวเองมีเสน่ห์ให้เป็นที่จดจำ เพราะทุกคนล้วนให้การแสดงที่อยู่ในกรอบที่บทมอบให้อย่างไม่มีที่ติเพียงแต่จีซองแข็งแกร่งเกินไป ยิ่งมาได้บทที่ให้เขาเป็นแกนด้วยแล้ว คนอื่นๆไม่ว่าจะทำได้ดีอย่างไรก็ก้าวผ่านออกมาเด่นเกินหน้าจีซองไม่ได้
โดยเฉพาะสองคนที่ต้องปะทะกับจีซองตรงๆอย่างจินยองที่เกือบเป็นซีรีส์วายไปเล็กๆ การรับผิดชอบบทดีแล้วการแสดงอารมณ์ที่จำเป็นดีมากแล้วแต่ก็ไม่สามารถแย่งซีนได้แม้แต่ฉากเดียว หรือคิมมินจองที่จริตจะก้านดูยั่วยวนกวนโมโหให้ผู้ชมหมั่นไส้ลามไปถึงความเกลียดยังทำได้อย่างไร้ที่ติ แต่ส่วนที่เธอไปไม่ได้คือการพาตัวละครให้มีความน่าเห็นใจในตอนท้ายตามเจตนาของบท อาจเป็นเพราะบทเลือกที่จะผูกปมแน่นเกินไปตอนท้ายเลยยังไปไม่ถึงจุดที่คนดูต้องเห็นใจ โดยรวมแล้วตัวละครอื่นๆเป็นเพียงตัวละครที่เสริมของจีซอง เพียงแต่นักแสดงยังรับผิดชอบหน้าที่ได้ดีมากเลยไม่เห็นว่าจีซองแบกเรื่อง แต่เห็นว่าเรื่องสมบูรณ์เพราะมีตัวละครที่น่าประทับใจเป็นส่วนประกอบ ส่วนงานด้านภาพที่เน้นความมืดและหม่นนั้นคล้ายกับจะสื่อถึงวาระที่มืดมนของระบบ ความมืดมนของกระบวนการยุติธรรมอย่างเห็นภาพ
หากจะมองหางานที่มีพลังดึงดูดได้อย่างแรงตั้งแต่ตอนแรกแล้วทวีความแรงนั้นขึ้นเรื่อยๆเรื่องนี้คืองานที่ว่านั้น เพราะทันทีที่เปิดดูเสน่ห์ของนักแสดงหรือความสงสัยใคร่รู้จะกุมหัวใจทันที แล้วด้วยความที่เล่นเรื่องของปัญหาสังคมที่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เป็นเรื่องความยุติธรรมหรือเรื่องของอภิสิทธ์ชน ที่อาจเป็นเรื่องที่สามัญที่สุดในสังคมโลกแล้วก็เป็นได้ ประกอบกับแกนหลักของเรื่องแข็งแรงไม่มีเป๋ออกนอกทางตลอดระยะเวลาที่ออกอากาศ เพราะเรื่องเดินหน้าไปอย่างไม่มีหยุดยั้งความเร้าใจอยู่ในระดับสูงลิ่ว ชั้นเชิงการทิ้งเชื้อในตอนจบแต่ละตอนก็สร้างความอยากดูต่ออย่างรุนแรง ความเร้าใจที่ว่านั้นสูงถึงขนาดที่ว่าคนดูลืมที่จะคาดเดาเรื่องไปได้เลย
แต่หากมองลึกๆแล้วเรื่องนี้ไม่ได้มีชั้นเชิงใหม่อะไรเลย เมื่อดูจนจบก็ไม่ถึงกับเหนือความคาดหมายหรือเหนือชั้นใดๆ นั่นหมายความว่าความเร้าใจมันสูงเพราะรายละเอียดที่ใส่เข้ามา ทั้งประเด็นที่เล่า การดึงคนดูไปเป็นพวก การเล่นกับอารมณ์ที่ได้ผล เมื่อพาไปไกลสุดกู่แล้วให้รางวัล และมันเป็นเช่นนั้นไปถึงสิบห้าตอนกว่าๆจนมาถึงตอนท้ายที่ดูหาทางลงง่ายไปทำให้เป็นความรวบรัดตัวละครบางคนเหมือนถูกลืมทำให้ไม่สาสมแก่ใจเท่าไหร่นัก และทำให้ไปไม่ถึงคำว่าไร้ที่ติเพราะตอนสุดท้ายที่แก้ได้ไม่หมด และความที่เรื่องทำให้คนดูเป็นปีศาจไปเรียบร้อยแล้ว หัวใจของปีศาจจึงอยากเห็นอะไรที่แรงได้กว่านี้อีกหรือสะใจกว่านี้อีก ก็เท่านั้น
ดูเหมือนว่าในปีนี้ ซีรีส์เกาหลีจะส่งเรื่องราวที่ฉายภาพนักแสดงนำชายมาในโหมดร้ายสายดาร์กมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับซีรีส์ the devil judge นักแสดง ก็ได้นักแสดงฝีมือคุณภาพอย่าง จีซอง มารับบทบ ‘คังโยฮัน’ ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ผู้พิพากษาปีศาจ’ ซึ่งตัวตนของเขาทำเอาคนดูอย่างเรา ๆ คาดเดาทางไม่ถูก และสับสนในการกระทำของเขาอย่างสมบูรณ์ เพราะในเรื่องจะเห็นว่าตัวละครนี้ทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจศีลธรรมอันดีงามอะไรทั้งนั้น ซึ่งการตัดสินใจ การวางแผนล่วงหน้า และการพลิกกลับมามีไพ่เหนือศัตรูของเฮียแก บอกเลยว่าทำเอาพีคและอึ้งไปตาม ๆ กันในทุกตอนแน่นอน
the devil judge รีวิวหนัง ซีรีส์เรื่องนี้ออกแนวดาร์กหรือวายไหมมาดูกัน
the devil judge วายไหม เป็นซีรีส์แนวดาร์กฮีโร่แฝงแนวคิดจิตวิทยาและความลึกลับ ที่หยิบเอากฎหมายและการเมืองมาตีแผ่ได้อย่างดุเดือด ผ่านประเทศเกาหลีที่กำลังฉายภาพสังคมซึ่งก้าวเข้าสู่ยุคดิสโทเปียที่มีจุดเริ่มต้นจากการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัส หลังจากสามารถเอาชนะการระบาดมาได้ แทนที่ประเทศจะกลับมายิ่งใหญอีกครั้ง แต่สภาพสังคมและเศรษฐกิจของประเทศกลับล้มครืนพังพินาศไม่เป็นท่า ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนเพิ่มมากขึ้นจนเกิดสภาวะความเหลื่อมล้ำแบบสุดโต่ง จนประชาชนลุกฮือ ก่อจลาจลทั่วทุกมุมเมืองเพื่อเอาชีวิตรอด เกิดอาชญากรรมลักวิ่งชิงปล้นไม่เว้นวัน ส่งผลให้ประชาชนต้องอยู่กันแบบไร้ความปลอดภัยในชีวิต คนตกงานกันครึ่งประเทศไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ บริษัทน้อยใหญ่ต่างทยอยกันล้มละลาย ประชาชนหมดศรัทธาในกฎหมายและรัฐบาล และกลายเป็นประเทศที่ก้าวขาเข้าสู่ความดำมืดอย่างเต็มรูปแบบ
แม้สภาพประเทศจะพังพินาศขนาดไหนแต่ยังไม่วายหลงเหลือกลุ่มผู้มีอำนาจที่วัน ๆ เอาแต่คิดถึงแต่ผลประโยชน์และเงินทองส่วนตัวเป็นหลัก เอื้อทุกอย่างให้กับพวกพ้อง และพร้อมจะกำจัดและสลัดประชาชนที่ถูกมองเป็นมดตัวเล็ก ๆ ได้ทุกเมื่อ นี่คือสภาพประเทศเกาหลีในจินตนาการที่แสนเลวร้ายที่เราจะได้เห็นในซีรีส์เรื่องนี้
เคมีที่เข้าขากันของเหล่านักแสดงนำ the devil judge
ทุกคนต้องไม่คาดคิดแน่ว่าซีรีส์ดาร์กฮีโร่ที่หยิบเอากฎหมายและการเมืองมาตีแผ่ได้อย่างดุเดือด จะมีกลิ่นอาย Bromance แบบนี้ 555555555 บอกเลยว่าฟินถึงขั้นจิกหมอนเลยทีเดียว เคมีของเฮียจีซองและจินยองเป็นอะไรที่เกินต้านมาก แม้คุณจะไม่มองเป็นวายแต่ฟีลมันก็ชวนให้คุณคิดในใจแว่บนึงแหละว่า นี่สรุปสองคนนี้คู่กันใช่ไหม ยังไงไหนเล่า!? อีกทั้งไม่ใช่แค่เคมีของนักแสดงนำชายทั้งสอง แต่เคมีของจองซอนอากับตัวละครหญิงคนอื่น ๆ ก็สุดยอดมาก สิ่งนี้จึงทำให้มั่นใจเลยว่าคนเขียนบทและผู้กำกับตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้เคมีระหว่างแต่ละตัวละครส่งถึงคนดูและถูกเล่าออกมาให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี
นี่อาจเป็นซีรีส์ที่เปิดตัวได้ถูกจังหวะเลยก็ว่าได้ แม้จะเป็นเรื่องราวสมมติในโลกดิสโทเปีย (Dystopia) ยุควิกฤตการเมืองและการคอรัปชั่น ส่งผลให้เศรษฐกิจของเกาหลีตกต่ำอย่างมาก จนเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนรวยพ้นผิด-คนจนติดคุก กระแสยุยงปลุกปั่นให้ผู้คนเกลียดชังกันเองในโลกโซเชียลฯ และคนส่วนใหญ่หมดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ถึงเวลาแล้วที่ใครบางคนจะลุกขึ้นมาทวงคืนความเป็นธรรมด้วยวิธีที่แปลกใหม่ในแบบ Reality Show เขาคนนั้นคือ “ผู้พิพากษาปีศาจ” ที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่างไม่แคร์เวิลด์!
The Devil Judge – Pantip เป็นซีรีส์ที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ประกาศรายชื่อนักแสดงนำ อาทิ จีซอง คิมมินจอง พัคจินยอง (Got7) และพัคกยูยอง โดยจีซองสลัดภาพคุณหมอจากซีรีส์ Dr.John มารับบทเป็น ‘คังโยฮัน’ (ผู้พิพากษาปีศาจ) ชายผู้สร้างมิติใหม่ของการพิจารณาคดี ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศเป็นคณะลูกขุน ผ่านการพิจารณาคดีสด (Reality Show) ในศาลจำลองที่ดุเด็ดเผ็ดมันถึงขั้นเน้นความสะใจ เพราะเขาจะลงโทษคนชั่วอย่างสาสม ไม่สนว่าจะรวยล้นฟ้าหรือมีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วใครจะรู้เขาอาจเป็นปีศาจร้ายในคราบผู้พิพากษาก็เป็นได้
แค่เริ่มเรื่องมาก็มีฉากน่าตื่นเต้นให้เราได้ลุ้นและไขปมปริศนากันแล้ว โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินได้อย่างน่าตื่นเต้น มีฉากให้เราได้ลุ้นกันหลากฉากเลยทีเดียว พร้อมทั้งยังมีฉากดราม่าเรียกน้ำตาลของผู้ชมได้เช่นกัน ซึ่งถือได้ว่า ซีรีย์เกาหลีดราม่า เรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องได้อย่างสนใจเป็นอย่างมาก บวกกับฝีมือการแสดงขั้นเทพของเหล่านักแสดงในเรื่องก็ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้น่าติดตาม และไม่ควรพลาดสักตอนเลย ในส่วนของฉากและมุมกล้องที่ใช้ก็ทำออกมาได้ดีและสมจริงเช่นกันเอาละครับหาดูรีวิวเพิ่มเติมจากเว็บ รีวิวหนังดัง ได้อีกมากมาย